"สุขุม นวลสกุล"
เป็น "ผู้สันทัดกรณี" การเมือง แต่ละช่วงหัวเลี้ยว-หัวต่อ สื่อโทรทัศน์ จะแย่งตัวไปฟันธงในแต่ละรายการ
อย่างศุกร์ ๑๕ ก.พ.ที่ผ่าน........
"คุณวรเทพ สุวัฒนพิมพ์" พิธีกรรายการ ช่อง ๒๒ โทรศัพท์สัมภาษณ์ออกจอ ประเด็น กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ "ยุบพรรค" ไทยรักษาชาติ
อาจารย์สุขุมให้ความเห็น "เป็นประเด็น" น่าใคร่ครวญ ลองอ่านดู จะแกะเทปบางตอนให้อ่าน
พิธีกร--สิ่งที่ไทยรักษาชาติจะทำได้ในขอบเขตที่กำหนดเพื่อให้ตัวเองได้รอด เขาจะทำอย่างไรบ้างครับ?
สุขุม---เท่าที่ทราบ เขาต้องทำหนังสือชี้แจง อาจเรียกร้องให้สอบสวนเพิ่มเติม อาจมีพยานควรจะสอบสวนอะไรต่างๆ เสนอไป
ผมมั่นใจว่า ที่ทำไปนี่ เขาก็มั่นใจว่า "ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ" คนเขาก็สงสัยว่า มันเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองยังไง แต่ว่า กกต.ก็เอกฉันท์ และก็ไม่อะไรเพิ่มเติม..ส่งเลย อีกฝ่ายก็ซัดเป็นเอกฉันท์เหมือนกัน
พิธีกร--ถ้าเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ของไทยรักษาชาติ ดูน่าจะไม่ดีเท่าไหร่ (น่าเป็นห่วง..น่าเป็นห่วง-สุขุม)
โทษของไทยรักษาชาติที่ทุกคนคาดกัน ว่าจะต้องยุบพรรค จะต้องตัดสิทธิ์ ผู้บริหารพรรคจะไม่ได้เล่นการเมืองอีกสิบปี หรือบางคนบอกว่าตลอดชีวิต ตรงนี้มันยุติธรรม ไม่ยุติธรรม หรือมันจะสามารถอธิบายได้มั้ย?
สุขุม---ไม่ทราบครับ แต่ว่าความคิดทางรัฐศาสตร์ เอ้ย..ความคิดแบบผมเนี่ยนะ
ผมว่า ถ้าถึงขนาดนั้น "คนทำผิดโดยไม่เจตนา" และก็...มันแรงไป มันเยอะไป
พิธีกร--ในทางไต่สวน ในทางกฎหมาย ก็ว่ากันไป แต่ในทางรัฐศาสตร์ หรือเชิงความคิดของอีกหลายๆ คนก็อาจบอกว่า ถ้าเขาไม่รู้เรื่องจริงๆ อาจจะแรงไป อย่างนั้นใช่ไหมอาจารย์?
สุขุม---ครับ เขาไม่เจตนาน่ะครับ
พิธีกร--ในความคิดของอาจารย์เอง บทลงโทษที่เหมาะสม อาจารย์คิดว่าควรจะออกมารูปแบบไหน?
สุขุม---ผมเนี่ย มีความเห็นต่อเรื่องนี้ แต่...ผมมีความเห็นคล้ายๆ อาจารย์สดศรี
มันควรจะจบตั้งแต่มีพระราชโองการ มันก็จบแล้ว....คือขั้นตอนนั้น มันไม่เกิดขึ้น ถูกไหมครับ
ที่ดำเนินอยู่ตอนเนี้ย ผมไม่เห็นว่ามันควรจะเกิดขึ้น มันจะขยายเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องมหึมา
อาจารย์สุขุม เป็นนักรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดี ม.รามฯ เหมือนอาจารย์ "ชูศักดิ์ ศิรินิล" หัวแรงคนสำคัญพรรคเพื่อไทยขณะนี้
ก็มีบางประเด็น อยากได้คำอธิบายจากอาจารย์เป็นความรู้
-ประเด็น เสนอพระนาม "ทูลกระหม่อมหญิงฯ" เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค
-ประเด็น "ทำผิดโดยไม่เจตนา" ไปยุบพรรค แรงไป เยอะไป
-ประเด็น เรื่องจบตั้งแต่มีพระราชโองการ ขั้นตอน กกต.และขั้นตอนศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ควรเกิดขึ้น
เนี่ย....
อาจารย์พูดมาทั้งหมด สรุปเป็นประเด็นเดียวว่า "ที่ไทยรักษาชาติทำ"
"ไม่มีเจตนา"!?
เข้าใจอย่างนี้ ถูกต้องไหมครับอาจารย์?
"ทำโดยเจตนา" คือ
ทำโดยรู้สำนึกในการที่ทำ ขณะเดียวกัน ผู้ทำ "ประสงค์ต่อผล" หรือ "เล็งเห็นผล" ของการทำนั้น
"ทำโดยไม่เจตนา" คือ
ผู้ทำไม่ได้ประสงค์ต่อผล หรือไม่อาจเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นได้
นิยามของ "เจตนา-ไม่เจตนา" เป็นอย่างนี้ ถูกต้องไหมครับ ถ้าไม่ถูก ช่วยอธิบายเอาบุญด้วย
ก็หมายความว่า....
ที่ "ไทยรักษาชาติ" เสนอพระนาม "ทูลกระหม่อมหญิงฯ" เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ต่อ กกต.เมื่อ ๘ ก.พ.๖๒
ในความเห็นอาจารย์ เป็นการ "ทำผิดโดยไม่เจตนา"
คือ ไม่ประสงค์ต่อผล ไม่เล็งเห็นผลจากการกราบทูลเชิญ "ทูลกระหม่อมหญิงฯ" เป็นแคนดิเดตนายกฯ
ย้ำ...นี่เป็นความคิดแบบอาจารย์ตามที่ให้สัมภาษณ์ไว้ ถูกต้องนะครับ?
คำถามจากผมก็มีว่า......
ถ้าไม่เล็งเห็นผล แล้วทำไม "ไทยรักษาชาติ" จึงไปกราบทูลเชิญ "ทูลกระหม่อมหญิงฯ" ซึ่งเป็นบุคคลนอกมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค
ทั้งที่ ก่อนหน้านี้ พรรคประกาศต่อต้าน "คนนอก" ที่จะเข้ามาเป็นนายกฯ ชนิดเอาเป็น-เอาตายด้วยซ้ำ?
อาจารย์ช่วยให้เหตุผลในมุมนี้ด้วย เพราะ "ไทยรักษาชาติ" มีสมาชิกพรรคเป็นหมื่น-เป็นแสน
ถ้าไม่เล็งเห็นผลต่อคะแนนนิยมจากตัวบุคคลที่นำมาเสนอเป็นว่าที่นายกฯ เพื่อหวังชนะเลือกตั้ง
แล้วมีเหตุผลใด.......
ที่ไทยรักษาชาติ ไม่นำเอาบุคคลในพรรค เช่น ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค, นายจาตุรนต์ ฉายแสง ฟอสซิลพรรค เสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ?
อาจารย์ไม่ได้บอกว่า ที่ไทยรักษาชาติทำ "ไม่ผิด" หากแต่บอกว่า "ผิดโดยไม่เจตนา" ถ้ายุบพรรค แรงไป..เยอะไป
แล้วอย่างที่ชี้ให้เห็น........
อาจารย์ยังมั่นใจโดยสุจริตว่า "ไม่เจตนา" อยู่หรือไม่?
ถ้ามั่นใจ มีคำอธิบายไหมว่า ทำไมพรรคไทยรักษาชาติ จึงไม่แสดง "ความสำนึกผิด"
เพราะจนบัดป่านนี้ ไม่ปรากฏ "พรรคไทยรักษาชาติ" จะขอพระราชทานอภัยโทษ อย่างที่คนทำผิดโดยไม่เจตนาทั้งหลายเขาปฏิบัติกัน?
เห็นแต่ทำลับๆ ล่อๆ ตั้งโต๊ะเตรียมการ ก็เลิกไปเฉยๆ?
ก็จริงตามความคิดอาจารย์อยู่อย่าง คือเรื่อง "เจตนา-ไม่เจตนา" ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม
ถ้าพิสูจน์ได้ ย่อมมีผลต่อบทลงโทษ แรงไป..เยอะไป หรือ ไม่แรง..ไม่เยอะ
ส่วนประเด็นที่ว่า........
"มันควรจะจบตั้งแต่มีพระราชโองการ มันก็จบแล้ว"
อย่างที่อาจารย์ว่านี้ หมายถึง ไม่ต้องไปถึงขั้น กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องมหึมา
อาจารย์คงพูดตามรัฐศาสตร์
แต่ทางกฎหมาย เมื่อพบการกระทำเข้าลักษณะ "ต้องห้าม" ในการหาเสียงเลือกตั้ง อีกทั้งมี "พระราชโองการ" ออกมา
ถ้า กกต."จบแค่นั้น"
ไม่รวบรวมหลักฐานส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อยุบพรรค ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง ๒๕๖๐ มาตรา ๙๒(๒)
"กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"
๗ กกต.นั่นแหละ จะเข้าคุกฐาน "ละเว้นปฏิบัติหน้าที่"!
อาจารย์ต้องทราบ "พระราชโองการ" คือคำสั่งราชการของพระราชา ถือเป็นกฎหมาย
เมื่อมี "พระราชโองการ" ออกมา ตอนค่ำวันที่ ๘ ก.พ.๖๒ อาจารย์บอกว่า
"ควรจบแค่นั้น"!?
ไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชโองการคือ "คำสั่งราชการของพระราชา" เพื่อไม่ขยายเรื่องใหญ่ให้เป็นเป็นเรื่องมหึมาอย่างนั้นหรือ?
นี่ก็ต้องย้อนถึงเรื่องเจตนาอีก
พระราชโองการนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากเหตุที่ไทยรักษาชาติก่อขึ้น
ทำด้วยเจตนาประสงค์ผลได้จากการนำพระนาม "สมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์" เสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค อันเห็น "เจตนา" ประสงค์ผลที่ชัด
ดังเช่น ตอนเช้าที่ ๘ ก.พ.ถ้าไม่มีเจตนาประสงค์ผลได้ ร้อยโทปรีชาพล ก็ควรนำใบสมัครผู้เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคยื่นต่อ กกต.อย่างที่ทุกพรรคเขาทำ
แต่นี่........
ปล่อยข่าวล่วงหน้ามาหลายวัน เช้านั้น นักข่าวไทย-เทศไปจ้องพรึ่บ
แล้วร้อยโทปรีชาพลก็นำใบสมัครของ "สมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์" โชว์ร่อนๆ ให้สัมภาษณ์ ออกแถลงการณ์ ก่อนจะยื่น กกต.
เป็นข่าวทั่วโลก คะแนนเสียงดีทันตาเห็น จนต้องยื่นสมัคร ส.ส.เขตเพิ่ม!
เห็นเจตนาเช่นนี้ ที่ กกต.ยื่นยุบพรรค ยังว่าแรงไปมั้ย เยอะไปมั้ย หรือว่า แค่ยุบพรรค มันยังเบาไป?
พระราชโองการนี้ นักกฎหมายบางท่าน วิจารณ์กันว่า ไม่มีผู้รับสนองพระราชโองการ เป็นการประกาศในพระนามของพระองค์เอง ขยายความกฎหมายในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๖ กว้างมากไป ต่างๆ นานา
แต่ต้องไม่ลืมว่า กฎหมายนั้น มีที่มา ๒ ทาง คือ ลายลักษณ์อักษร และจารีตประเพณี
มาตรา ๕ ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน วรรคสอง บอกว่า..........
"เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณี ให้กระทำการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"
ศาสตราจารย์หยุด แสงอุทัย บอกว่า.....
"เมื่อประเทศไทยรับเอาระบบประมวลกฎหมาย (code law) มาใช้ ก็น่าที่จะยอมรับแนวคิดที่ว่าจารีตประเพณีเป็นที่มาของกฎหมายในตัวเอง
ซึ่งหมายความว่า เมื่อจารีตประเพณีเป็นที่มาของกฎหมายในตัวมันเอง
จารีตประเพณีก็ใช้บังคับกับสังคมได้โดยตรงโดยไม่ต้องมีการออกกฎหมายมารองรับ"
ฉะนั้น พวกกำลังหาช่อง "ไม่มีผู้รับสนองพระราชโองการ" มาอ้างในการทำว่า "ไม่มีกฎหมายบอกว่าผิด" นั้น
"คิดผิด-คิดใหม่" ได้นะ!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |