ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อดึงงบประมาณจากส่วนอื่นมาใช้สำหรับการก่อสร้างกำแพงป้องกันชายแดนเม็กซิโก สมาชิกสภาคองเกรสแห่ทักท้วง ขณะกฎหมายงบประมาณการใช้จ่ายภาครัฐผ่านความเห็นชอบทั้ง 2 สภาเมื่อวันพฤหัสบดี ส่งให้ทรัมป์ลงนามก่อนเส้นตายชัตดาวน์เที่ยงคืนวันศุกร์
รายงานเอเอฟพีเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงท่าทีแล้วว่าเขาจะลงนามกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายของหน่วยงานรัฐบาลกลางหลายแห่งไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2562
กฎหมายความยาว 1,165 หน้า ซึ่งแกนนำเดโมแครตและรีพับลิกันเจรจาต่อรองกันนานหลายสัปดาห์ไม่ได้ระบุงบที่จำเพาะเจาะจงไว้สำหรับการสร้าง "กำแพง" กั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก แต่เขียนเลี่ยงว่าสำหรับโครงสร้างเครื่องกีดขวางทางกายภาพและรั้วป้องกันคนเดินข้าม โดยงบในส่วนนี้ได้รับการจัดสรรไว้เพียง 1,375 ล้านดอลลาร์ ห่างไกลจากตัว 5,700 ล้านดอลลาร์ที่ทรัมป์ต้องการสำหรับการก่อสร้างขยายกำแพงตลอดแนวชายแดน
การดึงดันของทรัมป์เพื่อให้ได้งบตามเขาต้องการ โดยปฏิเสธจะลงนามกฎหมายงบประมาณใช้จ่ายชั่วคราวระยะสั้นเมื่อเดือนธันวาคม เคยเป็นเหตุให้หน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐหลายแห่งไม่มีงบใช้จ่ายจนนำไปสู่ภาวะชัตดาวน์ 35 วัน ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
ซาราห์ แซนเดอร์ส เลขาธิการด้านสื่อของทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ทรัมป์มีแผนจะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งจะช่วยให้เขาสามารถดึงงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์จากส่วนอื่นมาใช้สำหรับการก่อสร้างกำแพงได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคองเกรส เพื่อ "สร้างความมั่นใจว่าเราจะสามารถยุติวิกฤติด้านมนุษยธรรมและความมั่นคงแห่งชาติที่ชายแดนได้" เธอกล่าวไม่นานก่อนหน้าที่วุฒิสภาจะลงมติเห็นชอบกฎหมายนี้
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐก็ลงมติเห็นชอบกฎหมายฉบับนี้ เพื่อส่งให้ทรัมป์ลงนามก่อนเส้นตายเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์
การลงนามกฎหมายงบประมาณจะช่วยสงบศึกที่ยาวนาน 2 เดือนเรื่องกฎหมายงบประมาณ แต่การประกาศภาวะฉุกเฉิน เท่ากับทรัมป์ได้เปิดการเผชิญหน้าครั้งใหม่อีก และทำให้เขาเสี่ยงอันตรายด้านกฎหมายมากที่สุดครั้งหนึ่งในวาระการดำรงตำแหน่งของเขา
ส.ส.แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎพรรคเดโมแครต กล่าวว่า สมาชิกในพรรคของเธอกำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ เพื่อตอบโต้การดำเนินการของทรัมป์
แถลงการณ์ร่วมระหว่างเพโลซี และ ส.ว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำสมาชิกเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของทรัมป์จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างร้ายแรง และเป็นความพยายามอย่างอับจนเพื่อเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงที่ว่า ทรัมป์ทำผิดสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างหาเสียงว่าจะทำให้เม็กซิโกเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายสำหรับสร้างกำแพง
ส.ว.มิตช์ แม็คคอนเนล ผู้นำ ส.ว.เสียงข้างมาก ประกาศว่า เขาสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ แต่สมาชิกหลายคนของรีพับลิกันระมัดระวังท่าที
สมาชิกคองเกรสหลายคนยอมรับว่าพวกเขาคิดไม่ออกว่าทรัมป์จะดึงงบมาจากส่วนใด แต่เดโมแครตเตือนว่า การดำเนินการของทรัมป์จะเปิดช่องให้ประธานาธิบดีคนต่อๆ ไปสามารถประกาศภาวะฉุกเฉินในด้านอื่นๆ ได้ ไม่ว่าเรื่องความรุนแรงจากอาวุธปืน, ภาวะโลกร้อน และวิกฤติการใช้ยาโอปิออยด์
กฎหมายภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเปิดทางให้ประธานาธิบดีเข้าถึงอำนาจแบบพิเศษโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางการเมืองตามปกติ และสามารถดึงงบจากส่วนอื่นที่มีอยู่ เช่น งบการทหารและบรรเทาภัยพิบัติ มาใช้สร้างกำแพงได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |