Slow life ...ใช่ว่าล้าหลัง!!


เพิ่มเพื่อน    

      ไม่แปลกใจที่ผู้คนในช่วงเวลาเร่งรีบ หรือ Rush hour จะตั้งหน้าตั้งตาเดินหรือไม่ก็วิ่งแข่งกัน เพราะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับนาฬิกาชีวิตการทำงานบ้าง การไปเรียนหนังสือบ้าง เป็นตัวกำหนด

      แต่สำหรับมนุษย์ป้าหรือคนวัยเกษียณ หากยังไม่ลดดีกรีความเร่งรีบในชีวิตประจำวันนี่สิ!! มันน่าสงสัยจริงๆ ว่า จะรีบไปไหนจ๊ะ?!? เพราะอย่างน้อยที่สุด ปัจจัยของอายุก็ถือเป็น "ตัวช่วย" ให้เราสามารถใช้ชีวิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ชะลอตัวเองไม่ให้ไหลไปตามกระแส หรือทิศทางที่สังคมขีดเส้นไว้ได้นี่นา   

      เวลาเห็นมนุษย์ลุงมนุษย์ป้าวัยเกษียณเร่งรีบ แล้วสะดุดขาตัวเองบ้าง หรือเซทำท่าจะล้ม บอกตามตรงว่า เสียวค่ะ และนึกโมโหในใจว่า หากแข้งขาหักหรือเดี้ยง อาจจะไม่มีโอกาสเดินอีกต่อไป สู้เดินช้าๆ แล้วได้เดินนานๆ ไม่ดีกว่าหรือ???

      อยากชวนให้ลองใช้ชีวิตแบบ Slow life บ้างค่ะ

      Carl Honoré นักเขียนชาวแคนาดา ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อการใช้ชีวิตแบบ Slow life ได้ทำความเข้าใจว่า การใช้ชีวิตแบบ Slow life ไม่ได้หมายความว่าเราใช้ชีวิตอย่างช้าๆ แล้วจะกลายเป็นคนล้าหลังหรือดูว่าเป็นคนทึ่ม ไม่น่าจะทันกิน เพราะใครกันล่ะที่บอกว่า หากเราใช้ชีวิตแข่งกับเวลา ต้องแซงหน้าทุกๆ คน แล้วชีวิตจะดีกว่า ทั้งที่จริงแล้วชีวิตที่เร่งรีบอย่างที่เคยทำมาตลอดส่งผลในด้าน­­ลบกับเราหลายอย่าง เช่น ระบบการทำงานของร่างกายถูกบังคับให้ทำงานหนักกว่าเดิม หรือยิ่งรีบยิ่งพลาดอะไรดีๆ ในชีวิตไปไม่น้อย ดังนั้นหากเราใช้ชีวิตในทุกๆ ย่างก้าวอย่างละเมียดละไมที่สุด ชีวิตก็น่าจะได้อะไรที่มากกว่า

      ทว่าการใช้ชีวิตแบบ Slow life ก็ไม่ได้บอกให้ช้ากับทุกสิ่ง แต่เป็นการสร้างสมดุลแห่งช่วงเวลาในชีวิตอย่างเหมาะสม อาจมีบ้างที่ชีวิตต้องการความเร่งด่วน แต่ถึงอย่างไรความเร่งด่วนคงไม่ได้จำเป็นกับชีวิตเสมอไปหรอกใช่­­ไหม ฉะนั้นสิ่งไหนควรรีบให้รีบ สิ่งไหนช้าได้ก็อย่าเร่งตัวเอง

      โดยเฉพาะวัยเกษียณ คุณจะได้ใช้โอกาสนี้มีเวลาให้กับตัวเอง ดูแลสุขภาพมากขึ้น ออกกำลังกาย

      ส่วนวัยรุ่นที่คิดว่า Slow life คือการไปนั่งชิลๆ จิบกาแฟในร้านหรูๆ ล่ะก็ ขอให้คิดใหม่นะคะ เพราะการใช้จ่ายที่เกินตัว ย่อมหมายถึงคุณต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินมาใช้ชีวิตหรูๆ หรือบางคนยังเรียนหนังสือ หากนิยามคำว่า  Slow life แบบไปเช็กอินตามร้านชิกๆ ย่อมส่งผลให้พ่อแม่เครียดมากขึ้นหรือเปล่า เพราะต้องหารายได้เพื่อสนองการใช้จ่ายของลูกๆ

      ลองดูนะคะ แล้วคุณจะยิ้มกับเหตุการณ์ และชีวิตรอบตัวเองได้ตลอดเวลาค่ะ. 

                             

                                                              "ป้าเอง"

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"