สรุปและคาดการณ์เรื่องลงทุน


เพิ่มเพื่อน    

    จากไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ที่ผ่านมา มีธุรกิจเงินร่วมลงทุน (venture capital – VC) ทั่วโลกเกือบ 64,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การระดมทุนสูงสุดในไตรมาสนี้เป็นของ Juul บริษัทผลิตบุหรี่ไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกา มีมูลค่า 12,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยวีซีของ Juul ครั้งนี้เป็นการร่วมลงทุนสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Ant Financial ของประเทศจีน มีมูลค่า 1อ4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 2/2561 ทำให้ธุรกิจร่วมลงทุนทั้งหมดทั่วโลกสูงถึง 255,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 เพิ่มขึ้นจากปี 2560 มีการร่วมลงทุนรวมทั้งหมด 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงาน KPMG Enterprise Venture Pulse 
    ทั้งนี้ ตามรายงานคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทวีปอเมริกา ทวีปเอเชีย และทวีปยุโรป มีมูลค่าการลงทุนจากวีซีสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปี 2561 แต่จำนวนครั้งในการลงทุนกลับลดลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี คือมี 15,299 ครั้ง ในปี 2561 เมื่อเทียบกับ 17,314 ครั้ง ในปี 2560 และ 20,172 ครั้ง ในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่มีจำนวนสูงที่สุด ถ้าเทียบจำนวนในแต่ละไตรมาส จะเห็นได้ชัดขึ้นว่ามีจำนวนลดลง ซึ่งในไตรมาส 4/2561 มีเพียง 3,048 ครั้ง ถือเป็นปริมาณที่น้อยที่สุดในรอบ 25 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2555 อีกด้วย
        ส่วนในประเทศไทยนั้น เอียน ธอร์นฮิลล์ ประธานฝ่ายที่ปรึกษาการซื้อขายกิจการ เคพีเอ็มจีประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีการลงทุนจากนักลงทุน VC และการลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย โดยส่วนใหญ่มักเป็นการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี การลงทุนยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ แต่ท่ามกลางบรรยากาศที่มีการแข่งขันและการประเมินมูลค่าบริษัทที่สูงมากขึ้น เนื่องจากตลาดที่เติบโตมากขึ้น
    แม้ว่าสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วง seeding stage หรือ early stage เช่น อยู่ใน series A ของการระดมทุน แต่คาดว่าในปี 2562 จะได้เห็นการระดมทุนในสตาร์ทอัพที่กำลังอยู่ในช่วง later stage เพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะธุรกิจ และการประเมินค่าธุรกิจยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ แต่การเข้าใจในแผนธุรกิจและความสามารถในการปรับแผนธุรกิจเพื่อขยายตัวในภูมิภาคจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของสตาร์ทอัพไทยในการเจริญเติบโตขึ้นอีกระดับ สิ่งนี้เองเป็นความท้าทายที่สำคัญของทั้งสตาร์ทอัพและนักลงทุน
    สำหรับอนาคตจะมีความไม่แน่นอนมากขึ้นในปี 2562 เนื่องจากปี 2561 เป็นปีที่ดีเป็นพิเศษสำหรับการลงทุน VC ทั้งในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป ซึ่งรวมถึงการร่วมลงทุนจาก VC ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 2 ครั้งด้วยกัน ทำให้ยากที่ปี 2562 จะสู้ได้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการลงทุนจากนักลงทุน VC ทั่วโลกยังคงสูง โดยเฉพาะในกองทุนที่กำลังระดมทุนในช่วง late-stage นอกจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสุขภาพ และเทคโนโลยีทางการเงินแล้ว ยังมีแนวโน้มว่าจะมีการลงทุนสูงในเทคโนโลยียานยนต์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไร้คนขับ รถยนต์พลังงานทางเลือก หรือการให้บริการขนส่งผู้โดยสาร ทางด้านเทคโนโลยีเองนั้น ปัญญาประดิษฐ์เป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีการเจริญเติบโตสูง
    ขณะเดียวกันการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จะเป็นอีกสิ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นหลายบริษัท หรือสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าทางตลาดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำลังเตรียมทำ IPO เช่น Uber และ Lyft คงน่าจะได้เห็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นหลายบริษัทเข้าสู่ IPO ถ้าบริษัทเหล่านั้นประสบผลสำเร็จ จะเห็นบริษัทอื่นๆ ตามมา
    จากข้างต้นเป็นคาดการณ์ที่น่าจะได้เห็นกันในปีนี้ แต่หากมาสรุปสถานการณ์การลงทุนของปี 256 จะพบว่า การร่วมลงทุนในการขนส่งในตัวเมือง (urban mobility) พุ่งขึ้นสูงเกือบ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 จากเดิม 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2560 ส่วนมูลค่าการลงทุนจาก VC ที่เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ในธุรกิจเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากเดิม 1,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2560 เป็น 2,340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 เทคโนโลยีทางการเกษตร (Agtech) ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน VC เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการลงทุนรวมทั่วโลกเติบโตจาก 1,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2560 เป็น 2,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 อีกด้วย.

รุ่งนภา สารพิน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"