ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net "ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาขอศาลรัผบธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7 (13) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 แจ้งให้ผู้ร้องทราบและส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง ... ศาลนัดพิจารณาครั้งต่อไปในวันพุธที่ 27 ก.พ.62 เวลา 13.30 น." เท่ากับเริ่มนับหนึ่งไต่สวนคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) สิ่งที่ต้องลุ้นต่อคือ ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้วิธีการไต่สวนคำร้องอย่างไร จะพิจารณาแค่เอกสารจากฝ่ายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กับ ทษช.ที่ส่งมา ดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะมาตรา 92 (2) ของกฎหมายพรรคการเมือง แล้วตัดสินเลย หรือจะเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้ส่งตัวแทนไปเบิกความในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ สู้คดีในห้องไต่สวนของศาล หากศาลรัฐธรรมนูญใช้วิธีการไต่สวนคำร้องแบบนี้ ก็มีโอกาสที่การวินิจฉัยอาจเสร็จสิ้นหลังวันเลือกตั้ง แต่ที่แน่ๆ 27 ก.พ. ยังไม่ใช่วันชี้ชะตา ทษช. "เชาวนะ ไตรมาศ" เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ การันตียังไม่ใช่วันตัดสินคดี เพราะยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา หากได้ข้อสรุปศาลถึงจะนัดลงมติอีกครั้ง
๐ ตัดมาที่ฝั่งจำเลย พรรคไทยรักษาชาติ แม้ภายนอก ทั้งแกนนำ-ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ ตลอดจนกรรมการบริหารพรรค ฝ่ายกฎหมาย จะเสียงแข็งบอกว่าพร้อมสู้คดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ แต่ข้อเท็จจริงทุกคนยอมรับสภาพว่า โอกาสพลิกชนะในชั้นศาลรัฐธรรมนูญมีน้อยจนถึงน้อยมาก ด้วยเหตุนี้หลายคนก็ทำใจแล้ว ถ้าศาลวินิจฉัยก่อนเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขต 175 คน กับบัญชีรายชื่อ 108 คน รวม 283 คน ขาดคุณสมบัติสมัคร ส.ส.ทันที ก็ยังไม่หนักสาหัสสากรรจ์เท่ากับกรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน ไม่ใช่แค่หมดสิทธิ์เที่ยวนี้ แต่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองยาวนานถึง 10 ปี ไม่ว่าจะเป็น ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค, นายฤภพ ชินวัตร, นางสุณีย์ เหลืองวิจิตร, นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์, นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล, นายมิตติ ติยะไพรัช, นายต้น ณ ระนอง, นายวิม รุ่งวัฒนจินดา, นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์, นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ, นางสาวขัตติยา สวัสดิผล, นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์, นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์, นายรุ่งเรือง พิทยศิริ, นายจุลพงศ์ โนนศรีชัย
๐ แต่ถามว่า "นายใหญ่" ทักษิณ ชินวัตร คนอำมหิต 2019 ตามคำนิยามที่กำนันสุเทพว่าไว้ อยากได้แบบไหน ก่อนหรือหลัง 24 มีนาคม ประเมินว่าคงต้องการให้ตัดสินก่อน เพื่อจะได้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย ถ้ายุบพรรค ทษช.ก่อนเลือกตั้ง ฝ่ายทักษิณจะได้ปรับแผนสั่งหัวคะแนนรณรงค์ให้ประชาชนเทเสียงไปยังพรรคเครือข่ายแทน ทั้งพรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ โดยเฉพาะเขตที่ไม่มีผู้สมัครพรรคเพื่อไทย เช่น สนามเมืองกรุงที่หลบไม่ให้ชนกัน เพื่อไทยส่ง 22 เขต ทษช.ส่ง 8 เขต แต่เพื่อชาติกับประชาชาติส่งคนลงสมัครครบทุกเขต ถึงแม้ตัวผู้สมัครอาจแพ้ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ แต่จะได้คะแนนไปบวกเป็นเก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์ให้สองพรรคนี้ แล้วมาจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง หากเอาสูตรนี้ โดยเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง บรรดาผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ระดับแกนนำอย่าง จาตุรนต์ ฉายแสง, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, พิชัย นริพทะพันธุ์ ถึงจะชวดไม่ได้เข้าสภา ก็อาจมีลุ้นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหลัง 24 มีนาคม ในช่วงรอ กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ที่ใช้เวลาถึง 60 วัน และน่าจะรู้ผลก่อนเปิดประชุมสภาฯ นัดแรกแน่นอน อันเป็นสูตรที่ฝ่ายทักษิณจะเสียหายมากกว่า เพราะหาก กกต.ยังไม่รับรองผลให้กับคนของไทยรักษาชาติทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ แล้วสั่งยุบพรรค เท่ากับทุกคะแนนของไทยรักษาชาติกลายเป็นศูนย์หมด ดังนั้น ฝ่ายทักษิณจึงย่อมต้องการให้เคลียร์ไปเลยก่อน 24 มีนาคม ซึ่งแนวโน้มก็น่าจะเป็นเช่นนั้น!!!!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |