กู้ภัยรัสเซียลุยหิมะ ที่บางจุดสูงเกือบครึ่งเมตร เพื่อค้นหาชิ้นส่วนศพและซากเครื่องบินโดยสารที่ตกใกล้กรุงมอสโกเมื่อวันอาทิตย์ ภายหลังทะยานขึ้นจากสนามบินได้ไม่กี่นาที คร่าชีวิตทุกคนบนเครื่อง 71 ศพ เพื่อค้นหาสาเหตุที่ทำให้เครื่องตก

ทีมค้นหาตรวจสอบจุดตกที่เขตราเมนสกี ภาพ กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซียเผยแพร่ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2561 / AFP

    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีกล่าวว่า เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ถือเป็นครั้งเลวร้ายที่สุดของรัสเซียนับจากเดือนมีนาคม 2559 ที่เครื่องบินโดยสารของฟลายดูไบตกขณะยกเลิกการจอดที่สนามบินรอสตอฟ-ออน-ดอน ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตทั้งลำ 62 คน
    เมื่อวันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 หน่วยกู้ภัยยังคงออกค้นหาชิ้นส่วนศพและชิ้นส่วนของเครื่องบินโดยสารอันโตนอฟ อัน-148 ลำนี้ ที่ตกกลางทุ่งที่มีหิมะหนา บางจุดสูงถึงกว่า 40 เซนติเมตร เพิ่มความยากลำบากในการค้นหา บางจุดเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้า และบางจุดต้องใช้สโนว์โมบิล
    เครื่องบินลำนี้ตกในเขตราเมนสกี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 70 กม. เมื่อเวลา 14.28 น.ของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น (18.28 น.วันเดียวกันของไทย) ภายหลังทะยานขึ้นจากสนามบินโดโมเดโดโวนอกกรุงมอสโกได้ไม่กี่นาที บนเครื่องมีผู้โดยสาร 65 คน ลูกเรืออีก 6 คน คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียยืนยันว่า ทุกคนเสียชีวิต
    เที่ยวบินนี้ดำเนินการโดยสายการบินภายในประเทศ ซาราตอฟแอร์ไลน์ กำลังมุ่งหน้าสู่เมืองออร์สก์ในแคว้นโอเรนเบิร์ก ที่อยู่ใกล้ชายแดนคาซัคสถาน
    คณะกรรมการสอบสวนกล่าวด้วยว่า เครื่องบินลำนี้ ซึ่งมีอายุการใช้งานเพียง 8 ปี เกิดระเบิดลุกไหม้หลังจากตกกระแทกพื้น คณะทำงานกำลังตรวจสอบปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงการฝึกของนักบินและสภาพทางเทคนิคของเครื่องบิน
    รายชื่อของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินระบุว่า มีพลเมืองชาวสวิส 1 คน และอาเซอร์ไบจาน 1 คน เสียชีวิตด้วย แม็กซิม โซโคลอฟ รัฐมนตรีคมนาคม เปิดเผยว่า อาจมีพลเมืองคาซัคสถานอีก 1 คน
    ผู้เสียชีวิตยังรวมถึงเด็ก 3 คน คนหนึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ
    พนักงานสอบสวนกล่าวว่า สภาพศพเสียหายหนักมาก จนต้องใช้การตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพื่อระบุเอกลักษณ์บุคคล
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ได้สั่งการให้สอบสวนหาสาเหตุ และได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปยังเมืองโซชี ริมทะเลดำ เพื่อพบปะประธานาธิบดีมะห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ โดยได้เปลี่ยนมาพบกันที่กรุงมอสโกแทน
    กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินกล่าวว่า ชิ้นส่วนของเครื่องบินกระจัดกระจายเป็นพื้นที่กว่า 300,000 ตารางเมตร จะต้องใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้ หิมะที่ตกหนัก และพื้นที่ที่เข้าถึงยากลำบาก ยังเป็นอุปสรรคของการค้นหาด้วย
    สำนักข่าวทาสส์อ้างทีมกู้ภัยว่า ถึงช่วงเที่ยงวันจันทร์ คณะทำงานตรวจพื้นที่แล้ว 80,000 ตารางเมตร และพบชิ้นส่วนศพและชิ้นส่วนเครื่องบินจำนวนมาก
    คณะกรรมการสอบสวนยังพบกล่องดำที่บันทึกข้อมูลการบินแล้ว แต่ยังไม่พบกล่องดำที่บันทึกเสียง ซึ่งจะส่งให้คณะกรรมการการบินระหว่างรัฐ ที่สอบสวนเหตุเครื่องบินตกในภูมิภาคนั้น ตรวจสอบต่อไป
    ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนกล่าวว่า พวกเขาได้ยินเสียงเครื่องบินตกกระแทก หรือไม่ก็รู้สึกถึงแรงระเบิดเมื่อเครื่องตกกระแทกพื้น และเห็นลูกไฟขนาดใหญ่
    เครื่องบินลำนี้ผลิตในยูเครนเมื่อปี 2553 สายการบินซาราตอฟซื้อต่อจากสายการบินรัสเซียอีกแห่งเมื่อ 1 ปีก่อน สายการบินนี้ได้ระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้แล้ว ซาราตอฟแอร์ไลน์เริ่มก่อตั้งในทศวรรษ 1930 และบริการเที่ยวบินใน 35 เมืองของรัสเซีย
    ผู้ว่าการแคว้นโอเรนเบิร์ก ที่เป็นจุดหมายของเที่ยวบินนี้และมีผู้โดยสารเป็นคนพื้นที่นั้นเป็นส่วนใหญ่ ประกาศไว้อาลัย 1 วันในวันจันทร์ โดยให้ลดธงและยกเลิกงานรื่นเริง.