14 ก.พ.62- ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Bow Nuttaa Mahattana ว่าวาเลนไทน์ อาจจะไม่ใช่วันพิเศษ แต่เป็นโอกาสพิเศษให้ผู้คนได้พูดถึงความรักในแง่มุมต่างๆ เลยอยากมาเล่าความคิดและประสบการณ์ในเรื่องที่คนไม่ค่อยพูดถึงกัน นั่นคือ การยุติความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์ของคนเรามีพลวัต หมายความว่ามีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่อยู่นิ่ง เหมือนอายุที่มาพร้อมความเติบโต และพลวัตในความสัมพันธ์ก็มาได้หลายรูปแบบ
บางคู่เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน บางคู่เติบโตไปคนละทิศละทาง เราเรียกว่า grow apart ไม่มีใครผิด แค่เพียงเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราพิจารณาความสัมพันธ์ดู พบว่าเรายืนอยู่คนละที่ สนใจคนละสิ่ง หัวเราะร้องไห้กันคนละเรื่อง หาจุดร่วมแทบไม่เจอ ก็ถึงเวลาที่ต้องรับความจริงแล้วจากกันด้วยดี เพื่อไปเติบโตตามทางของตัวเอง
ความสัมพันธ์ในช่วงต้นๆของชีวิตเรามักจบด้วยเหตุผลนี้ และแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่ดีต่อไป
การจบความสัมพันธ์บางครั้งเกิดจากภาวะที่บางคนเรียกว่าหมดความรู้สึก ไม่ยินดียินร้าย ไม่ได้รู้สึกถึงความรักแบบคนรักอีกต่อไป อันนี้ที่จริงควรจะง่ายสุด คือไม่มีอะไรให้วิเคราะห์อีก หมดคือหมด เมื่อไม่ได้รู้สึกแบบเดิม สถานะเดิมก็ควรจบ เปลี่ยนสถานะกันใหม่ เปลี่ยนรูปแบบความรักไปตามแต่จะทำความเข้าใจกัน จบความสัมพันธ์ที่หายไปแล้ว ปลอดดราม่า
แต่ส่วนใหญ่จะมีฝ่ายหนึ่งที่ยื้อ เพราะการจบสัมพันธ์แบบนี้ค่อนข้างทำให้เกิดการสูญเสียความมั่นใจ หลายคนรับไม่ได้ เกิดดราม่ายาวนาน สุดท้ายต้องจบอยู่ดี สู้ยอมรับความจริงแต่แรก แล้วไปฟื้นความมั่นใจกลับมาจากอย่างอื่นง่ายกว่า เวลามีค่าเกินกว่าจะเผาเล่นไปกับการหลอกตัวเอง
การยุติความสัมพันธ์ที่อาจถูกมองว่าเจ็บปวดสุดสำหรับคนทั่วไป คือการหยุดความสัมพันธ์ที่เข้าใจว่าเกิดจากบุคคลที่สาม อันที่จริงถ้าพิจารณาส่วนใหญ่น่าจะเกิดการผสมผสานปัจจัยในสองแบบแรกหรือมีเหตุปัจจัยอื่นๆมาก่อน แล้วทั้งคู่ไม่รู้ตัวหรือละเลยที่จะทบทวนความจริง
ส่วนตัวเป็นคนไม่เชื่อว่า”มือที่สาม” นั้นมีอยู่จริง หากเมื่อไหร่มีบุคคลที่สามเข้ามาในความสัมพันธ์ เราเชื่อว่าเป็นเพราะเราสองคนปล่อยมือกันมาก่อนนานแล้ว ความสัมพันธ์นั้นจบลงก่อนแล้วไม่ว่าเราจะตระหนักหรือไม่ เมื่อเกิดขึ้นเราจึงแค่มองเห็นและเข้าใจภาพความเป็นจริง แล้วปรับเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์เดิมให้ตรงกับความจริงนั้น จากสามีภรรยาก็กลายเป็นญาติ คือคงความเป็นพ่อแม่และเป็นกัลยาณมิตร ร่วมกันทำหน้าที่ที่มีต่อลูก ปลอดดราม่าเช่นกัน
แต่หากความสัมพันธ์ใดมีความไม่จริงใจเกิดขึ้น หรือมีสิ่งที่ทำร้ายความรู้สึกซ้ำซาก มีการปฏิบัติไม่ดีต่อกัน บางคนถึงขั้นถูกทำร้ายร่างกาย ก็ไม่น่าจะจำเป็นต้องไปพยายามหาคำตอบอะไร คิดง่ายๆว่าถ้ามนุษย์คนไหนไม่ได้มีคุณสมบัติที่ทำให้เราอยากคบเป็นเพื่อน ก็ไม่น่าที่จะเก็บไว้เป็นคนรัก
การเริ่มต้นที่ผิดพลาดไม่จำเป็นต้องจบอย่างหายนะ
ในความรักที่ดี ไม่ควรมีใครต้องเล่นบทบาทสมมุติ แสร้งหลอกกันและกันว่าทุกอย่างยังโอเค ความสัมพันธ์ที่ดีควรมีการทบทวนเพื่อให้มองเห็นภาพแห่งความเป็นจริงอยู่เสมอ จะได้ไม่ต้องแบกของชำรุดติดตัวยามเดินทางไกลไปบนเส้นทางชีวิต ทำให้มือไม่ว่างเมื่อเดินไปเจอสิ่งที่มีคุณค่ากับตัวเอง
ความรักทำให้คนมีพลัง สิ่งที่ไม่ใช่ความรักจะบั่นทอน การเรียนรู้ที่จะทบทวนจะช่วยให้เราเห็นภาพแห่งความจริงอยู่เสมอและยุติความสัมพันธ์ได้ทันท่วงที เป็นอิสระจากการยึดติด เอาพลังงานไปใช้กับสิ่งที่สร้างสรรค์ และความรักที่มาพร้อมกับความเติบโตและการรู้จักตัวเอง
Happy Valentine’s ค่ะ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |