เพราะ “วันวาเลนไทน์” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนหนุ่มสาวอีกต่อไป แต่ยังถือเป็นวันดีที่ลูกหลานสามารถมอบความรักความอบอุ่นให้กับผู้สูงวัย ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ หรือปู่ย่าตายาย เพราะอย่าลืมว่าเพียงแค่ดอกไม้ 1 ดอก หรือการหอมแก้มผู้สูงวัยก่อนออกจากบ้านในวันดังกล่าว ก็สะท้อนให้วัยเก๋าได้ตระหนักว่าอันที่จริงแล้วบุตรหลานไม่ได้ลืมท่านแต่อย่างใด พี่แอ้-พรวรินทร์ นุตราวงศ์ พยาบาลชำนาญการพิเศษ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช มาแนะนำเกี่ยวกับวิธีบอกรักวัยเก๋าช่วง 14 กุมภาฯ
(พรวรินทร์ นุตราวงศ์)
พยาบาล-พรวรินทร์ ให้ข้อมูลว่า “หลายคนอาจจะมองว่าวาเลนไทน์นั้นเป็นเทศกาลของหนุ่มสาว แต่อยากบอกว่าผู้สูงวัยยุคนี้เขารู้จักวันวาเลนไทน์เป็นอย่างดี ดังนั้นลูกหลานสามารถบอกรักหรือแสงความรักต่อผู้สูงวัย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายายได้ อย่างง่ายที่สุดให้ “มอบดอกป๊อปปี้” ที่ซื้อในช่วงวันทหารผ่านศึก ที่เป็นแบบช่อ หรือเป็นเข็มกลัดติดเสื้อ จากนั้นก็ให้บอกรักพ่อรักแม่สั้นๆ “รักพ่อนะ รักแม่นะ” หรือแม้แต่การ “หอมแก้ม” ก่อนออกไปทำงานนอกบ้าน หรือไปเรียนหนังสือ เพียงแค่นี้ผู้ใหญ่ก็จะรับรู้ได้ว่า ท่านยังเป็นคนสำคัญของลูกหลาน
(บอกรักคุณตาคุณยายด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการ “หอมแก้ม”)
อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่าวัยเก๋ายุคนี้โตทันวันวาเลนไทน์ และของขวัญ 14 กุมภาฯ สำหรับผู้สูงอายุ ไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป ดังนั้นหากลูกหลานสามารถ “มอบการ์ดอวยพรรูปหัวใจ” ให้คุณตาคุณยายก็สามารถทำได้ เพราะนอกจากไม่ต้องเขินอายแล้ว ยังทำให้ผู้สูงวัยเห็นถึงความตั้งใจที่ลูกหลานมอบให้ท่าน และจะยิ่งดีหากผู้มอบอ่านให้ผู้รับฟัง หรือแม้แต่การ “ติดสติกเกอร์รูปหัวใจที่เสื้อของคุณตาคุณยาย” นอกจากได้แสดงความรักในวันที่ 14 ก.พ.กับเพื่อน หรือคนรัก แต่สติกเกอร์ดังกล่าวยังสามารถบอกรัก คนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยที่ลูกหลานไม่ต้องสิ้นเปลือง เนื่องจากสติกเกอร์มีราคาไม่เกิน 50 บาท
(“น้ำแตงโมปั่น” วิธีบอกรักผู้สูงอายุอย่างเรียบง่าย แต่ดีต่อสุขภาพ)
ส่วนลูกหลานคนไหนที่เป็นห่วงเกี่ยวกับสุขภาพของปู่ย่าตายาย โดยไม่อยากให้รับประทานอาหารที่หวานจัด ก็สามารถ “คั้นน้ำแตงโม” ที่ให้สีแดงสะท้อนวาเลนไทน์ สื่อถึงความรักและเป็นห่วงเรื่องสุขอนามัยของท่าน เพื่อให้ได้รับประทาน เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีความหวานเป็นธรรมชาติ และมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักที่ดีต่อสุขภาพผู้สูงอายุ ก็เป็นการเติมความผูกพันในครอบครัวได้ทางหนึ่ง หรือจะมอบ “ขนมชั้นรูปหัวใจสีแดง” หรือ “วุ้นหัวใจสีแดง” กระทั่ง “ลูกชุบสีแดงเรียงเป็นรูปหัวใจ” ที่มีรสหวานน้อยให้ท่านได้รับประทาน ก็ถือเป็นการแสดงออกซึ่งความรัก โดยการเลือกใช้สิ่งของ หรืออาหารที่เป็นตัวแทนวันวาเลนไทน์ เพียงเท่านี้ผู้ใหญ่ก็รู้สึกดีแล้ว ว่าลูกหลานไม่ได้ลืมท่าน
หรือหากลูกหลานท่านใด ที่มีพรสวรรค์เรื่องการแต่งกาพย์ โครง หรือบทกลอน ก็สามารถ “แต่งกลอนบอกรัก” เพื่อมอบให้ท่านได้ หรือแม้แต่การชวนสมาชิกในครอบครัว “ไปเยี่ยมผู้สูงอายุตามศูนย์รับเลี้ยง” ก็ถือเป็นการมอบความรักให้กับผู้สูงอายุในสังคมได้ทางหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ดีนั้นควรเตรียมของขวัญวันวาเลนไทน์เพื่อมอบให้กับผู้สูงวัยทุกท่าน เพราะอันที่จริงแล้วคุณตาคุณยายที่อยู่ในศูนย์รับเลี้ยง ก็ต้องการให้ลูกหลานมาหา และมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้กับท่าน โดยไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง”
แสดงความรักต่อเพื่อน คนรัก เพื่อนที่ทำงาน ว่าสำคัญแล้ว แต่วันที่ 14 กุมภาฯ ซึ่งกำลังจะมาถึงนี้ การบอกรักกับพ่อแม่ ปู่ย่าตาทวด ก็สำคัญเช่นเดียวกันว่าไหมค่ะ...
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |