นักทรัพยากรธรณี เผยปรากฏการณ์โคลนพุ ผุดกลางทุ่งนา ที่ จ.นครราชสีมา เกิดจากน้ำใต้ดินทำปฏิกิริยากับแร่ในดินแล้วเกิดการพองตัวดันผ่านรอยแตกของพื้นดิน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีค่าความเป็นด่างสูง เทียบเท่าผงซักฟอก เตือนอย่านำไปกินหรือหากนำไปทาตัวทาหน้าอาจเกิดอาการแพ้ได้
13 ก.พ.62 - ที่สำนักงานทรัพยากรณีเขต 2 จ.ขอนแก่น นายประดิษฐ์ นูเล นักธรณีวิทยาชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 (ขอนแก่น) กรมทรัพยากรธรณี ให้สัมภาษณ์ว่า จากปรากฏการณ์ “โคลนพุ” หรือ “โคลนผุด” ที่เกิดขึ้นกลางทุ่งนาในพื้นที่บ้านหนองกุงน้อย ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา ขณะนี้นักทรัพยากรธรณีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีลักษณะของโคลนไหลออกมาจากรู หรือรอยแยกบนผิวดินกว่า 20 จุด คณะทำงานได้เก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจวิเคราะห์แล้ว
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเรียกว่า “โคลนพุ” เกิดจากปัจจัย 3 ส่วนประกอบด้วยน้ำบาดาล หรือน้ำใต้ดินที่มีแรงดันหลังทำปฏิกิริยากับแร่ดิน ส่วนใหญ่เป็นดินชนิดมอนต์มอริลโลไนต์ ที่มีทั้งโซเดียมมอนต์มอริลโลไนต์ แคลเซียมมอนต์มอริลโลไนต์ และแคลไซต์มอนต์มอริลโลไนต์ ที่มีคุณสมบัติเมื่อถูกน้ำจะพองตัว ประกอบกับเจอรอยแตกแยกของพื้นดินจึงผุดขึ้นมา ซึ่งในภาคอีสานพบเจอหลายแห่ง สังเกตได้จากชื่อหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ที่มักมีคำว่า "น้ำผุด" ต่อท้ายชื่อสถานที่
นายประดิษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนในพื้นที่ที่นำโคลนไปดื่มกินนั้น ไม่ขอแนะนำและไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะจากการวิเคราะห์ค่ากรดด่างขอน้ำในจุดดังกล่าวพบว่ามีค่าด่างค่อนข้างสูง ถึง 9.7 ขณะที่บางคนนำไปทาตัวแล้วบอกว่ารักษาอาการเจ็บป่วยได้นั้นถือเป็นความเชื่อ เพราะผลวิเคราะห์ในเบื้องต้นที่มีสารมอนต์มอริลโลไนต์ที่เมื่อถูกน้ำจะพองแห้งจะตึง จึงเชื่อกันว่าจะทำให้ผิวหนังเต่งตึง อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าไม่แนะนำให้ทาตัวเพราะน้ำโคลนนี้มีความเป็นด่างค่อนข้างสูงเทียบเท่าผงซักฟอก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |