สนามเลือกตั้งเดือด! "เอนก" ซัด "ส้มหวาน" อีกดอก อ้างตนเป็นประชาธิปไตย แต่กลับตวาดกวาดด่าใครที่แย้งขัด เนื้อแท้เป็นพรรคเผด็จการ  ท่านเชิดชูผู้นำเดี่ยว "ธนาธร" เป็นเสมือนเทพที่ใครแตะต้องไม่ได้ บ่นพวก “โรบอต” ของพรรคหยาบช้า ด่าทอ ผรุสวาทแจกอวัยวะเพศ ขณะที่ "ธนาธร" แสบแค่ล้างตัวจากคราบโคลนแล้วเดินหน้าต่อ 

    ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas อีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เรื่อง กรณีธนาธร สอนอะไร? โดยระบุว่า ผมเขียนเรื่อง “ธนาธรเคืองแค้นไทยไปทำไม” ใช่เพื่อโจมตีหรือตัดคะแนนอนาคตใหม่แต่อย่างไร แต่ผมเห็นว่าพรรคนี้ได้วาดภาพประเทศไทยให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงมาก จึงโต้แย้งอย่างสุภาพ ด้วยเนื้อหาหลักว่า ประเทศไทย คนไทยและวัฒนธรรมไทยนั้น ไม่ได้เลวร้ายมากมายจนถึงขนาดต้องชวนคนไทยให้แค้นเคือง ราวจะชวนคนให้ลุกขึ้นปฏิวัติ 
    ครั้งหนึ่ง ไม่นานมานี้ คนสำคัญของพรรคนี้เคยเสนอให้ประมุขของรัฐกล่าวสาบานต่อรัฐสภาว่าจะพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญ และอีกคนที่ต่อมาขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ก็เคยกล่าวว่า สมัยนี้ไม่น่าจะต้องไหว้ครูกันอีกแล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ ยังคุกคามสถาบันทหาร จะหั่นงบ ตัดยศนายพล ให้ได้รู้สึกกันบ้าง
    พลันที่ผมออกความเห็นไป กองทัพนักรบไซเบอร์ก็โผล่ออกมาโจมตีผมอย่างหยาบคาย ถ่อยเถื่อน ทีแรกผมลบ ด้วยเกรงว่า บางถ้อยความอาจจะทำให้ผู้เขียนคอมเมนต์เองเดือดร้อน คงจะหลายร้อยคนที่โผล่ขึ้นมา ไม่ทราบเป็นนักรบรับจ้างหรือเปล่า ชื่อจริงหรือเปล่า แอคเคาท์จริงหรือเปล่า แต่สำนวนภาษาคล้ายกัน คนพันธุ์นี้จะไม่ยอมอ่านอะไรที่ขัดใจ ไม่ตรงใจ เขามีหลักคิดว่าใครผู้ใดที่บังอาจวิจารณ์ “ธนาธร” จะต้องผิดเสมอ จะต้องถูกด่าทอ ผรุสวาทเต็มไปหมด แจกกระทั่ง "อวัยวะเพศ" และยังพูดส่อเสียดต่อไปถึงสถาบันหลักของเรา หยาบช้ามากครับ
พรรคเผด็จการ
    ผมเกรงเหลือเกินว่า หลายร้อยคนนี้คือคนของ “อนาคตใหม่” เกรงเหลือเกินที่พรรคที่อ้างตนเป็นประชาธิปไตย แต่กลับตวาดกวาดด่าใครที่แย้งขัด ใครที่วิเคราะห์ ใครที่โต้แย้ง ขอผมสงสัยได้ไหมครับว่า เนื้อแท้ท่านน่าจะเป็นพรรคเผด็จการ ท่านไม่ฟังใคร ท่านเชิดชูผู้นำเดี่ยว คือคุณธนาธร เป็นเสมือนเทพที่ใครแตะต้องไม่ได้ ท่านไม่น่าจะเป็นพรรคประชาชน คนธรรมดานะครับ น่าจะไม่ใช่พวก “เสรีนิยม” น่าจะไม่ใช่คน “ก้าวหน้า” เอาเสียด้วย
    ภาษาที่ใช้ในหมู่คนที่ออกโรงมาวันนี้ คาดว่าเป็นกำลังหลัก เป็น “โรบอต” ของพรรค ก็หยาบช้าเหลือเกิน เป็นอย่างนี้ เสียแล้ว ลองตรองดู ก็หัวหน้าพรรคเองนั้นแสดงตนเป็นสุภาพชน เป็นคนน่ารัก แต่ลูกน้องสิกลับถ่อยหยาบ ไร้มารยาท อย่างนี้ แล้วเราจะสรุปคุณลักษณะของพรรคจากหัวหน้าดี หรือ จากลูกน้องดี
    พรรคนี้จะเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่จริงหรือ? เพราะที่ผมเห็น และที่ผมคบหาบรรดาคนรุ่นใหม่มา ส่วนใหญ่นั้น พวกเขาสุภาพ น่ารัก ใจเย็น ให้เกียรติคนอื่นนะครับ
    ใครคิดว่าผมโกหกหรือใส่ร้ายพวกเขา กรุณาอ่านคอมเมนต์นับเป็นจำนวนหลักร้อยหลักพันเหล่านี้เอาเองครับ กรุณาเข้ามาด่าอีก ให้สะใจ ให้หยาบมากๆ ผมจะไม่ลบหรอกครับ จะทิ้งไว้เป็นหลักฐาน จะให้ผรุสวาทเหล่านี้เป็นอนุสาวรีย์อัปยศ ที่บอกให้สาธารณชน และสาธุชน ได้รู้ว่า “เนื้อแท้” ของพรรคท่านนั้นเป็นอย่างไร และ “ของจริง” ของพรรคท่านนั้นคืออะไร?
    ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย เผยว่า รู้จักกับอาจารย์เอนกมานาน และนานพอที่จะทำให้รู้ว่า คนที่ใจเย็นมากๆ อย่างนี้ ถึงกับแสดงความเห็นอย่างเข้มข้นผิดวิสัย ผ่านตัวหนังสือสู่สาธารณะ 
    จากเด็กหนุ่มที่เรียนคณะแพทย์ จุฬาฯ และหนีเข้าป่านาน 2 ปีจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 รุ่นเดียวกับคุณภูมิธรรม หมอมิ้ง คุณจาตุรนต์ ภายหลังออกจากมาป่า ท่านคิดไตร่ตรองหาทางออก โดยเฉพาะเรื่องระบบการปกครองกับการเมืองไทย ที่ไม่ทำให้ประเทศแตกแยก ก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาสาขารัฐศาสตร์จนจบปริญญาเอก เพื่อให้รู้กระจ่างในวิธีคิดของตะวันตก เมื่อกลับเมืองไทยก็ได้ทำงานทั้งเรื่องวิชาการและทางการเมืองมากมาย 
    แต่คุณสมบัติที่สำคัญของท่านคือ ความเป็นนักคิดที่ไม่ยึดติดกับตำราฝรั่ง ท่านมักจะมองหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ ของสังคมส่วนร่วม โดยยึดถือเอาประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นอันดับแรก ท่านใช้เวลาทั้งชีวิตศึกษาประวัติศาสตร์ของไทยอย่างจริงจัง และมากพอที่สุกงอมจนตกผลึกว่า สิ่งที่ทำให้คนไทยยังคงมีประเทศอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ คือพระปรีชาสามารถของบูรพกษัตริย์นับตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน 
กระตุ้นต่อมรักชาติ
    ท่านค้นพบว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเข้มแข็งกว่าสถาบันประชาธิปไตย และสถาบันทหาร เพราะเป็นที่ยอมรับและเคารพของทุกๆ ฝ่าย ปัจจุบันอาจารย์เอนกมีความภาคภูมิใจในการสอน รวมทั้งเขียนหนังสือหลายต่อหลายเล่มเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติภูมิของสถาบันกษัตริย์ ให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้เข้าใจถึงความสำคัญของสถาบันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 
    นี่คือความคิดของนักเรียนที่จบมาจากเมืองนอกเมืองนา และเป็นอดีตคนที่เคยคิดแบบถอนรากถอนโคน แต่วันนี้กลับมาปกป้องสถาบันหลักแบบเอาเป็นเอาตาย
    นายสุเทพระบุว่า ฉะนั้นใครที่ออกมาท้าทายสถาบัน ด่าประเทศไทย โดยอ้างตำราฝรั่งที่อาจารย์อ่านมาจนปรุ จึงเหมือนเป็นการกระตุ้นต่อมรักชาติของท่านอย่างแรงจนไม่สามารถปล่อยผ่านอีกต่อไป
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งกล่าวหาว่าใช้อำนาจเอาเปรียบทางการเมืองว่า ตนไม่เข้าใจนายธนาธรที่ออกหาเสียงโดยเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนถึงเหตุผลตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ กติกาประเพณี และธรรมเนียมปฏิบัติตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ อีกทั้งต้องเตรียมจัดงานพระราชพิธีที่สำคัญที่คนไทยทั่วประเทศเฝ้ารอ ซึ่งคนทั่วประเทศเข้าใจดี แต่นายธนาธรกลับไม่เข้าใจ ตนผิดหวังกับคนรุ่นใหม่อย่างนายธนาธรมาก นอกจากนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้รัฐบาลไม่ได้ใช้อำนาจอะไรมาช่วยพรรคพลังประชารัฐอย่างที่กล่าวหา เราหาเสียงตามกติกาที่ กกต.กำหนดทุกอย่าง
          นายธนกรกล่าวอีกว่า นายธนาธรน่าจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ นำเสนอนโยบายที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนได้พิจารณาเลือก ไม่ใช่วันๆ ออกมาท้วงติงตำหนิ พล.อ.ประยุทธ์อย่างเดียวเหมือนคนไม่มีอะไรทำ สำหรับนายธนาธร แค่ พล.อ.ประยุทธ์ไอยังผิดเลย อย่าว่าแต่จะพูดอะไรเลย ตนไม่อยากให้ใช้วาทกรรมทางการเมืองออกมาสาดโคลนกัน ยิ่งเป็นพรรคคนรุ่นใหม่ยิ่งไม่สมควร เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้นโยบายมีความสำคัญมาก ตนเชื่อว่านโยบายของพรรคพลังประชารัฐจับต้องได้ ทำได้จริง ไม่ว่าจะเป็นต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน เปลี่ยนส.ป.ก. เป็น สปก.4.0 โอนสิทธิได้ ชาวนาได้ราคาดี และโคบาลประชารัฐ เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศจะตอบรับพรรคพลังประชารัฐแน่นอน
    ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เขียนข้อความในเครือข่ายสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ @Thanathorn_FWP ระบุว่า เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์อุดมการณ์และเจตนารมณ์ในการทำงานการเมืองของพวกเรา พรรคอนาคตใหม่ ส่วนการป้ายสีสาดโคลนนั้น ถึงจะเปรอะเปื้อนบ้างก็ไม่เป็นไร แค่ล้างตัวจากคราบโคลนที่ไม่ใช่เรื่องจริง แล้วเดินหน้าต่อ เราเหลือเวลาไม่มาก เอามาสร้างอนาคตที่ดีกว่าของคนอีกล้านๆ คนให้เป็นจริงดีกว่า.