'เพราะกองทัพขวางทาง?'


เพิ่มเพื่อน    

    ผบ.ทบ. "พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์" บอกให้ฟังเพลง "หนักแผ่นดิน" เมื่อวาน (๑๘ ก.พ.๖๒)
    นั่น เหมือนถอดรองเท้าเขวี้ยงเข้าไปในพุ่มไม้
    ฝูงสัตว์สายพันธุ์ "ชังชาติ"
    กรูออกมาแย่งทึ้ง-แทะ!
    เป็น "ชังชาติ" ตระกูล "แดงทั้งแผ่นดิน ระบอบทักษิณสถาปนา" ประเภท "สวนสัตว์เปิด" อดีตอธิการฯ เฒ่าหลงเพศ ก็ยังร่วมโหย
    เป้าหมายหลักของมัน "เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน"
    ตามยุทธศาสตร์......
    "อำนาจบริหาร" เป็นแค่ "ทางผ่าน" ไปสู่ปฏิบัติการสุดยอด คือ
    ล้ม "สถาบัน"
    แล้ว "สถาปนาตัวเอง"
    ซึ่งเคย "ตีตนเสมอเจ้า" ให้ปรากฏมาครั้ง ที่วัดพระแก้ว ปี ๒๕๔๘ และพังไม่เป็นท่า
    แทนที่จะสำนึก และ "เลิกคิด-เลิกทำ" เช่นนั้น กลับเหิมเกริมฝังเขี้ยว ด้วยแค้นและผยองตน
    ใช้ทั้งเล่ห์-ทั้งกล ผสมอำนาจรัฐ อำนาจเงิน กัดเซาะ ซื้อคนในองค์กร สถาบัน และในระบบรัฐ ให้อยู่ในอาณัติอำนาจตน
    ฉะนั้น จึงอยากบอกว่า.........
    วาทกรรมทหารมีไว้ทำไมก็ดี, เลิกระบบเกณฑ์ทหารก็ดี, ไม่จำเป็นต้องซื้ออาวุธก็ดี, งบกลาโหมต้องตัดทิ้งก็ดี
    ล้วนเป็น "ชุดความคิด" ที่เขาสร้างขึ้น 
    ควบคู่เน้น "ภาพ-เรื่องราว-ข่าวสาร" ด้านลบกองทัพ ตัวบุคคลในกองทัพ โหมผ่านช่องทางสื่อสารสู่สังคมเป็นนโยบายหลัก
    มีหน่วยจ้องจับผิดบุคคลในกองทัพ เรื่องจากทหารนอกแถว การฝึกทหารเกณฑ์โหด ความไม่ชอบมาพากลเรื่องงบ และ ฯลฯ จะถูกขยายเป็นเรื่องใหญ่
    นี่เป็นปฏิบัติการตามแผน "น้ำหยดลงหิน"
    ให้เรื่องราวด้านลบค่อยๆ ซึมเข้าไปในความรู้สึกชาวบ้านเรื่อยๆ และนั่น..บ่อยเข้า..ถี่เข้า..ไม่ว่าเรื่องจริง เรื่องเท็จ 
    ทัศนคติต่อทหาร-ต่อกองทัพ ของชาวบ้าน ที่ซึมซับมาเรื่อยๆ จะค่อยๆ เปลี่ยนเองโดยอัตโนมัติ 
    จากรัก เป็นเกลียด จากชอบ เป็นชัง จากเฉยๆ เป็นหวาดระแวง
    สุดท้าย ที่เขาจะต้องเร่งเร้าไปถึง คือ การแปรสภาพ ความเกลียด-หวาดระแวง ต่อทหารและกองทัพ
    ให้ไปถึงจุด.......
    เห็นกองทัพเป็นปฏิปักษ์และเป็นส่วนเกินของสังคมชาติ กระเหี้ยนกระหือรือ พร้อมลุกฮือขึ้นต่อต้าน 
    และนั่น คือ ความสำเร็จ จากน้ำที่เขาพยายามหยดลงหินมาร่วม ๒ ทศวรรษ 
    ก็มาถึงคำถาม เคยฉุกคิดกันมั้ย ว่าทำไมเทรนด์คนรุ่นใหม่ ต้องชังชาติ-ชังทหาร?
    ทำไมพวกนักเลือกตั้ง หาจุดเด่น-จุดขายไม่ได้ ต้องชูบท ชังทหารและด่าทหาร?
    บางส่วน บอก มันเท่ เห่อตาม เพื่อไม่ตกเทรนด์น่ะ
    บางพวกก็ว่า ด่าทหาร-ด่ากองทัพ มันขายได้ อย่างน้อย พวกสื่อก็งับ นำไปขยายผล!
    แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป ก็จะเห็น บางพวก ไม่มีเป้าหมายอื่นซ่อนเร้น 
    หากแต่ เป็นผลพวงจาก.......
    ซึมซับข่าวสาร "น้ำหยดลงหิน" ที่สร้างลบให้กองทัพ จากขบวนการ "เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน" สั่งสมมา ๒๐ ปีนั่นแหละ 
    และอย่างที่บอก 
    อำนาจบริหาร นั่นแค่ทางผ่านใน "ด่านแรก" เท่านั้น
    "ทหาร-กองทัพ" ก็แค่ทางผ่าน "ด่านที่สอง"
    ตอนนี้ ประเทศสู่การเลือกตั้ง ๒๔ มีนา ๖๒ ขบวนการที่ซ่อนหน้าในรูปพรรคการเมือง 
    หมายมั่น ว่าพรรคในขบวนการของเขา น่าจะกรีธาเข้าประตูแรกสู่อำนาจบริหารได้
    ในความคิดเขา "ด่านแรก" ไม่ยากเกินไปถึง
    ด่านที่สอง คือ "กองทัพ" นี่ซี ต้องบากให้เป็นรอยไว้ เพื่อง่ายต่อการโค่น
    จึงไม่แปลก ที่ขบวนการตระกูลเพื่อ จะใช้ยุทธวิธีทดสอบ "ท่าที" กองทัพผ่านกระดานหมากหาเสียงเลือกตั้ง
    หยั่งความเป็นเอกภาพ ความพร้อมในแผน และเชิงชั้นปัญญา-สมาธิ ระดับผู้นำทัพ 
    ต้องการให้ขยับ........
    เพื่อจ้องจับ "ช่องโหว่-จุดอ่อน" ในบทประเมินกองทัพ
    ถ้าทะลวงกองทัพได้......
    "สถาบัน" เป้าหมายที่มุ่งมั่นไปถึง ก็เหมือนไม้ใหญ่ เมื่อลอกเปลือกห่อหุ้มลำต้นได้ ไม้ใหญ่ก็จะยืนต้นตายในที่สุด!
    ถามว่า ชาตินี้ มันจะทำสำเร็จมั้ย?
    ผมอยากให้อ่านนี่ มีคำตอบอยู่ในตัว..........
    Somkiat Osotsapa
    อนาคตความวุ่นวายของประเทศไทยหลังเลือกตั้ง
    พรรคพวกมาจากต่างประเทศ รู้จักกันมานานตั้งแต่ผมทำหกเหลี่ยมเศรษฐกิจ บอกได้เลยว่าแก่ มาชวนไปคุย
    เวลาผมอยากรู้เรื่องประเทศเขา ก็ชวนมาคุย เตรียมประเด็นไป คุยกันไม่นาน ก็เข้าใจ 
    รุ่นเก๋า เห็นอะไรมาเยอะ ไม่พูดยาวแบบนักวิชาการในสัมมนา
    และคนพวกนี้ ก็ไม่ใช่คนชอบพูดสัมมนา ไม่ค่อยชอบไปด้วย
    แยกคำถามได้ว่า "เมืองไทยจะวุ่นวายไหม?"
    ผมบอกว่า.......
    หลังเลือกตั้ง และมีพระราชพิธีเปิดสภาผู้แทนราษฎร ราววันที่ 15 มิถุนายน ตามรัฐธรรมนูญ 
    เลือกนายกฯ เสร็จ ทุกอย่างจะเรียบร้อย ราวเดือนกรกฎาคม
    เมื่อจัดตั้ง ครม.เรียบร้อยตอนนั้น
    ประเทศไทยยุคนี้ จะทำงานตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 10 คือ 
    ทำให้ประชาชนมีความสุข ประชาชนมีทางออก และประชาชนต้องเคารพกฎหมาย มีระเบียบวินัย
    รัฐบาลใหม่ จะเข้ารับตำแหน่งภายหลัง "พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช" เริ่มยุคใหม่
    จะไม่มีทหารแตกแถว วิ่งไปรับใช้พรรคการเมืองเหมือนในอดีต ความมั่นคงจึงเรียบร้อย 
    ไม่เหมือนตอนปี 2556-2557 ที่ตีกันในพระนคร เพราะทหารขึ้นกับนักการเมือง ทหารแยกฝ่าย
    จะไม่มีตำรวจแตงโม ตำรวจฟักทอง มีระบบบัญชาการที่ชัดเจน 
    นักการเมืองมายุ่งสร้างฐานการเมืองไม่ได้
    จะไม่มีตำรวจคุมแก๊ง คุมมาเฟีย หรือไปเชื่อมโยงกับต่างชาติ มีสิทธิถูกไล่ออกง่ายมาก ทหารก็เหมือนกัน
    หากนักการเมืองไม่ไปจุ้นกับทหาร ตำรวจ เรื่องก็ไม่เกิด
    ผมคิดว่า จะตกลงร่วมกันในรัฐบาลผสม ว่างานด้านความมั่นคง เช่น กลาโหม ต่างประเทศ  มหาดไทย ข่าวกรอง สมช.ถือเป็นงานสำคัญช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานของโลก
    และป้องกันการล้ำเส้นกันเช่นในอดีต ต้องบริหารโดยมืออาชีพ
    ความสำคัญอยู่ที่การแบ่งงานกันทำ ว่าใครมีหน้าที่และเหมาะสมจะทำอะไร
    ก็มีคำถามว่า แล้วสาย นปช.เก่า จะกลับมาไหม ผมบอกว่า ดูจากรายชื่อที่พรรคจัดให้ คงไม่ได้เป็นรัฐมนตรี และคงตกลงกันว่า 
    จะไม่ให้เข้ามายุ่งในงานความมั่นคงเหมือนสมัยก่อน ล้ำเส้นกันมาก จนเละ
    พรรคเขาก็คงคิดไว้แล้ว ว่าเอาเข้ามาวุ่น จะยุ่งเหมือนครั้งที่แล้ว
    แล้วกลุ่มต่างๆ ในจังหวัดล่ะ คำตอบคือ ถอยหมดแล้ว หรือไม่ก็ต้องย้ายไปต่างประเทศ
    แบบที่จะปลุกระดม เปิดวิทยุชุมชน สร้างม็อบนั้นยาก เพราะกฎหมายที่มีความไม่ชัดเจนในอดีตนั้นเคลียร์หมดแล้ว
    ประเทศไทยก็มี learning curve เหมือนกัน
    หนังสือพิมพ์ยุทธศาสตร์การทหารต่างประเทศ บอกว่า 
    ประเทศไทยจัดระบบการบริหารทหาร-ตำรวจ ต่างจากยุคก่อนมาก นักการเมืองจะทำแบบก่อนไม่ได้
    มีหน่วยข่าว หน่วยวิจัย หน่วยพิเศษ ดูแลสถานการณ์ กำกับความมั่นคงทุกพื้นที่อีกชั้น ชั้นพิเศษ
    มี ปปช.จังหวัด มี ปปท. มีกฎหมายความมั่นคง มีผู้ดูแลมากมาย
    คงดูแล NGO ด้วย โดยเฉพาะจากนอกประเทศ
    ดังนั้น ประเทศไทยจะไม่วุ่นวายเหมือนยุคก่อน รัฐบาลก็ทำงานสะดวก
    ไม่มีมาตรา 44 ก็เอาอยู่ 
    ไม่มีสงครามกลางเมืองแน่นอน
    เพื่อนของผม ถามว่า หากพรรคการเมืองไม่ยอม จะทำอย่างไร?
    ก็คงเลือกตั้งกันใหม่
    แต่ทุกคนรักชาติกันทั้งนั้นแหละ ตอนนี้แก่ เหี่ยวเหมือนพวกยูเลย
    ผมก็พูดไปตามที่คิด ดูแล้ว ตามแนวคุณฟองสนานแน่นอน
    จบตอนหนึ่ง
    ได้ตามนี้ รัฐบาลอยู่ได้นาน และไม่วุ่น
    ยกเว้นอยากวุ่น
    ต้องจัดการข่าวปล่อย ข่าวลวงให้ดี ไม่งั้นวุ่นเหมือนในประเทศอื่นๆ
    พรรคพวกผมฟังแล้ว บอกว่าประเทศไทยมั่นคงแน่นอน
    เขาบอกว่า ประเทศของเขา จัดอบรมเรื่องความมั่นคงให้นักการเมืองเป็นสัปดาห์
    พรรคคอมมิวนิสต์ จัดเอง น่าจะส่งไปเข้าค่ายต่างประเทศ
    ที่พูดมาทั้งหมด ผมเดาเอาทั้งนั้นเลย
    แต่ แน่นอน
    มีวินัย เคารพกฎหมาย ประเทศสงบ ไม่วุ่นวาย 
    ประชาชนมีความสุข มีทางออก
    ผมเชื่อในพระบารมีของพระองค์ท่านครับ.
    อย่าอ่านเอาสนุก
    "คิดตาม" แต่ละบรรทัด "จะแจ้ง"!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"