นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เด็กปฐมวัยอายุ 3-7 ปี เป็นช่วงวัยที่สำคัญ เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นการพัฒนาร่างกาย อารมณ์ สังคม บุคลิกภาพ และสติปัญญาของเด็ก การปลูกฝังพัฒนาการใด ๆ ในวัยนี้ จะเป็นพื้นฐานที่ส่งผลต่อความคิดอ่านเมื่อโตขึ้น กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ทำการปรับหลักสูตร “โครงการมหิงสาสายสืบ” ที่เดิมเป็นโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนอกห้องเรียนสำหรับเด็กโต มาดำเนินการในกลุ่มเด็กปฐมวัย โดยเริ่มนำร่องเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะไม่เพียงจะมีครูและเด็กเล็กจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมเป็นจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังได้ผลตอบรับที่น่าชื่นชม เช่น การทำให้เด็ก ๆ มองเห็นคุณค่าของทรัพยากรท้องถิ่น การคำนึงถึงปัญหาขยะซึ่งตรงกับนโยบายรัฐบาล จึงอยากฝากถึงโรงเรียนและครูช่วยนำไปขยายผลและสานต่อ
“เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่เราต้องปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก ซึ่งโครงการนี้สามารถทำให้เด็กได้เรียนรู้ว่าสิ่งมีชีวิตมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร เราไม่สามารถอยู่ได้เพียงลำพังอย่างไร จึงอยากขอขอบคุณโรงเรียน ครูพี่เลี้ยงและเด็กที่น่ารักทุกคนที่มาร่วมกันสร้างสังคมสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศชาติ นอกจากนี้ ทส. ยังคาดหวังว่า อนาคตจะได้ทำงานร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำโครงการลักษณะนี้ไปขยายผลสร้างการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ก็มีหลักสูตรสิ่งแวดล้อมศึกษาและอื่น ๆ อีกหลายหลักสูตร จึงมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับสถานศึกษาและกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป” นายวิจารย์ กล่าว
ด้าน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักการและแนวคิดของโครงการมหิงสาสายสืบปฐมวัย ค่อนข้างมีความสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ.2560 ที่ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศใช้ในปีการศึกษาที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้แบบ Active Learning ภายใต้กระบวนการ 4 ขั้นตอน คือ 1.ค้นหา 2.สำรวจ 3.อนุรักษ์ และ 4.แบ่งปัน โดยมุ่งเน้นการทำกิจกรรมนอกห้องเรียนหรือใช้ห้องเรียนธรรมชาติเป็นสื่อการเรียนการสอน เพื่อให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง สามารถพัฒนาทักษะทางร่างกายและจิตใจ ควบคู่กับการสอดแทรกเนื้อหาและแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ผลการดำเนินโครงการนำร่องเมื่อปี 2561 ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากโรงเรียนทั่วประเทศอย่างดียิ่ง โดย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ได้จัดพิธีมอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ให้แก่ครูพี่เลี้ยงและเด็กที่ทำกิจกรรมผ่านเกณฑ์การพิจารณา เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ร่วมโครงการ โดยมีผู้เข้ารับรางวัลรวม 118 คน ประกอบด้วย ครูพี่เลี้ยง 38 คน และตัวแทนเด็ก ๆ 80 คน
“โครงการมหิงสาสายสืบปฐมวัย จะก่อประโยชน์แก่ครูผู้สอนมากเพราะสามารถนำกระบวนการต่าง ๆ ไปจัดประสบการณ์การเรียนรู้ได้อย่างหลากหลาย สอดคล้องกับบริบทของตนเอง และเหมาะสมกับช่วงวัยของเด็กได้ ซึ่งเป็นส่วนที่จะช่วยขับเคลื่อนงานของครูระดับปฐมวัยในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ตามศตวรรษที่ 21 เพื่อส่งเสริมการสร้างพลเมืองเพื่อสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นในสังคมไทยต่อไป” นายรัชฎา กล่าวย้ำ
ขณะที่ น.ส.ปณิตา ศิรารักษ์ ครูโรงเรียนบ้านหนองขาม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับรางวัล เปิดเผยว่า โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนขนาดเล็กอยู่ในป่า มีนักเรียนระดับอนุบาลเข้าร่วมโครงการ 22 คน โดยภาพรวมกิจกรรม คือ การให้เด็กสำรวจเพื่อทำความรู้จักกับพื้นที่ว่าในชุมชนของเขามีทรัพยากรอะไรบ้าง มีความสัมพันธ์กันอย่างไร และจะรักษาสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร เมื่อได้องค์ความรู้เหล่านี้ออกมาแล้ว ก็ให้นำมาถ่ายทอดให้รุ่นพี่ ครู อาจารย์ และผู้ใหญ่ในชุมชนฟัง ซึ่งเด็กจะสนุกมากกับการเรียนรู้เพราะเขาได้ออกไปทำกิจกรรมเสาะแสวงหา ซึ่งสอดคล้องกับวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็น ทำให้เขาซึมซับเกี่ยวกับธรรมชาติในท้องถิ่นได้ง่าย
น.ส.วันไซนับ แวดอเลาะ ครูโรงเรียนบ้านบุโบย จ.สตูล กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะช่วยปลูกฝังความรู้และจิตสำนึกให้เด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโรงเรียนใช้บริบทที่อยู่ในชุมชนชายทะเลชักชวนเด็ก 11 คน ไปร่วมออกสำรวจชุมชนจนเด็กเห็นว่ามีปัญหาขยะชายหาด จึงมาช่วยกันคิดกิจกรรม เช่น การนำกลับมาใช้ใหม่โดยนำไปทำสิ่งประดิษฐ์ การปลูกฝังเรื่องการรักษาความสะอาด ซึ่งเด็กทุกคนกระตือรือร้นที่จะทำให้ชายหาดสะอาด จึงหวังว่าเมื่อเขาโตขึ้นจะเป็นกำลังสำคัญในการปกป้องสิ่งแวดล้อมให้กับท้องถิ่น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |