ในพื้นที่ภาคใต้ ว่ากันว่าแต่เดิมแค่เอาชื่อติดไว้บนเสาไฟฟ้าพะยี่ห้อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็สามารถคว้าชัยในการเลือกตั้งเกือบทุกครั้ง จน ปชป.ถูกมองว่าเป็นพรรคของคนใต้

      เมื่อกาลเวลาผันเปลี่ยน เลือกตั้งเที่ยวนี้กลับมีเสียงสะท้อนต่างออกไปว่า ชาวใต้เบื่อหน่ายสิ่งเดิมๆ  และขอโอกาสเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้น หลังจำทนให้โอกาสพรรคเก่าแก่ผูกขาดการเมืองในพื้นที่มานาน แต่ได้รับการดูแลเพียงแค่คำพูดเท่านั้น แถมสินค้าการเกษตรทั้งยางพารา ปาล์ม ราคาตกต่ำ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเช่นถนนก็ทรุดโทรม 

      กระทั่งศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดังของภาคใต้อย่าง บ่าววี อาร์สยาม ยังเคยออกโพสต์เฟซบุ๊กว่า  "ชาวตรังยังรักเหมือนเดิมครับ..แต่..อาจต้องเปลี่ยนแปลงบ้าง" ข้อความดังกล่าวนี้คงไปเขย่าและแทงใจดำพี่น้องภาคใต้จำนวนมากให้ฉุกคิด 

      ดังนั้น ดีเดย์ 24 มี.ค.นี้ หลายพรรคการเมืองจึงเห็นโอกาสที่หมายมั่นปั้นมือจะเข้าไปแบ่งแต้มจาก ปชป. ไม่ว่าจะเป็นพรรคลุงกำนัน ที่ผันไปสนับสนุนรวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พรรคประชาชาติ หรือเพื่อไทย 

      แม้กระทั่งเสือซุ่มอย่างพรรคภูมิใจไทย ที่กล้าประกาศขอแบ่งเก้าอี้ 4-7 ที่นั่ง หรืออย่างน้อยก็ได้แต้มเพื่อ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต, พัทลุง, สตูล, ระนอง, ตรัง, นครศรีธรรมราช และอำเภอเมืองหาดใหญ่ สงขลา เป็นต้น

      ก่อนหน้านี้ก็มีปรากฏการณ์ลูกสาวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง ภูมิใจไทย ปล่อยเพลง "เลือกพ่อหนูหน่อย" ลงยูทูบ เนื้อเพลงบอกให้ปลดผู้แทนแขวนตามเสาไฟฟ้า นักการเมืองเก่าๆ ออกไป สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลมาแล้ว

      ล่าสุด (17-18 ก.พ.) อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแกนนำ ภท.ได้ลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมขอโอกาสให้ชาวบ้านเปิดใจต้อนรับคนทำงานหน้าใหม่ๆ ด้วยแนวคิด

         "ทลายระบบผูกขาดการเมือง เพื่อประโยชน์พี่น้องประชาชน"

      เพราะการผูกขาดไม่เคยสร้างการพัฒนาและก่อประโยชน์ให้แก่ประชาชน.

                                                            ช่างสงสัย