20ก.พ.62-นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่าพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2562 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. 2562 เป็นต้นไป โดยมีสาระสำคัญ คือ เพิ่มองค์ประกอบคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ 8 คน คือ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สภาการแพทย์แผนไทย แพทยสภา และสภาเภสัชกรรม ห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองยาเสพติดในประเภท 5 เว้นแต่ได้รับอนุญาตในกรณีประโยชน์ทางราชการ การแพทย์ การศึกษาวิจัย รวมถึงเกษตรกรรม พาณิชยกรรม วิทยาศาสตร์ หรืออุตสาหกรรมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ผู้ขออนุญาต เช่น หน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบวิชาชีพ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ภายใต้ความร่วมมือกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ หรือมหาวิทยาลัยเอกชน ผู้ประกอบวิชาชีพ ได้แก่ เวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม การสัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง แพทย์แผนไทย แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพื้นบ้านตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดเสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เว้นแต่เสพเพื่อรักษาโรคและการศึกษาวิจัย ตามบทเฉพาะกาลของ พ.ร.บ. มาตรา 22 กำหนดให้ผู้ครอบครองยาเสพติดในประเภท 5 เฉพาะกัญชา ก่อนวันที่ พ.ร.บ. มีผลใช้บังคับ ให้ไม่ต้องรับโทษหากดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ อย. และหลายหน่วยงานได้เตรียมการรองรับพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 โดย จัดทำร่างอนุบัญญัติ เพื่อรองรับพระราชบัญญัติฯ ฉบับใหม่ เช่น ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข กรณีการครอบครองกัญชาก่อน พ.ร.บ. มีผลบังคับใช้ ไม่ต้องรับโทษ สำหรับบุคคล 3 กลุ่ม คือ ผู้มีคุณสมบัติตามกฎหมายใหม่ ผู้ป่วย และบุคคลอื่น ร่างประกาศฯ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทย และหมอพื้นบ้าน และร่างประกาศฯ กำหนดตำรับยาที่ให้เสพเพื่อรักษาโรคและศึกษาวิจัยได้ เป็นต้น รวมทั้งร่างกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาต ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งร่างประกาศฯ และร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ได้ผ่านคณะอนุกรรมการและคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษแล้ว โดยจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 แล้วจะนำเสนอคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ซึ่งเป็นคณะกรรมการตามพ.ร.บ.ยาเสพติดฉบับใหม่อีกครั้งในวันที่ 22 ก.พ. 2562
ทั้งนี้ อย.จะประชุมหารือเพื่อทำความเข้าใจและเตรียมการกับจังหวัด โดยประชุมทางไกล ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 นี้
เลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเตรียมการอื่น ๆ ทางกรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะมีการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรม ผู้ประกอบการวิชาชีพเวชกรรม ทันตกรรม แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้าน เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ รวมทั้งได้เตรียมการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพ และหมอพื้นบ้านที่ผ่านการอบรม ในส่วนของ อย. ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางระบบการผลิต เช่น ปลูก สกัดผลิตภัณฑ์ การตรวจวิเคราะห์คุณภาพมาตรฐานของพืชกัญชาและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |