ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้อง "หญิงไก่" ค้ามนุษย์ คดีหลอก 3 สาวมาทำงานบ้าน ศาลระบุพฤติการณ์ไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานนี้ เจ้าตัวถึงหลั่งน้ำตาก้มกราบด้วยความดีใจ
วันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ที่ห้องพิจารณา 708 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ เป็นจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551
สืบเนื่องจากต้นเดือน มิ.ย.2549 ถึงปลายเดือน ต.ค.2553 จำเลยหลอก น.ส.ดาลิน หล้าคำ, น.ส.กาญจนา ปองลาภสุนทร และ น.ส.ขวัญจิรา จิรสกุลโชคชัย ผู้เสียหายที่ 1-3 มาทำงานเป็นคนรับใช้ บังคับใช้แรงงานตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 22.00 น. โดยไม่มีวันหยุดและไม่จ่ายค่าจ้าง แล้วยังข่มขู่ผู้เสียหายหากไม่ยอมทำงานจะแจ้งตำรวจจับบิดามารดา
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาไปเมื่อ 19 ต.ค.2560 เห็นว่า สำหรับผู้เสียหายที่ 1 และ 3 พยานหลักฐานยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีพฤติการณ์ข่มขู่ หรือเข้าข่ายความผิดตามฟ้อง แต่ในส่วนผู้เสียหายที่ 2 พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบรับฟังได้ว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ พิพากษาจำคุก 4 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีจึงลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 3 ปี และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายที่ 2 เป็นเงิน 590,007 บาท
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนางมณตา จากทัณฑสถานหญิงกลางบางเขน มาฟังคำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า คดีนี้โจทย์ฟ้องจำเลยฐานค้ามนุษย์ โดยบังคับใช้แรงงาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 ต้องเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เป็นธุระจัดหา กักขัง หน่วงเหนี่ยว โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ หรือโดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นแก่ผู้ปกครอง หรือบุคคลนั้น แต่คดีนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยจัดให้ผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นเด็ก พักอาศัยในคอนโดประชานิเวศน์ ให้ทำงานบ้าน ซึ่งนอกจากผู้เสียหายที่ 2 แล้ว ยังมีผู้เสียหายที่ 1 และ 3 ทำงานบ้านเช่นเดียวกัน ทั้งสามแบ่งหน้าที่กันทำ ช่วยดูแลจำเลยกับบุตรเพียงสองคนเท่านั้น เชื่อว่างานที่ผู้เสียหายทำไม่หนักมาก และยังได้ความจากผู้เสียหายที่ 2 ว่าจำเลยได้ให้เงินครั้งละ 1,000 บาท ให้โทรศัพท์ ให้ค่าเดินทางกลับบ้าน 2,000 บาท และโอนเงินให้อีก 5,000 บาท พาไปเที่ยวต่างจังหวัดบางครั้ง อีกทั้งเวลาว่างสามารถออกไปซื้อของข้างนอกได้ แสดงว่าผู้เสียหายที่ 2 มีอิสระ ไม่ได้ถูกกักขัง
แม้จะปรากฏว่าจำเลยชวนผู้เสียหายที่ 2 มาทำงาน จำเลยอ้างว่าจะส่งเสียให้เรียนพยาบาล กลับมอบเงินให้บิดามารดา 5,000 บาท จนยินยอมให้พาผู้เสียหายไปทำงาน แต่เมื่อไปแล้วกลับไม่ส่งเสียให้เรียน และไม่จ่ายค่าจ้าง รวมทั้งนำบัตรประชาชนมาเก็บไว้ก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏจากการนำสืบว่าระหว่างที่ผู้เสียหายทำงานกับจำเลยนั้น จำเลยได้กระทำการใดอันเป็นการข่มขืนใจให้ผู้เสียหายทำงาน โดยทำให้ผู้เสียหายจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน หรือขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือทำให้ผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ ได้ความจากผู้เสียหายที่ 2 เองว่า จำเลยเป็นคนโมโหง่าย แต่ไม่เคยบังคับข่มขู่ให้ทำงาน ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบมายังฟังไม่ได้ว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ โดยการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ การกระทำของจำเลยจึงไม่ครบองค์ประกอบการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น ส่วนทางแพ่ง เมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิด จึงเลยจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายที่ 2 พิพากษากลับยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา นางมณตาร้องไห้ด้วยความดีใจ ก่อนทรุดลงกับพื้นและก้มลงกราบศาล อย่างไรก็ตาม นางมณตายังคงไม่ได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากถูกพิพากษาจำคุกในคดีแอบอ้างเบื้องสูง และยังมีคดีค้ามนุษย์สำนวนอื่นที่ต้องสู้คดีอยู่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |