นายอนุพงศ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) เปิดเผยถึงเแผนการดำเนินธุรกิจในระยะ 4 ปี (2562-2565) ว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และมีแผนในการขยายการบริการให้ครอบคลุมครบวงจรภายใต้แนวคิด AP World , A New Vision of Quality of Life หรือวิสัยทัศน์ในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า ทั้งนี้บริษัทจึงได้เปิดตัว 3 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจที่เกี่ยวกับการสร้างระบบนิเวศ (วาริ) ธุรกิจการสร้างนวัตกรรมดีไซน์ (เคลย์มอร์) และ ธุรกิจในการดิสรัปวิธีการเรียนรู้ของคนในองค์กรและสังคม (เอสอีเอซี)
“การเปิดตัว 3 ธุรกิจใหม่นอกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทเชื่อว่าจะเป็นการมุ่งสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลกและการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยเสริมวิสัยทัศน์ในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับธุรกิจหลักของบริษัท คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริษัทในเครือที่จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าภายในปี 2565 จะมีรายได้รวมของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยจะเป็นในส่วนของรายได้จาก 3 ธุรกิจใหม่อยู่ที่ประมาณ 10% หรือ 6,000 ล้านบาท”นายอนุพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลา 4-5 ปีข้างหน้า บริษัทเชื่อว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในทิศทางทางที่ดี ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการตามการลงทุนของภาครัฐที่ได้มีการเร่งลงทุนโครงการเมกะโปรเจคต่างๆ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งยิ่งสร้างมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ นักลงทุนมากยิ่งขึ้น และเติบโตตามเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีการขยายได้ที่ประมาณ 4% นอกจากนี้ในอีกหลายปีประเทศไทยจะมีผู้บริโภคที่เป็นผู้สูงวัย กละกลุ่มวัยทำงานเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออยู่มาก
อย่างไรก็ตามในปี 2562 นี้บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการจำนวน 39 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 56,800 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวสูง 5 โครงการ มูลค่า 22,400 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นโครงการร่วมทุน 3 โครงการ และ โครงการแนวราบ 34 โครงการ มูลค่ารวม 34,400 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินอยู่ที่ 9,500 ล้านบาท และบริษัทตั้งเป้ามียอดขายรวม เติบโต 5-10% และรายได้โต 15% สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวมอยู่ที่ 41,300 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้รวมเติบโต 30%
ในส่วนของธุรกิจในเครือของบริษัท จากธุรกิจ พร็อพเพอร์ตี้ เอเจ้นท์ ภายในชื่อบริษัท บีซี ให้บริการรับฝากขายเช่าอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบ สามารถรายได้มูลค่ารวมสูงกว่า 12,000 ล้านบาท และธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ เมเนจเม้นท์ ภายใช้ชื่อบริษัท สมาร์ท เป็นธุรกิจบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร สามารถบริหารโครงการทั้งของบริษัทและโครงการอื่นรวมกว่า 200 โครงการ จำนวน 55,000 ครอบครัว อย่างไรก็ตามในส่วนของบริษัทในเครือทั้งสองบริษัทจะเดินหน้าขยายขอบเขตการให้บริการเพื่อพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |