สศช.เผยจีดีพีไตรมาส 4/61 เพิ่มขึ้น 3.7% รวมตลอดปีขยายตัว 4.1% น้อยกว่าคาดการณ์เดิม ฟุ้งขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี คาดปี 62 โต 3.5-4.5% ค่ากลาง 4% ลุ้นตัวเลขใหม่หลังเลือกตั้ง เชื่อส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการบริโภคให้กลับมาได้ ด้าน "สมคิด" พอใจตัวเลขจีดีพีแม้เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี
เมื่อวันจันทร์ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2561 เพิ่มขึ้น 3.7% เร่งตัวจากการขยายตัว 3.2% ในไตรมาสก่อนหน้า รวมตลอดปี 2561 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 4.1% ต่ำกว่าที่คาดการณ์จะเติบโต 4.2% แต่เร่งขึ้นจากการขยายตัว 4% ในปี 2560 และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 7.7% การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 4.6% การลงทุนขยายตัว 3.8%
นายทศพรกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปี 2562 คาดว่าจะขยายตัว 3.5-4.5% ค่ากลาง 4% โดยมีแรงหนุนจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์ดี การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 4.2% การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวจีนและยุโรปจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในไตรมาส 1/2562 คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยปีนี้ 41 ล้านคน รายได้ท่องเที่ยว 2.24 ล้านล้านบาท
สำหรับมูลค่าการส่งออกในปีนี้คาดว่าขยายตัว 4.1% เป็นการปรับลดลงจากการขยายตัว 4.6% ในประมาณการครั้งก่อน เนื่องจากการค้าโลกชะลอตัว เหลือเติบโต 3.8% และผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน รวมทั้งการปรับลดสมมุติฐานราคาสินค้าส่งออกจาก 1-2% เป็น 0.5-1.5% ตามการปรับลดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ที่ 67-68 ดอลลาร์
"สภาพัฒน์ยังยืนยันจีดีพีปีนี้ไว้ที่ 4% ไปก่อน เพราะต้องรอให้มีปัจจัยที่ชัดเจน โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน รวมทั้งการเลือกตั้งภายในประเทศที่ยังไม่ทราบผล ซึ่งหลังจากวันที่ 24 มี.ค.ไปแล้วน่าจะเห็นความชัดเจน เพราะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ตลอดจนการลงทุนและการบริโภคให้กลับมาได้ในระดับที่เราคาดหมาย ส่วนปัจจัยทางการเมืองมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เพราะนักลงทุนต่างประเทศต้องการเห็นความนิ่งและความชัดเจนในเชิงนโยบาย ซึ่งเมื่อ 2 ปัจจัยนี้ชัดเจนเราถึงจะปรับประมาณการจีดีพีใหม่อีกครั้ง" นายทศพรกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะที่คาดว่าการลงทุนโดยรวมขยายตัวที่ 5.1% ทั้งการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 4.7% ลงทุนภาครัฐขยายตัว 6.2% จากความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐ ซึ่งมีโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพิ่มขึ้น 137.4% และการย้ายฐานการผลิตของบริษัทต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาในปีนี้คือ เศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ และความผันผวนในระบบเศรษกิจและการเงินโลก บรรยากาศทางการเมืองและทิศทางนโยบายของรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง ยังไม่สามารถประเมินทิศทางการเมืองหลังเลือกตั้งได้ โดยเป็นห่วงว่าการจัดทำงบประมาณปี 2563 อาจมีความเสี่ยงล่าช้า ซึ่งอาจไม่ทัน 1 ต.ค.62 ดังนั้นการอนุมัติงบประมาณโครงการลงทุนจะล่าช้าไปด้วย จะกระทบทำให้แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4/62 อาจลดลงตาม
ด้านนายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แจ้งในที่ประชุม ครม.กรณี สศช. ประกาศตัวเลขจีดีพีในปี 2561 ขยายตัว 4.1% ว่านับเป็นระดับการขยายตัวที่น่าพอใจ แม้เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี แต่จีดีพีของไทยขยับเพิ่มขึ้นมาได้ และนับว่าจีดีพีได้ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจากช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม รองนายกฯ ยอมรับว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ยังมีมรสุมเศรษฐกิจจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทุกหน่วยงานช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อสร้างเศรษฐกิจในประเทศให้เข้มแข็ง ยอมรับว่าการเบิกจ่ายงบประมาณหลายหน่วยงานอาจไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่หากหน่วยงานขอลดเป้าหมายเบิกจ่ายต้องไปวัด KPI เพื่อควบคุมการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของ สศช.ปี 2561 ขยายตัวได้ 4.1% และคาดว่าปี 2562 จะขยายตัวได้ 4% โดยมีช่วงการขยายตัวอยู่ที่ 3.5-4.5% ตรงกับที่กระทรวงการคลังประมาณการไว้ล่าสุดเมื่อปลายเดือน ม.ค.62
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะได้รับการขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก ทั้งการใช้จ่ายภาครัฐ การกระตุ้นให้ภาคเอกชนเร่งลงทุน ขณะที่การบริโภคในประเทศก็ยังขยายตัวได้ดี รวมถึงการท่องเที่ยวก็ยังขยายตัวได้ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา
สำหรับการส่งออกนั้น กระทรวงการคลังคาดว่าจะขยายตัวได้ 4% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวรวมกับผลกระทบจากสงครามการค้า แต่ก็ถือว่ายังขยายตัวได้ในระดับสูง รวมถึงปัจจัยการเลือกตั้งในปีนี้ไม่กระทบการขยายตัวเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลยังมีอำนาจเต็มในการทำงาน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |