ไทยเป็นเจ้าภาพจัดมิสเวิลด์รอบสุดท้ายปลายปีนี้


เพิ่มเพื่อน    

 

          มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น นำโดย นางจูเลีย มอร์ลีย์ ประธานและซีอีโอ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า การประกวดมิสเวิลด์ครั้งที่ 69 รอบสุดท้าย จะจัดขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการประกวดมิสเวิลด์ที่จะยกเทศกาลและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการประกวดรอบชิงชนะเลิศซึ่งใช้เวลาทั้งหมดรวมหนึ่งเดือนมาจัดขึ้นในประเทศไทย
          ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้น ณ พระราชวังพญาไท กรุงเทพมหานคร นางจูเลีย มอร์ลีย์ กล่าวว่า "ดิฉันดีใจมากที่ได้รับเชิญให้มาจัดเทศกาลประกวดมิสเวิลด์ 2019 รอบชิงชนะเลิศในประเทศไทย ด้วยวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและความเป็นมิตรไมตรีของคนไทย ‘สยามเมืองยิ้ม’ จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับและดูแลตัวแทนสาวงามผู้ประกวดมิสเวิลด์จาก 130 ประเทศในปีนี้"

 

 

          มิสเวิลด์เป็นการประกวดนางงามระดับนานาชาติที่จัดมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลกนับตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494) และมีความแตกต่างจากเวทีประกวดนางงามอื่นๆ เพราะเป็นเวทีที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนทั่วโลกรวมถึงเปิดโอกาสให้หญิงสาวนับพันคนได้มาร่วมกันสร้างความตระหนักด้านมนุษยธรรมและระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ยากจน ผู้ป่วย และผู้ด้อยโอกาสทั่วโลก ผ่านโครงการ Beauty With A Purpose (งามอย่างมีคุณค่า) ในทุกๆปี องค์กรมิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่นจะดำเนินโครงการฯ ผ่านเวทีมิสเวิลด์ และสามารถระดมทุนได้เป็นจำนวนหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐเพื่อนำไปมอบให้แก่การกุศล

 

 

          ตัวแทนผู้เข้าประกวดมิสเวิลด์ 2019 จาก 130 ประเทศมีกำหนดจะเดินทางถึงประเทศไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ เพื่อเก็บตัวก่อนเข้าประกวดรอบสุดท้ายในเดือนธันวาคม โดยตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนในเมืองไทย ผู้เข้าประกวดทุกคนจะได้เข้าร่วมกิจกรรมของกองประกวด ณ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงต่างๆ ของเมืองไทย รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมภายใต้โครงการ Beauty With A Purpose เพื่อบริจาคช่วยเหลือองค์กรการกุศล
          การประกวดมิสเวิลด์ครั้งล่าสุดในปีที่ผ่านมาจัดขึ้นที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 9 ที่มีการจัดประกวดมิสเวิลด์จัดขึ้นในประเทศดังกล่าว  ที่ผ่านมาการประกวดมิสเวิลด์มีบทบาทอย่างมากในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจีน โดยสาวงามจากประเทศจีนที่ครองมงกุฏมิสเวิลด์แล้ว 2 คน ได้แก่จางจื่อหลิน ในปี ค.ศ. 2007 และ หยูเหวินเซียะ ในปี ค.ศ. 2012
          สำหรับโชว์การประกวดมิสเวิลด์รอบสุดท้ายที่หลายคนตั้งตารอนั้น จะถ่ายทอดสดไปยังกว่า 100 ประเทศ ทั่วโลก ผู้ชมจะได้รับชมภาพประวัติศาสตร์ที่ วาเนซา ปอนเซ เด เลออน มิสเวิลด์คนปัจจุบันสวมมงกุฏให้กับสาวงามที่จะได้รับตำแหน่งเป็นมิสเวิลด์คนที่ 69 ในประเทศไทย

 

 

          นายธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด พันธมิตรผู้จัดงานมิสเวิลด์ 2019 รอบชิงชนะเลิศ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย กล่าวว่า 
          "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดเวทีนางงามที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง มิสเวิลด์ ในประเทศไทย ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานผู้มีประสบการณ์จากมิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น ผมเชื่อว่าการประกวดครั้งนี้จะนำความสุขและสีสันมาให้คนไทยได้อย่างแน่นอน แฟนนางงามชาวไทยจะได้มีโอกาสรับชมผู้ชนะการประกวดมิสเวิลด์จากทั่วโลกมาประชันความงามและความสามารถกันในบ้านเรา และเรายังหวังว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดมิสเวิลด์ในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ในด้านศักยภาพของประเทศไทย รวมทั้งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและนำวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทยไปสู่สายตาของผู้ชมทั่วโลก ในฐานะเจ้าภาพผู้จัดงานอย่างเป็นทางการ เราจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อให้เวทีการประกวดนางงามอันทรงเกียรตินี้สำเร็จออกมาได้อย่างน่าประทับใจ"

 

 

          ทั้งนี้ ภายในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นยังมีแขกรับเชิญพิเศษที่เข้าร่วม คือ มิสเวิลด์คนปัจจุบัน วาเนซา ปอนเซ เด เลออน และราชินีความงามประจำภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก (Continental Queen) จากการแข่งขันมิสเวิลด์ 2018 ได้แก่ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ สาวงามตัวแทนของประเทศไทยเจ้าของตำแหน่งมิสเวิลด์เอเชีย, มาเรีย เวสิเลวิช มิสเวิลด์ยุโรป จากเบลารุส, กาดิยาห์ โรบินสัน มิสเวิลด์คาริบเบียน จากจาเมกา, เจสสิกา ไทสัน มิสเวิลด์โอเชียนเนีย จากนิวซีแลนด์, ควิน อเบนาเคียว มิสเวิลด์แอฟริกา จากยูกันดา, โซลาริส บาร์บา มิสเวิลด์อเมริกา จากปานามา และ ลินซี แม็คลิลแลนด์ มิสเวิลด์สหราชอาณาจักร จากสกอตแลนด์ 

 

 

 

 

 

 

 


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"