14 ก.พ.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ในที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ได้จัดทำบัญชีรายชื่อบุคคลที่มาสมัครหรือที่ ก.อ. เห็นสมควรได้รับเลือกเป็นประธาน ก.อ. ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2561 (ฉบับที่ 3 มีการแก้ไขใหม่) มาตรา 18 (1) และ ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา 18 (5) โดยมีรายชื่อบุคคลที่มาสมัครหรือที่ ก.อ. เห็นสมควรเป็นประธาน ก.อ. ดังนี้ 1.นายทวีศักดิ์ วรพิวุฒิ อดีตรองอัยการสูงสุด 2.นายปรีชา วราโห อดีตรองอัยการสูงสุด 3.นายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุด 4.นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 5.นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด

โดยรายชื่อบุคคลที่มาสมัครเป็น ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการงบประมาณ ด้านการพัฒนาองค์กร หรือด้านการบริหารจัดการ (ก.อ.บุคคลภายนอก) ดังนี้ 1.พลเอก จิระ โกมุทพงศ์ อดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญ 2.นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร ประธานคณะกรรมาธิการแรงงานและสวัสดิการสังคม 3.นายณัฐเมศร์ เรืองพิชัยพร อดีตกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ 4.นายธรรมนิตย์ สุมันตกุล อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา 5.นายนันทวัชร์ สุพัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาระบบบริหาร 6.พล.ต.ต.บุญส่ง จีระเรืองวัฒนา อดีตรองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี 7.นางพิมพร โอวาสิทธิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ 8.นายไพรัช วรปาณิ กรรมการผู้อำนวยการสถาบันการเงิน 9.นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม

สำหรับผู้มีสิทธิรับเลือกเป็น ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 2 ประเภท มีดังนี้ ข้าราชการอัยการตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป ซึ่งมิได้เป็นกรรมการอัยการโดยตำแหน่ง มีจำนวนทั้งสิ้น 1,167 คน แต่มีผู้ประสงค์แนะนำตัวและแสดงวิสัยทัศน์ ดังนี้ 1.นายชาตรี สุวรรณิน อธิบดีอัยการ สำนักงานการบังคับคดี 2.ร้อยโท ไชยา เปรมประเสริฐ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี 3.นายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง 4.นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด 5.นายพลสิทธิ์ คำสอน อัยการจังหวัดชัยนาท 6.นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ 7.นายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา 8.นายศุภพงษ์ วงศ์รัตนานุกูล รองอัยการสูงสุด 9.นายสมโภชน์ ลิ้มประยูร อธิบดีอัยการภาค 7 10.เรือโท สายันต์ สุโขพืช อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดยะลา 11.นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ อธิบดีอัยการ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ 12.นายสิทธิพร ครุฑนาค อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 2

ผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งเคยรับราชการเป็นข้าราชการอัยการมาแล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น 332 คน แต่มีผู้ประสงค์แนะนำตัวและแสดงวิสัยทัศน์ ดังนี้ 1.นายกิตติ ไกรสิงห์ อดีตรองอธิบดีอัยการภาค 6 2.นายประสาน หัตถกรรม อดีตรองอัยการสูงสุด 3.นายภาคินัย สุวรรณจินดา อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแรงงาน 4.นายวิทยา ปัตตพงศ์ อดีตรองอัยการสูงสุด 5.นายสิรินทร์ เฉลิมวัฒน์ อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่น่าจับตามองที่มีโอกาสได้ขึ้นเป็น ประธาน ก.อ.ตามกฎหมายใหม่คนแรกนั้น คงไม่พ้นนายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุดคนที่ 11 ที่เคยถูก คสช.สั่งให้พ้นตำแหน่งตอนเข้ายึดอำนาจใหม่ๆ ดูได้จากคะแนนความนิยมครั้งจากการเลือกตั้ง ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ครั้งซ้อน ที่มาจากอัยการทั่วประเทศคะแนนถล่มทลายแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ส่วนอีกคน ได้แก่ นายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุดคนที่ 8

ส่วน ก.อ.สัดส่วนที่เป็นข้าราชการอัยการตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปซึ่ง ต้องเลือก4คนจากจำนวนทั้งสิ้น 1,167 คน ที่น่าสนใจก็มี นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นอัยการชื่อดังให้ความรู้กฎหมายที่ปรากฎหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง และนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งมีคิวที่จะขึ้นสู่ตำแหน่งอัยการสูงสุดต่อจากนายเข็มชัย ชุติวงศ์

สำหรับ มาตรา 18 บัญญัติให้คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ตามกฎหมายใหม่จำนวน 15 คนประกอบด้วย ประธาน ก.อ. (ที่มาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย) โดยมีอัยการสูงสุดเป็นรองประธาน  ก.อ. 

ส่วน ก.อ.ประกอบด้วย รองอัยการสูงสุดตามลำดับอาวุโส จำนวน 5 คน กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 คน ซึ่งมาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย ประกอบด้วย อัยการชั้น 5 ขึ้นไปจำนวน 4 คน อัยการที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 2 คน รวมเป็น 6 คน และกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 คน ซึ่งไม่เป็นหรือเคยเป็นอัยการมาก่อนและเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ การพัฒนาองค์กร หรือการบริหารจัดการ (มาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย) โดยให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ เป็นเลขานุการ ก.อ.

สำหรับคุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นประธาน ก.อ. จะเป็นผู้รับบำเหน็จบำนาญตามกฏหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และเคยรับราชการเป็นข้าราชการมาแล้วในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีอัยการหรืออธิบดีอัยการภาคหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า

ทั้งนี้ ต้องไม่เคยเป็นสมาชิกหรือเป็นเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองในระยะสิบปีก่อนได้รับเลือกโดยประธาน ก.อ. มีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเก้าโปรดกับหม่อมแต่งตั้ง ส่วน ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปีนับแต่วันที่ อสส. ประกาศรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็น  ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยประธาน  ก.อ. และ  ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิดำรงตำแหน่งได้วาระเดียว

สำหรับกำหนดการดำเนินการเลือกประธาน ก.อ. และ ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ มีการคละบัตรส่งบัตรลงคะแนนให้แก่สำนักงานทั่วประเทศ ในวันที่ 20 ก.พ. 2562 จะดำเนินการปิดหีบบัตรลงคะแนน เวลา 16.30 น. ของวันที่ 13 มี.ค.นี้ และจะมีการดำเนินการตรวจนับคะแนน ในวันที่ 14 มี.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. จนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะทำการถ่ายทอดสด (Broadcast) การคละบัตรและการตรวจนับคะแนน ผ่านทาง Youtube ท่านสามารถเข้ารับชมโดยคลิ๊กที่ Banner หัวข้อ “การเลือกประธาน ก.อ. และ ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ ปี 2562 บนเว็บไซด์สำนักงานอัยการสูงสุด www.ago.go.th