กบง.ปรับลดเงินชดเชยกองทุนน้ำมันฯ เหลือ 3.3754 บาทต่อกก. ส่งผลราคาขายปลีกเท่าเดิม แม้ราคาตลาดโลกปรับตัวลดลง ชี้เก็บไว้ใช้รักษาเสถียรภาพราคาแอลพีจี ถึงปลายปี 61

12 ก.พ. 2561 - นายเพทาย หมุดธรรม รองผู้อำนวยการสำนักงานโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยถึง
ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2561 ซึ่งมี นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.กระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง 1.4126 บาทต่อกก. จากเดิมที่กองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ 4.7880 บาทต่อกก. เป็นชดเชย 3.3754 บาทต่อกก. ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. 2561 เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ยังคงเดิมอยู่ที่ 19.82 บาทต่อกก. ถึงแม้ราคาราคาตลาดโลก(ซีพี) จะลดลง

ทั้งนี้เพื่อให้กองทุนฯ ยังสามารถรองรับกับความผันผวนของราคาก๊าซแอลพีจี ในตลาดโลกที่อาจจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2561 โดยผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายสุทธิประมาณ 857 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งราคาซีพีในเดือนก.พ. 61 อยู่ที่ 515 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 65 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในขณะที่ราคาก๊าซแอลพีจี คาร์โก เฉลี่ยสัปดาห์นี้ อยู่ที่ 463 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 46.50 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่งผลให้ราคาโรงกลั่นที่อ้างอิงราคานำเข้า ปรับตัวลดลง 1.3490 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) เหลือ 16.2544 บาทต่อกก.

"ในช่วงที่ผ่านมากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้มีการใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจี ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนอยู่แล้ว "นายเพทาย กล่าว