ให้7วันส่งคำแก้ตัว ศาลรธน.รับร้องยุบ'ทษช.'-ทีมหาเสียงยุติภารกิจ


เพิ่มเพื่อน    

    "ศาลรัฐธรรมนูญ" มติเอกฉันท์รับคำร้อง กกต.ให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ให้เวลา 7 วันส่งคำแก้ตัว 27 ก.พ.ถกนัดต่อไป แต่ยังไม่ตัดสิน “ทษช.” ส่อเค้าแพแตกก่อนศาลลงดาบ “จาตุรนต์” ควง “ณัฐวุฒิ” พร้อมคนเสื้อแดงตั้งโต๊ะแถลง โบ้ยรู้เรื่องหลังวันที่ 8 ก.พ. ตอกย้ำเรื่องละเอียดอ่อน ทีมรณรงค์หาเสียงส่วนกลางขอยุติภารกิจจนกว่าสะเด็ดน้ำ สวมบทพระเอกพร้อมช่วยเหลือทุกวิถีทาง แต่การชี้แจงต้องให้กรรมการบริหารพรรคทำ “ทนายถุงขนม” อัดจะโยนให้ กก.บห.อย่างเดียวไม่ได้ “ระเบียบรัตน์” เสียงสั่นทุกอย่างถูกลิขิตมาแล้ว
    เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าวเผยแพร่ผลการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีพิจารณาคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (13) ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 แจ้งให้ผู้ร้องทราบ และส่งสำนวนคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง มิฉะนั้นให้ถือว่าไม่ติดใจยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา วิธีการส่งกำหนดให้เจ้าหน้าที่ของศาลเป็นผู้ส่ง ณ ที่ทำการพรรคผู้ถูกร้อง หากไม่มีผู้รับให้ปิดหนังสือนำส่ง และสำเนาคำร้องไว้ ณ ที่ทำการพรรคผู้ถูกร้อง และให้ถือว่าได้ส่งโดยชอบตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาขอศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 5 ประกอบมาตรา 54 แล้ว 
    ศาลนัดพิจารณาครั้งต่อไปในวันพุธที่ 27 ก.พ.2562 เวลา 13.30 น.
    นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญอธิบายว่า วันที่ 27 ก.พ. ยังไม่ใช่วันตัดสิน ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล หากได้ข้อสรุปศาลจึงจะนัดลงมติอีกครั้ง ซึ่งในเอกสารข่าวไม่ได้สั่งห้ามพรรค ทษช.รณรงค์หาเสียง เพราะถือเป็นกิจการภายในของพรรค และศาลไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้
“ตอนนี้บางคนสับสนคิดว่า 27 ก.พ.เป็นวันตัดสิน ซึ่งไม่ใช่ ยังไม่ได้ตัดสิน ยังอยู่ในกระบวนการ”นายเชาวนะกล่าว
    และในเวลา 15.07 น. ที่พรรค ทษช. เจ้าหน้าที่จากศาลรัฐธรรมนูญได้เดินทางมายังพรรค ทษช.เพื่อนำสำเนาคำร้องของ กกต. ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคนำมาให้พรรค โดยมีนายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค และนายสุรชัย ชินชัย ทนายความผู้ที่ได้รับอำนาจจากหัวหน้าพรรค รับสำเนาดังกล่าว
    โดยนายสุรชัยกล่าวว่า ขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ให้โอกาสพรรค ทษช.ทำคำชี้แจง โดยเราจะนำสำนวนดังกล่าวไปวิเคราะห์ และทำคำชี้แจงยื่นต่อศาลในเวลาที่กำหนด เบื้องต้นจะทำในรูปแบบเอกสารยื่นต่อศาล ตามประเด็นที่ศาลตั้งเป็นข้อๆ โดยจะชี้แจงทั้งประเด็นและข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงเพื่อยื่นต่อศาล ส่วนรายละเอียดพยานหลักฐานที่จะยื่นให้ศาลพิจารณานั้น เนื่องจากยังไม่เห็นสำเนาทั้งหมด จึงยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้
ขอทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย
    ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้า นายมิตติได้นำคณะแกนนำ ทษช.ลงพื้นที่เขตสวนหลวง บริเวณตลาดคลองตันและสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ มักกะสัน เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และจะยังคงลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นพรรคการเมืองของประชาชน เรายืนยันว่ามีเจตนาอันบริสุทธิ์ เราจึงขอทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย 
    ขณะที่เวลา 10.35 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค ทษช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรค ทษช., นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจ,นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายเหวง โตจิราการ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเดินทางมาถึงที่ทำการพรรคพร้อมกัน โดยนายจาตุรนต์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าขอปรึกษาหารือกันก่อน แล้วเดี๋ยวแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง     
    จากนั้นเวลา 11.20 น. ทั้งหมดได้ร่วมกันนั่งแถลงข่าว โดยนายจาตุรนต์กล่าวว่า เรามาในฐานะสมาชิกพรรค ทุกคนยังเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังมีหน้าที่ต่างๆ อยู่ และที่ถามกันว่าวันนี้เข้ามาพรรคทำไมนั้น เมื่อพรรคกำลังเผชิญปัญหา เพราะเราต้องมาร่วมกันคิดเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเต็มความสามารถที่สุด เราได้ติดตามสถานการณ์โดยตลอดตั้งแต่มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรคด้วยความห่วงใยมาตลอด 
    นายจาตุรนต์กล่าวว่า จากการรับฟังการแถลงของกรรมการบริหารหลายครั้งหลังวันที่ 8 ก.พ. เห็นว่าทุกคนมีเจตนาดี ทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ เมื่อสถานการณ์มาถึงขั้นศาลจะวินิจฉัยยุบพรรค ทษช.หรือไม่นั้น และดูจากข้อกล่าวหาที่บอกเป็นปรปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เมื่อเรื่องกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของศาล เราจึงต้องรอการพิจารณาของศาลก่อน ดังนั้นการรณรงค์หาเสียงและการปราศรัย รวมถึงการจัดกิจกรรมพบปะประชาชนจำนวนมาก จะงดกิจกรรมเหล่านี้ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแทรกซ้อน ส่วนการดำเนินการในชั้นศาล หากเรามีช่องทางใดที่จะช่วยได้ยืนยันว่าเราพร้อมช่วยและเต็มใจร่วมแก้ปัญหาของพรรคไปถึงที่สุด และยังผูกพันกับพรรค 
    นายณัฐวุฒิขยายความว่า ผู้สมัคร ส.ส.กว่า 100 เขต ยังคงมีสถานะเป็นผู้สมัคร มีพันธะผูกพันต้องทำงานให้กับประชาชน ก็ต้องเดินหน้าพบปะประชาชนต่อไป เพียงแต่ทีมรณรงค์หาเสียงจากส่วนกลางจะยุติภารกิจเพื่อรอให้สถานการณ์เดินไปจนได้ข้อสรุปจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพราะเราอยากให้พรรคมีสมาธิในเรื่องคดีความ
    เมื่อถามว่า กรณีนี้นายณัฐวุฒิและนายจาตุรนต์จะยังอยู่ในตำแหน่งประธานรณรงค์หาเสียงและประธานยุทธศาสตร์พรรคอยู่ใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า เป็นสมาชิกพรรค ทษช.ที่เดินเข้ามาก็บอกกล่าวกับพี่น้องประชาชนว่าภารกิจคือนำพาบ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตย และเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชน ดังนั้น ภารกิจนี้ยังคงอยู่ไม่ว่าอยู่ในบทบาทหน้าที่ใดก็ตาม จะขอยืนหยัดอยู่กับพรรคจนกว่าสถานการณ์ได้ข้อยุติ ไม่ว่าจะในทางใดก็ตาม สถานะความเป็นความสมาชิกพรรค ไม่สามารถที่จะทิ้งไปได้
    เมื่อถามว่า การหยุดรณรงค์หาเสียงจะกระทบต่อความนิยมของพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า ขณะนี้เราดูเรื่องความเหมาะสมของสถานการณ์ ถ้าดูจากข้อกล่าวหาและประเด็นที่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การดำเนินการในลักษณะที่ต้องปราศรัยพบกับคนจำนวนมากไม่น่าเป็นผลดี และเราน่าจะต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมการชี้แจงในกระบวนการ และขั้นตอนในศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าสิ่งที่พรรคชี้แจงและรณรงค์กับประชาชนตลอดช่วงที่ผ่านมาก็น่าจะเป็นความเข้าใจต่อประชาชน การจะหยุดพักการจัดชุมนุมปราศรัยไม่น่าจะเสียหายอะไร การพูดคุยชี้แจงกับประชาชนจะเกิดขึ้นหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีข้อยุติตัดสินแล้ว เราจะไม่ใช้วิธีชี้แจงกับประชาชนระหว่างการพิจารณา
อ๋อยลั่นแจงแทน กก.บห.ไม่ได้
    เมื่อถามว่า เมื่อไม่ได้ไปร่วมยื่นชื่อแคนดิเดตนายกฯ กับพรรคในวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา จะไปช่วยชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร นายจาตุรนต์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าจะไปในสถานะไหน รวมถึงการได้รับเชิญให้ไปชี้แจงด้วยหรือไม่ แต่จะชี้แจงเท่าที่ทำได้ให้เต็มความสามารถ เช่น การได้รับการหารือหรือพูดคุยกับกรรมการพรรคหลายท่านหลังวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ทราบว่าหลายท่านเจตนาดี มีความบริสุทธิ์ใจที่จะทำในสิ่งที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ซึ่งตรงกันกับที่ กก.บห.พรรคได้ชี้แจงกับประชาชนไปแล้ว ส่วนอื่นๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะ เป็นอำนาจของคณะ กก.บห.พรรค ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่สามารถชี้แจงได้ การประกาศยุติการปราศรัยเวทีใหญ่นั้นไม่ใช่มติของพรรค แต่เป็นมติของผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้
    ถามต่อว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง นายจาตุรนต์และนายณัฐวุฒิหายตัวไปจากพรรคเลย สะท้อนถึงการเกิดรอยร้าวในพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า ไม่มีรอยร้าวอะไร เมื่อเกิดเรื่องขึ้นเรามีการติดตามสถานการณ์ มีความห่วงใย การตัดสินใจต่างๆ หลังจากนั้นเข้าใจว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะ กก.บห.พรรคโดยตรง รวมถึงการหาทนาย และผู้ที่จะมาชี้แจง ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นหน้าที่ของคณะ กก.บห.พรรค มาถึงวันนี้มาเพื่อร่วมแก้ปัญหา สิ่งที่เราได้ชี้แจงไปคือการร่วมช่วยในการแก้ปัญหา และยืนยันว่าเราพร้อมร่วมแก้ปัญหาไปจนถึงที่สุด
    เมื่อถามว่าเสียใจหรือไม่ที่ตัดสินใจมาอยู่พรรค ทษช. นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สิ่งที่เดินหน้ามาวันนี้มีเจตนาเดียวคือนำพาบ้านเมืองกลับสู่แนวทางประชาธิปไตย สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะมีที่มาและเหตุผลของมันอยู่แล้ว
    ขณะที่นายจาตุรนต์กล่าวว่า สิ่งที่เราดำเนินการมาเป็นไปตามที่เราตั้งใจ และได้ประกาศไว้ทุกอย่าง อย่างเต็มความสามารถ และได้รับความเข้าใจจากประชาชนที่เห็นด้วย และเข้าร่วมกับเรา ไม่มีอะไรที่รู้สึกเสียดาย ทั้งนี้ เมื่อเรื่องไปถึงศาลแล้วเราจะไม่แสดงความคิดเห็นนอกศาล ส่วนการแสดงความคิดเห็นอื่นๆ ที่เห็นว่าจำเป็นจะยังดำเนินต่อไป
    เมื่อถามว่า เป็นการลอยแพพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ตอบติดตลกว่า ไม่ได้เป็นการลอยแพ และไม่ใช่การมาพรรคครั้งสุดท้าย 
    ทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ทุกคนที่ร่วมแถลงก็เดินทางออกจากพรรคทันที
    ในเวลา 16.10 น. นายพิชิต ชื่นบาน ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรค ทษช. กล่าวในเรื่องนี้ว่า เราน้อมรับทุกอย่าง และให้ฝ่ายกฎหมายเป็นผู้พิจารณาประมาณ 2-3 วัน เพราะมีเวลา 7 วัน ส่วนการหาเสียงของผู้สมัครนั้น ก็ถือเป็นดุลพินิจของผู้สมัครและฝ่ายอื่นๆ จะไปทิ้งน้ำหนักให้กรรมการบริหารเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ผู้สมัครแต่ละท่านต้องมีวุฒิภาวะว่าจะต้องหาเสียงต่อหรือไม่ เพราะขณะนี้เราเป็นคู่กรณี กกต.ก็ไม่ได้แถลงรายละเอียดใดออกมา ดังนั้น พรรคก็ไม่ควรไปแถลงอะไรแทน กกต.
    “ประเด็นต่างๆ ขอให้เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายพิจารณา และขอเวลาให้ฝ่ายกฎหมายทำงานก่อน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด โดยยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เราจะทำให้ดีที่สุด และพรรคเองก็น้อมรับทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งฝ่ายกฎหมายทราบรายละเอียดคำร้องแล้ว เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายที่จะไปคิด แล้วนำมานำเสนอในวันที่ 18 ก.พ.นี้” นายพิชิตกล่าว
ทุกอย่างถูกลิขิตมาแล้ว    
    ขณะเดียวกัน ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะออกเอกสารข่าว นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค ทษช. เข้ายื่นร้องต่อศาลรัธรรมนูญขอให้ไม่รับคำร้องของ กกต.ที่ให้วินิจฉัยสั่งยุบพรรค ทษช. โดยระบุว่า คำร้องของ กกต.อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และหากศาลรัฐธรรมนูญดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป กรณีย่อมอาจขัดต่อหลักนิติธรรม ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง กำหนดไว้
นอกจากนั้น กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดยนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง และนายเอกชัย หงส์กังวาน รวมทั้งแนวร่วม เดินทางมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมตะโกนคัดค้านการยุบพรรค และอ่านแถลงการณ์ รวมทั้งได้รวมตัวถือป้ายผ้าสีดำขนาดใหญ่ระบุข้อความโกงเลือกตั้ง เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วย
    ขณะที่ พ.ต.ท.กิตติฤทธิ์ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 จ.บุรีรัมย์ พรรค ทษช.พร้อมทีมงาน เข้าไหว้สักการะศาลหลักเมือง และพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 อธิษฐานขอให้พรรคผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยดี พร้อมเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียง ทำความเข้าใจกับประชาชนครอบคลุมมากที่สุด 
ส่วนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช มารดา ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ทษช. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก "เสาวนิต การสุทธิ์" และ "Paul PK" ที่โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทโดยพาดพิงถึงตนเอง และ ร.ท.ปรีชาพล
    ทั้งนี้ นางระเบียบรัตน์ยังกล่าวตอบข้อถามกรณีหากศาลรัฐธรรมวินิจฉัยยุบพรรค ทษช. และตัดสิทธิการเมือง นางระเบียบรัตน์กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ทุกอย่างมีลิขิตมาแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ครอบครัวดิฉันพร้อมยอมรับ แต่อยากขอความเมตตา เพราะเชื่อว่าลูกชายมีความรู้ความสามารถ ที่จะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็พร้อมทำงานเพื่อประเทศชาติ ดิฉันมีความภูมิใจในตัวลูกชายอย่างมาก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"