14 ก.พ. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นประธานแถลงนโยบายการจำหน่ายสลากและการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาให้กับคู่ค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลุ่มผู้ซื้อจองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีความถี่ในการทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าฯสม่ำเสมอ และเป็นผู้ที่รับสลากในพื้นที่ไปรษณีย์ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงกว่า 500 ราย

ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาตามแผนระยะที่ 3  ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมถึงความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสลากรวมชุดแบบ 2 ใบ และการพิมพ์สลากฯคละเลขจำนวน 57 ล้านฉบับที่เปิดจำหน่ายในงวดวันที่ 1 มี.ค. 2562 ตลอดจนมีการขอความร่วมมือในการจำหน่ายสลากตามราคาที่กำหนด โดยสลากฯใบละ 80 บาท และสลากฯชุด 2 ใบ ราคา 160 บาท

แหล่งข่าวจากสำนักงานสลากฯ เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้แจ้งกับผู้ค้ารายย่อยว่ากำลังจัดทำบัตรประจำตัวผู้ค้าสลากฯ รายย่อย  เพื่อแจกให้กับผู้ซื้อจองทั่วประเทศกว่า 1 แสนราย ในงวดวันที่ 16 มี.ค.นี้ เพื่อต้องการให้ผู้ค้านำบัตรไปแสดงตัวตนว่าเป็นผู้ค้าสลากที่แท้จริงให้กับผู้รับทราบ โดยภายในบัตรจะระบุข้อมูลของผู้ค้า ชื่อ นามสกุล พร้อมรหัสคิวอาร์โค้ด เพื่อให้ประชาชน ได้ตรวจสอบก่อนซื้อ รวมถึงยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ขายว่าเป็นผู้ค้าที่ถูกต้องหรือไม่  มีการจำหน่ายตามราคา 80 บาท หรือหากพบขายเกิน 80 บาทก็ร้องเรียนมาที่สำนักงานสลากฯเพื่อไปตรวจสอบได้

“การจัดทำบัตรประจำตัวผู้ค้าสลากรายย่อยฯ เพื่อต้องการจัดระเบียบเก็บข้อมูลผู้ซื้อจองสลากฯ ให้ชัดเจนขึ้นตามนโยบายสลากฯ 4.0 โดยเมื่อระบบสมบูรณ์แล้วจะรู้ว่า ผู้ค้ารายย่อยมีปริมาณการซื้อจองในแต่ละงวดเท่าไร มีบริเวณจุดจำหน่ายอยู่ที่ไหน และที่สำคัญดูว่ามีการรับสลากฯแล้วนำไปขายปลีกจริงหรือไม่ ตลอดจนยังสามารถตรวจสอบการขายเกินราคาได้ด้วย เช่น ถ้าใครถูกร้องเรียนขายเกินราคาบ่อยก็อาจถูกตัดสิทธิได้” แหล่งข่าว กล่าว

อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าการจัดทำบัตรประจำตัวผู้ค้าสลากฯรายย่อย มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ค้าตัวจริงสามารถแสดงตัวตนและมีความน่าเชื่อถือในการจำหน่ายสลากฯมากขึ้น  ส่วนผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนซื้อจอง และไม่ได้รับบัตรประจำตัวจากสำนักงานสลากฯ ยังคงขายสลากฯ ได้ตามปกติอยู่ โดยไม่ถือเป็นความผิดเพราะอาชีพการขายสลากฯ ไม่ได้อาชีพต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตก่อน ยกเว้นถ้าขายเกินราคาถึงผิดกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ดังนั้น ผู้ที่ซื้อสลากฯ จากยี่ปัวะไปขายต่อ ก็ยังขายได้ตามปกติในราคาที่กฎหมายกำหนดใบ 80 บาท

“ที่ผ่านมาการจำหน่ายสลากฯให้กับกลุ่มผู้ค้าโควตาถาวร  สมาคม มูลนิธิ องค์กรสาธารณกุศลงวดละ 33 ล้านใบ สำนักงานสลากฯ มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้มีข้อมูลของผู้ขายที่เป็นองค์กรแน่ชัด แต่ในส่วนของผู้ค้ารายย่อยที่ซื้อจอง ซึ่งเป็นสลากฯกลุ่มใหญ่อีก 57 ล้านใบ ยังมีข้อมูลน้อย ดังนั้นเมื่อทำบัตรประจำตัวผู้ค้าสลากฯรายย่อยแล้วจะช่วยให้สำนักงานสลากฯ เก็บข้อมูลได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น” แหล่งข่าว ระบุ