สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา 2562 พสกนิกรปลื้มปีติได้ชื่นชมพระบารมี ฟังธรรมเทศนาโอวาทปาติโมกข์เนืองแน่นวัดพระแก้ว นายกฯ ปลูกหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ ถวายพระราชกุศล ร.9 ถวายพระพรชัยมงคล ร.10  ชวนพุทธศาสนิกชนทำดี-ละเว้นความชั่ว 
    เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เวลา 14.17 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2562 ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ภายในพระบรมมหาราชวัง  
    เมื่อเสด็จฯ เข้าพระอุโบสถ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงยืนหน้าพระเก้าอี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงจุดเทียนรุ่ง และธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และพระสัมพุทธพรรณี แล้วทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์และพระพุทธเลิศหล้านภาไลย  จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ ผู้อำนวยการกองพระราชพิธีเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเทียนชนวน ทรงหยิบเทียนชนวนจุดไฟที่โคมไฟฟ้าซึ่งเจ้าพนักงานพระราชพิธีถือถวาย แล้วพระราชทานเทียนชนวนที่ทรงจุดให้ผู้อำนวยการกองพระราชพิธีเชิญไปถวายเจ้าอาวาสพระอารามหลวง จุดเทียนรุ่งที่ทรงพระราชอุทิศพระราชทาน 5 พระอาราม พระสงฆ์ 30 รูปเจริญพระพุทธมนต์
    จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงโปรยดอกมะลิที่ธรรมาสน์ศิลา ประทับพระราชอาสน์ ทรงจุดเทียนดูหนังสือ เทศน์พระราชทานเจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่ธรรมาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล 
    ในการนี้ พระเทพสังวรญาณ วัดบวรนิเวศวิหาร  ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง "โอวาทปาติโมกข์คาถา" ใจความตอนหนึ่งว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งเป็นหลักคำสอน คือการไม่ทำชั่วทั้งปวง ทำกุศลให้ถึงพร้อม และทำใจให้บริสุทธิ์ ที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาแก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก การไม่ทำบาปทั้งปวงนั้น รวมถึงการไม่ทำบาปทั้งกาย วาจา ใจ ได้ตรัสสอนว่า หากท่านทั้งหลายกลัวความทุกข์ความเดือดร้อนต่างๆ ท่านอย่าได้ทำบาปทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ดั่งคำตรัสเตือนไว้ว่า "อันความชั่วไม่ทำเสียดีกว่า" การทำกุศลให้ถึงพร้อมมี 3 องก์ ได้แก่ การให้ทานต้องมีเจตนาดี ผู้ให้ต้องมีเจตนาดีครบถ้วน และผู้รับต้องเป็นคนดีมีคุณธรรม ย่อมมีอานิสงส์มาก และทรงสอนไว้หากบุคคลทำบุญไซร้ก็ควรทำบ่อยๆ เพราะการสั่งสมบุญจะนำความสุขมาให้
    เมื่อพระเทพสังวรญาณถวายพระธรรมเทศนา จบแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก พระเทพสังวรญาณถวายอนุโมทนาบนธรรมาสน์ จบ ลงมานั่งยังอาสน์สงฆ์
    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระเทศน์ แล้วทรงยืนประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ซึ่งจะเดินเข้าไปรับจนหมด จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์ถวายอดิเรก จบแล้ว พระสงฆ์ออกจากพระอุโบสถ เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการทองใหญ่ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ เสด็จออกจากพระอุโบสถ เสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินกลับ
    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ว่าแม้จะมีสภาพอากาศร้อนจัด แต่มีประชาชนจำนวนมาก ส่วนใหญ่แต่งกายด้วยเสื้อสีเหลืองและขาว มาจับจองพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้บริเวณริมเส้นทางเสด็จพระดำเนินเข้าพระอุโบสถ อีกทั้งยังพร้อมใจกันเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" อย่างกึกก้อง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแย้มพระสรวล พสกนิกรปลื้มปีติได้ชื่นชมพระบารมี
    ที่วัดวชิรธรรมาราม อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 09.09 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานประกอบพิธีปลูกหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ โดยมีนายกามินี ชยวิกรมะ เปเรรา รมว.พุทธศาสนาและการพัฒนาจังหวัดวาแยมบา ในฐานะผู้แทนพิเศษของนายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ร่วมประกอบพิธี มีสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีคณะสงฆ์ของไทยและศรีลังการ่วมเจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลคาถา โดยมีรัฐมนตรีและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพุทธศาสนิกชนร่วมเป็นสักขีพยาน
    สำหรับหน่อต้นพระศรีมหาโพธิดังกล่าวมาจากต้นพระศรีมหาโพธิเมืองอนุราธปุระของศรีลังกา ซึ่งเป็นต้นที่มีอายุยืนยาวที่สุดที่สืบสายพันธุ์จากต้นพระศรีมหาโพธิต้นที่หนึ่งที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ขณะตรัสรู้ที่เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย โดยได้รับการอัญเชิญไปยังศรีลังกาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 3 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณรัฐบาลศรีลังกา ในโอกาสมอบหน่อโพธิ์ที่อัญเชิญและเป็นสิริมงคลแก่รัฐบาลไทย ซึ่งเป็นของขวัญล้ำค่าที่เราได้รับจากประเทศศรีลังกาที่เป็นมิตรประเทศที่รักและใกล้ชิด เพื่อน้อมรำลึกและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนเพื่อความผาสุกและมั่งคั่งของประเทศและประชาชนชาวไทย และในวันมาฆบูชา ขอให้ทุกคนน้อมรำลึกในพระพุทธคุณ พระเมตตาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต ปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคมไทยและสังคมโลกต่อไป 
    จากนั้น นายกฯ มอบพระพุทธรูป พระพุทธมงคลบพิตร วัดพนัญเชิงฯ ให้ผู้แทนประเทศศรีลังกา ขณะที่ฝ่ายศรีลังกามอบกระถางธูปทำจากเงินเป็นที่ระลึก เมื่อจบพิธีนายกฯ พร้อมคณะเดินทางไปสักการะพระพุทธเมตตาเสนานาถ ภายในวิหารพระพุทธเมตตาเสนานาถ 
    ทั้งนี้ นายกฯ ได้มีคำกล่าวเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2562 ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมใจปฏิบัติบูชาพระรัตนตรัย ด้วยการทำบุญ ตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา เวียนเทียน กระทำความดี ละเว้นความชั่ว เพื่อความสุข ความเจริญ ความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองพร้อมทั้งครอบครัว และร่วมกันสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่คู่สังคมไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป
    ขณะที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในช่วงเช้าประชาชนต่างพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดสีขาว ทำบุญตักบาตรเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2562 เช่น จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำชาวขอนแก่นนุ่งขาวห่มขาวร่วมกันประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่เจ้ากรรมนายเวร พร้อมร่วมกันนำอาหาร เครื่องดื่ม ปัจจัยไทยทานตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล 
    ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช มีบรรดาพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศจากทั่วสารทิศ เดินทางมากราบไหว้และแห่ผ้าขึ้นธาตุองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชจนแน่นวัดตลอดทั้งวันอย่างคึกคัก 
     ที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พระอารามหลวง จ.ลำปาง คณะสงฆ์จังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง จัดกิจกรรม “วันแห่งความรักทางธรรม” นำพุทธศาสนิกชนทำบุญตักบาตรสร้างกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2562.