กทม.-ปริมณฑลค่า PM 2.5 ไม่เกินมาตรฐาน สรรพสามิตจ่อชงคลังลดภาษีหนุนผลิตรถไร้ฝุ่น ทัพภาค 3 ตั้ง บก.คุมหมอกควัน 9 จ.เหนือ สั่งผู้ว่าฯ ใช้ กม.คุมเข้ม-ห้ามเผาเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รายงานข้อมูลผลการดำเนินงานและสถานการณ์คุณภาพอากาศ เวลา 08.00 น. ดังนี้ สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ที่มีการตรวจวัด และมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด เทียบกับเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ส่วนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง พื้นที่กรุงเทพฯ ตรวจวัดได้ 21-40 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ที่มีการตรวจวัด (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) และคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีฟ้า จำนวน 5 เขต, สีเขียว จำนวน 13 เขต และสีเหลือง จำนวน 3 เขต ได้แก่ เขตวังทองหลาง เขตบางคอแหลม และเขตจตุจักร ประชาชนสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและท่องเที่ยวได้ตามปกติ
จากแบบจำลองคาดการณ์ปริมาณ PM 2.5 ของกรมควบคุมมลพิษ คาดว่าในวันที่ 16 ก.พ. ปริมาณ PM 2.5 มีแนวโน้มลดลง ประกอบกับการดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นละอองของหน่วยงานต่างๆ อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง อาจช่วยให้ปริมาณฝุ่นละอองลดลงได้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ คาดการณ์ว่า ลมพื้นผิว (ที่ระดับความสูง 10 เมตร) ลมสงบ มีกำลังอ่อนลง ส่วนระดับสูงขึ้นไปมีทิศทางตะวันออกเฉียงใต้ มีกำลังแรงขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อวาน พัดปกคลุมกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ และคาดการณ์ว่าวันที่ 16 ก.พ. ลมผิวพื้นเป็นลมฝ่ายใต้และจะมีกำลังแรงขึ้นเล็กน้อย ส่วนระดับสูงขึ้นไปมีทิศทางตะวันออกมีกำลังอ่อนลง เนื่องจากความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นในตอนกลางวัน ระดับเพดานการผกผันของอุณหภูมิ (inversion) จะขยายสูงขึ้น การไหลเวียนของอากาศยังดีต่อเนื่อง
ที่อาคารธานีนพรัตน์ กทม. 2 เขตดินแดง นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม กทม. ร่วมใจลดฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมทั้งเดินรณรงค์ติดสติกเกอร์ “ร่วมใจไม่ขับ ช่วยดับเครื่อง” ให้กับรถราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีประมาณ 14,000 คัน เป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่า รถ กทม.ทุกคันไม่ขับ ต้องดับเครื่อง อีกทั้งภายในงานยังมีบูธการประชาสัมพันธ์การจัดการคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร และบูธการบำรุงรักษารถยนต์เพื่อลดมลพิษ เป็นการประชาสัมพันธ์ ป้องกัน และแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะอย่างจริงจัง
ขณะที่ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ จะเสนอมาตรการทางภาษีสรรพสามิต เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป เบื้องต้นจะลดอัตราภาษีสรรพสามิตให้กับรถยนต์ที่ปล่อยฝุ่นได้เท่ากับมาตรฐานยูโร 5 ที่ปล่อยฝุ่นละออง 0.005 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มาตรการภาษีรถยนต์เพื่อลดฝุ่นละอองจะไม่กระทบกับภาระภาษีรถยนต์เดิมเพิ่มขึ้น แต่รถที่ผลิตใหม่และปล่อยค่าฝุ่นควันได้น้อยลงตามที่กำหนดจะได้อัตราภาษีที่ถูกกว่า
นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตจะดำเนินตามนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ด้วยการลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้าเหลือ 2% และยกเว้นภาษีนำเข้า ในกรณีที่บริษัทผู้ผลิตได้เข้ารับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จากปัจจุบันที่จัดเก็บอยู่ในอัตรา 8%
ที่ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมและแถลงแนวทางการควบคุมแก้ไขสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าภาคเหนือ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เข้าร่วมประชุมรับนโยบายเร่งด่วนหลังสถานการณ์เริ่มวิกฤติก่อนห้วงเวลา ซึ่งรัฐบาลได้ให้กองทัพภาคที่ 3 จัดตั้งกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าขึ้น เพื่อบูรณาการร่วมกันในการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงในแต่ละพื้นที่ภาคเหนือ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยใช้กรอบแนวความคิดในการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือไปในทิศทางเดียวกัน
พล.ต.บัญชากล่าวว่า ได้สั่งการให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือ เข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมาย และย้ำให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการสอดส่องดูแลห้ามมีการเผาทุกชนิดอย่างเด็ดขาด ไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นวิถีชีวิตมาตั้งแต่อดีต ซึ่งสมัยก่อนกับสมัยนี้ไม่เหมือนกัน ขณะเดียวกันได้ระดมกำลังทหารหน่วยต่างๆ มาร่วมปฏิบัติงานในชุดปฏิบัติการดับไฟป่า และการใช้อากาศยาน (ฮ. MI 17) เพื่อดับไฟป่าในพื้นที่ที่ลำบาก ไม่สามารถใช้เจ้าหน้าที่เข้าไปได้ ซึ่งเป็นการบูรณาการกันระหว่างตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน ไม่แบ่งแยกจังหวัด โดยทหารได้นำกำลังกว่า 500 นาย รวมทั้งยุทโธปกรณ์ ยานยนต์ และอุปกรณ์ดับไฟป่า มาช่วยในแต่ละพื้นที่ที่มีปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยเฉพาะดอยพระบาทในจังหวัดลำปาง ที่จะลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน
ที่ จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่และจิตอาสายังคงดับไฟในจุดต่างๆ บนดอยพระบาทและดอยฝรั่งต่อเนื่อง โดยสลับสับเปลี่ยนกำลังกันตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยตลอดช่วงเช้า สามารถดับไฟในจุดห้วยถ้ำเสือ บ้านต้นต้อง ตำบลพิชัย ได้ทั้งหมด แต่ยังคงเหลือไฟที่ยังลุกไหม้อยู่ ณ จุดห้วยแม่พริก-ห้วยยาง-ดอยขอนห่ม-ห้วยคิง และจุดทางชุมชนอิ่วเมี่ยน เชิงดอยพระบาท ฝั่งผาลาด
วันเดียวกัน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงกรณีที่ภาคเอกชนระบุในโซเชียลฯ ว่าฝุ่นละอองขนาดเล็กจิ๋วที่ จ.นครราชสีมาเกินมาตรฐานว่า ไปเอาค่านี้มาจากไหน ซึ่งเอกชนบางคนมีเครื่องมือที่ไปหาซื้อมา ที่อาจจะใช้ได้ แต่น่าจะยังไม่ได้รับการยอมรับทางวิชาการ และเห็นว่าตรงจุดไหนมีฝุ่นมากก็เอาไปวัด ซึ่งทำให้ค่าอาจจะขึ้นสูงขึ้นมา ขณะที่ภาครัฐต้องวัดค่าเฉลี่ยทั้ง 24 ชั่วโมง ฉะนั้นข้อมูลอาจจะไม่ตรงกันบ้าง อย่างไรก็ตาม ช่วงที่น่ากลัวที่สุดคือช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. เนื่องจากอากาศร้อน ปกติจะมีการเผาในที่โล่งจำนวนมาก ดังนั้นต้องควบคุมไปจนกว่าฝนจะตกมาประมาณเดือน พ.ค.-มิ.ย.
ที่หอประชุมจังหวัดบุรีรัมย์ นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ หลังพบว่าขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดมีค่าฝุ่นละอองพุ่งสูงถึง 179 ไมโครกรัม เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพประชาชน ซึ่งปัจจัยหลักๆ เกิดจากการลักลอบเผาป่า ไร่อ้อย ตอซังข้าว วัชพืช และขยะมูลฝอย จึงจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการเข้มเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกวดขันผู้ประกอบการอุตสาหกรรม รวมถึงการก่อสร้างต่างๆ ต้องไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้ตำรวจและขนส่งจังหวัด เข้มงวดตรวจจับยานพาหนะที่ปล่อยควันดำ นอกจากนั้นรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้าน เกษตรกร หยุดการเผาในทุกกรณี.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |