“ทษช.” รอดไปอีกวัน “อิทธิพร” เผยที่ประชุมยังไม่สะเด็ดน้ำยุบพรรค แต่กระแสข่าวสะพัดเตรียมชงให้ศาลรัฐธรรมนูญลงดาบ “ปรีชาพล” โผล่พร้อมกรรมการบริหารพรรค ยกมือไหว้ท่วมหัวน้อมรับพระราชโองการ พร้อมลุยหาเสียงต่อ เตรียมดิ้นเฮือกสุดท้ายขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญยื่นหนังสือแจง “จาตุรนต์-คนไม่มีผม” ล้อฟรีทันควันบอกไม่ได้ร่วมเหตุการณ์ 8 ก.พ. สุธรรมแนะน้องอย่าตื่นเต้น เมื่อมีความมืดย่อมมีแสงสว่าง “อดีต กรธ.” เผยหากยุบและตัดสิทธิ์จริงยาวตลอดชีวิต
เมื่อวันอังคาร พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการเงิน บัญชีและพัสดุ เพื่อเตรียมการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป และให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการพิจารณาตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ในบัญชีนายกรัฐมนตรี ว่าการประชุม กกต.เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ได้พูดประเด็นข้อกฎหมายอยู่บ้าง แต่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม โดยทราบเพียงว่าประธาน กกต.จะเป็นคนให้ข่าวเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามว่า จะตั้งคนนอกร่วมเป็นคณะกรรมการไต่สวนด้วย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ตอบว่า ทราบจากข่าว คงต้องขอการประชุมของ กกต.ก่อน แต่แนวทางเดิมที่เคยมีอยู่ก็เคยตั้งคนนอกมาร่วมเป็นกรรมการ และ กกต.จะเป็นผู้เสนอรายชื่อผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นกรรมการไต่สวน
ขณะที่นายปกรณ์ มหรรณพ กกต. ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ แต่ยอมรับว่าในการประชุม กกต.วันที่ 12 ก.พ. จะพิจารณาเรื่องตั้งคณะกรรมการไต่สวนดังกล่าว
ทั้งนี้ การประชุม กกต.ได้เริ่มในเวลา 10.30 น. และต่อมาในเวลาประมาณ 15.00 น. ก็เริ่มมีกระแสข่าวว่า กกต.มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งยุบพรรค ทษช. หลังพิจารณาคำร้องที่ขอให้ตรวจสอบว่า การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ทษช. เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (2)
สำหรับมาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองระบุว่า เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการ (1) ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ (2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น
และเวลา 16.15 น. แม้ยังไม่มีการยืนยันถึงมติ กกต.อย่างเป็นทางการ แต่ผู้สื่อข่าวจำนวนมากได้มารอรายงานข่าวที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งปกติจะปิดทำการในเวลา 16.30 น. แต่กลับยังเปิดทำการอยู่ โดยเหตุผลสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจัดระบบการทำงานแบบเหลื่อมเวลา มีทั้งกลุ่มที่เลิกงานในเวลา 16.30 น. และ 17.30 น.
ยุบพรรคยังไม่สะเด็ดน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสข่าวดังกล่าวได้พยายามติดต่อขอความชัดเจน จากทั้งนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. และ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ แต่ไม่มีผู้ใดรับสาย
ขณะเดียวกัน ในเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวที่ไปรอทำข่าวว่า เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้โทรศัพท์สอบถามไปยังสำนักงาน กกต.แล้ว ได้รับแจ้งว่ายังจะไม่มีการยื่นคำร้องอะไรในวันที่ 12 ก.พ.
ต่อมานายอิทธิพรได้ชี้แจงผ่านไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวประจำ กกต.ว่า "ฝากเรียนทุกท่านที่รออยู่ด้วยว่า กำลังพิจารณาอยู่ ยังไม่แล้วเสร็จ ถ้าผมหรือเลขาธิการมิได้ให้ข่าว กรุณาอย่าถือว่าเป็นข่าวจริงนะครับ อย่างน้อยที่สุดถ้าการพิจารณาแล้วเสร็จแล้ว จะเรียนให้ทราบ ถ้ามิใช่แถลงข่าวก็เป็นเพรสครับ"
ในช่วงค่ำ กกต.ได้ส่งเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการพิจารณาของ กกต.กรณีการยุบพรรคการเมืองระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อว่ามติ กกต.สั่งยุบพรรค ทษช.นั้น ขอชี้แจงว่าประเด็นดังกล่าวยังอยู่ในการพิจารณาของ กกต. โดยเมื่อพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว กกต.จะแถลงให้ทราบต่อไป
ส่วนนายอุดม รัฐอมฤต คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตโฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อธิบายกรณีหาก กกต.เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ทษช.ว่า ทษช.ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ เพราะเป็นอำนาจในการวินิจฉัยของ กกต. ซึ่งหลังศาลได้รับหนังสือจาก กกต.แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจะทำหน้าที่ไต่สวนว่าเป็นไปตามที่ กกต.ส่งเรื่องมาหรือไม่
“พรรคการเมืองยังดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้หรือไม่นั้น ตราบใดที่ยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลออกมาก็ยังทำได้ แต่หากพิจารณาตามมารยาทแล้ว ควรรอให้มีคำวินิจฉัยลงมาก่อน ซึ่งคาดว่าขั้นตอนการวินิจฉัยของศาลคงใช้เวลาพิจารณาไม่นาน เพราะกำลังจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ยิ่งวินิจฉัยช้า ก็จะเกิดความเสียหายค่อนข้างมาก ไม่ว่าการตัดสินจะไปทางไหน” นายอุดมกล่าว
นายอุดมกล่าวว่า การตัดสิทธิ์ทางการเมืองในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่มีเวลาระบุไว้ ก็เท่ากับว่าหากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง กก.บห.นั้นจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต และประเด็นที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่ กรธ.ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์ยุบพรรคก่อนจะมีการเลือกตั้ง
สำหรับความเคลื่อนไหวที่พรรค ทษช. ตั้งแต่เวลา 08.30 น. พ.ต.ต.มงคล ทองเนื้อห้า สารวัตรป้องกันการปราบปราม สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พ.ต.อ.ปริญญา เหลืออุทัย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เดินทางมายังพรรคภายหลังโลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการโต๊ะหมู่บูชา และพระฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ที่มีความผิดพลาด
พ.ต.ต.มงคลกล่าวว่า ได้เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยภายในห้องที่มีการตั้งโต๊ะหมู่บูชาเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่เป็นเหตุทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากโลกโซเชียลว่าเป็นการตั้งที่ไม่ถูกต้อง ทางโฆษกจึงแจ้งว่าเป็นการจัดซื้อโต๊ะหมู่บูชาและปรับปรุงสถานที่ของพรรค จึงได้โยกย้ายวัสดุอุปกรณ์และจัดวางโต๊ะหมู่บูชาเป็นการชั่วคราว จึงได้เดินทางมาตรวจว่ามีการปรับปรุงหรือไม่ เบื้องต้นพบว่าขณะนี้พรรค ทษช.ได้เคลื่อนย้ายโต๊ะหมู่บูชาและพระฉายาลักษณ์ออกจากห้องดังกล่าวแล้ว พร้อมกับปรับปรุงแก้ไขสถานที่ตั้งให้ตั้งอย่างเหมาะสมเป็นที่เรียบร้อย เป็นการเข้าตรวจสอบสถานการณ์ตามปกติ ไม่ได้มีหมายค้นและไม่ได้มีข้อกฎหมายใดที่จะมาเอาผิดกับพรรค เพียงต้องการตรวจสอบว่ามีการปรับแก้ไขแล้วจริงๆ ตามที่มีการเสนอข่าวออกไปก่อนหน้านี้หรือไม่ และจะขอถ่ายรูปภายในพรรค เพื่อส่งไปรายงานยังผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ยังไม่มีแกนนำของพรรค ทษช.เดินทางมาถึง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ต้องขออนุญาตจากพรรคก่อนจึงสามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ แต่เมื่อรออยู่สักพักใหญ่ ยังไม่มีแกนนำเดินทางมา พ.ต.ต.มงคลจึงได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาว่าสถานการณ์ทุกอย่างเรียบร้อยดี และมีการปรับแก้ไขแล้วจริงๆ เพราะมีภาพและข่าวปรากฏในสื่อมวลชนหลายสำนัก ซึ่งเป็นภาพที่เชื่อถือได้
และในเวลา 13.10 น. กรรมการบริหารพรรค ทษช. ประกอบด้วย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค, นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค, นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรค, นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค เดินทางมาถึงที่ทำการพรรค โดยใช้รถยนต์คันเดียวกัน โดยทั้งหมดต่างยิ้มแย้มทักทายพร้อมยกมือไหว้สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวที่พรรคจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ กก.บห.พรรค ทษช. ตั้งแต่พรรคไปยื่นรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
ยกมือท่วมหัวน้อมรับ
โดย ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า ก่อนอื่นพวกเราขอเรียนว่า พวกเรากรรมการบริหารพรรค รวมถึงสมาชิกพรรค ทษช. ขอน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และราชวงศ์ทุกพระองค์ (พร้อมยกมือถวายบังคมเหนือศีรษะ) ทั้งนี้ หลังจากที่ กกต.มีมติไม่ประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ทษช. พวกเราถือว่า เมื่อมีมติออกมาแล้วก็ถือว่าเป็นที่ยุติ ซึ่งเราไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพราะเราได้แถลงน้อมรับพระราชโองการไปเรียบร้อยแล้ว
“หลังจากนี้ไปจะต้องเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้ง หาเสียง อย่างวันนี้ก็มาเพื่อเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อที่จะวางแผนและกำหนดท่าทีในการเดิน เราในฐานะพรรคการเมือง ก็มีภาระหน้าที่สำคัญต่อประชาชนและสมาชิกของพรรค ผู้สมัครของพรรค ซึ่งวันนี้การทำงานการเมืองไม่สามารถที่จะหยุดนิ่งได้ เราจึงต้องเดินหน้า เพื่อจะไปสื่อสารนโยบาย และขออาสารับใช้ประชาชนในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ ขอเรียนว่า พวกเราทุกคนดำเนินการทุกอย่างไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และความตั้งใจดีที่อยากเห็นบ้านเมืองไปในทิศทางที่ดีและมีอนาคตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน” ร.ท.ปรีชาพลกล่าว
เมื่อถามถึงข้อกังวลกรณียุบพรรค ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ความจริงแล้วไม่ได้กังวล เพราะเราทำตามระเบียบขั้นตอน ข้อบังคับ และกฎหมาย ทำอย่างตรงไปตรงมา ส่วนผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบคือ กกต. ก็มีอำนาจหน้าที่ของท่าน ถ้าเห็นว่าอะไรเป็นที่น่าสงสัย พวกเราก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ
ถามต่อว่า ในพรรคเกิดแรงกระเพื่อมจนทำให้มีคณะ กก.บห.ลาออก ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า ในส่วน กก.บห.ที่ลาออก เท่าที่ทราบเป็นเรื่องปัญหาส่วนตัว และปัญหาครอบครัวของท่าน เราเดินเป็นองค์กร วันนี้เรือของเรา สมาชิกของเรายังมีกำลังใจและความพร้อมเต็มที่ที่จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อเป็นความหวังให้กับประชาชน
“เราตั้งใจดี เราปรารถนาดี ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักประเทศ เราคิดว่านี่คือทางออกของประเทศ แต่เมื่อมีพระราชโองการลงมาแล้ว ก็คือว่าพวกเราทุกคนต้องน้อมรับ เพราะเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของพวกเราก็คือสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสถาบันพระมหากษัตริย์” ร.ท.ปรีชาพลกล่าวตอบข้อถามถึงเสียงเรียกร้องให้ กก.บห.ลาออก แต่ทำไมยังเดินหาเสียงต่อ
เมื่อถามว่า พรรคจะลงพื้นที่หาเสียงเมื่อไหร่ ร.ท.ปรีชาพลตอบทันทีว่า เร็วที่สุด
ทั้งนี้ หลังมีกระแสข่าว กกต.จะยุบพรรค ทษช. ปรากฏว่าแกนนำพรรคและฝ่ายกฎหมายทยอยเดินทางเข้าพรรคมาอย่างหนาตา อาทิ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง, นายพิชิต ชื่นบาน และนายวิญญัติ ชาติมนตรี จนกระทั่งมีข่าวออกมาอีกครั้งว่า ที่ประชุม กกต.ยังไม่ได้มีมติอย่างเป็นทางการออกมา ทำให้คณะกรรมการบริหารพรรค แกนนำพรรค ยังคงสงวนท่าทีไม่ยอมชี้แจงรายละเอียดใด
กระทั่งเวลา 19.00 น. นายพงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค ทษช. ออกมาเผยว่า สมาชิกพรรคติดตามสถานการณ์จาก กกต. ซึ่งจนถึงเวลานี้ ยังไม่มีการแถลงยืนยันออกมาจาก กกต. แต่ในวันที่ 13 ก.พ. เวลา 09.00 น. นายสุรชัย ชินชัย คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรค จะไปยื่นหนังสือขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญชี้แจงแสดงเหตุผลข้อเท็จจริง รวมถึงข้อกฎหมาย และใช้สิทธิ์ในการอ้างพยานหลักฐาน
“ในวันที่ 13 ก.พ. เวลา 10.30 น. พรรคได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสรรหา คณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยได้ประสานไปยังนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเข้าร่วมประชุมด้วย ส่วนประเด็นกระแสข่าวจากฝั่ง กกต.ที่แพร่สะพัดออกมานั้น ขอยังไม่ให้รายละเอียดใดๆ รอให้ กกต.เคาะออกมาจริงๆ ก่อน” นายพงษ์เกษมกล่าว
ขณะเดียวกัน บรรดาแกนนำหลายคนของพรรค ทษช.ได้ใช้โลกออนไลน์รายงานตัวและชี้แจงเรื่องต่างๆ โดยนายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค ทษช. บุตรชายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุเนื้อหาว่า “ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งผ่านมาทางข้อความ และขอโทษที่ไม่ได้รับสายหลายท่านเลยครับ วันนี้ไม่สบาย ช่วงนี้ทีมงานพรรคไทยรักษาชาติก็ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บีกันหลายคน รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ”
นายจาตุรนต์ทวีตข้อความลงในทวิตเตอร์มีเนื้อหาระบุว่า "ผมไม่ได้ไปร่วมในเหตุการณ์วันที่ 8 ก.พ. และยังไม่ได้แสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ในวันนั้น มาเห็นข่าวเพื่อนนักการเมืองพูดถึงเหตุการณ์วันนั้นว่ายิ่งกว่ามีความสุขแล้ว ผมไม่สบายใจเลย ไม่สบายใจจริงๆ ครับ"
ต่อมานายจาตุรนต์ทวีตอีกว่า "อุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง ยังเข้มแข็งและยืนหยัด ในสถานการณ์ที่ซับซ้อน กำลังคิดว่าควรทำอะไรอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ"
ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ทษช.โพสต์เฟซบุ๊ก โดยได้แชร์คำพูดนายจาตุรนต์ พร้อมโพสต์ข้อความว่า “ผมเองก็ไม่ได้ไปร่วมในเหตุการณ์วันที่ 8 ก.พ. เหมือนกัน”
ต่อมา นายจาตุรนต์โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Chaturon Chaisang อีกครั้งว่า เห็บกระโดดที่ไหนกัน รู้สึกวาทกรรม "เห็บกระโดด ตอนหมาจะตาย" ทำท่าจะฮิต อยากจะบอกแบบสบายๆ ว่า ผมไม่คิดว่า ทษช.จะถูกยุบง่ายๆ แต่ถ้าถูกยุบจริงๆ ผมจะอยู่จนถึงวันยุบเป็นคนสุดท้าย เหมือนที่เคยทำมาแล้วที่ไทยรักไทยครับ
ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงพรรค ทษช. ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ทษช.ลำดับที่ 7 โพสต์เฟซบุ๊ก โดยยกเนื้อหาในนวนิยายกำลังภายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร ผลงานของกิมย้ง ระบุว่า ฉากหนึ่งในยุทธภพพิรุณยังไม่ขาดสาย เพื่อนร่วมสำนักต่างหนาวเหน็บเปียกปอน ตั่วกอพวกข้าพเจ้าต้องกระทำสิ่งใดต่อไป เล่งฮู้ชงไม่มีคำตอบ ไม่มี แท้จริงมิใช่ไม่มี หากแต่มิทราบจะหาได้จากที่ใดในสำนักอีก อาจบางทีคำตอบต้องอยู่ที่ตัวเอง ในมือเล่งฮู้ชงไม่มีกระบี่ แต่ในใจกลับถูกทิ่มแทงด้วยปลายกระบี่
สุธรรมแนะน้องอย่าตื่น
ขณะที่นายสุธรรม แสงประทุม สมาชิกพรรค ทษช. ซึ่งเดินทางเข้าพรรคระบุว่า มาเพื่อต้องการให้กำลังใจกรรมการบริหารพรรคที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่อาจมีประสบการณ์ทำงานการเมืองในไทย แต่พวกตนเองผ่านงานการเมืองทั้งในและนอกสภา รวมถึงต้องติดคุกติดตะรางมาแล้ว โบราณมีคำกล่าวว่า ไฟฟ้าดับอย่าเพิ่งรีบวิ่ง ไม่อย่างนั้นจะชนโต๊ะและเหยียบกันตาย รออีก 2 นาทีเราจะเห็นแสงรำไร เพราะความมืดมีแสงสว่างอยู่
"วันนี้มืดไม่มืดมิด ไฟดวงนิดยังมีแสง ขอเพียงลมพัดมาแรง เถ้ามอดแดงก็จะลาม ดังนั้นทุกคนในพรรคไทยรักษาชาติต้องใจเย็น มีสมาธิ และมองให้เห็นแสงสว่างให้ได้ วันนี้พรรคไทยรักษาชาติยังเป็นพรรคที่ถูกต้องตามกฎหมาย กระบวนการยุบพรรคต้องใช้เวลา พรรคพลังประชารัฐก็ถูกกล่าวหาเขายังไม่ตกใจ ของเรายังไม่มีข้อกล่าวหา หากมีก็ต้องต่อสู้กันไป ยืนยันว่าพรรคไทยรักษาชาติจะเดินหน้าทำกิจกรรมเพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนในการเลือกตั้ง เพราะจากการลงพื้นที่ 3 จังหวัดใต้ ประชาชนให้การต้อนรับ และอยากให้พรรคไทยรักษาชาติเข้าไปแก้ปัญหา" นายสุธรรมกล่าว
วันเดียวกัน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ปัจจุบันลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ โดยตั้งตัวเองเป็นเลขาธิการองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ผมขอคารวะจิตใจอันเด็ดเดี่ยวของคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ในยามคับขัน ไม่ทิ้งพรรค 1.ไทยรักไทย ปี 2549 2.ไทยรักษาชาติปี 2562 นับเป็นตัวอย่างที่นักการเมืองรุ่นหลัง ควรยึดเป็นเยี่ยงอย่างครับ”
ส่วน น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ปิดวอยส์ และยุบพรรคการเมืองในวันเดียวกัน คือ ภาพของการกลัวเสียงของประชาชน กลัวการเลือกของประชาชน
จากนั้น น.ส.ณัฏฐาโพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอให้ประชาชนตระหนักในพลังของตัวเอง พร้อมสำหรับการต่อสู้รูปแบบใหม่ ฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมด เราต้องการชัยชนะเพียงครั้งเดียว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |