นายกรัฐมนตรีฮุน เซน แสดงท่าทีครั้งแรกนับแต่อียูประกาศเริ่มกระบวนการยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าของกัมพูชาที่จะกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอของประเทศ ระบุไม่ยอมแลกเปลี่ยนอิสรภาพและอธิปไตยกับสิ่งใด และพร้อมเป็นมิตรกับประเทศที่ไม่แทรกแซงกิจการภายใน
แฟ้มภาพ วันที่ 2 สิงหาคม 2561 สาวแรงงานสิ่งทอรุมล้อมถ่ายเซลฟีกับนายกฯ ฮุน เซน ขณะมาเยี่ยมแรงงานที่โรงงานสิ่งทอแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ / AFP
เอเอฟพีรายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า อียูจะเริ่มกระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อตัดสินใจว่าจะระงับสิทธิพิเศษด้านการค้าปลอดภาษีภายใต้ชื่อข้อตกลง "ทุกอย่างยกเว้นอาวุธ" (อีบีเอ) ของกัมพูชาหรือไม่
การดำเนินการของอียูครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังตลาดส่งออกขนาดใหญ่อันดับ 6 ของอุตสาหกรรมสิ่งทอกัมพูชาเคยเตือนแล้วหลายครั้งว่าอียูจะใช้มาตรการตอบโต้การเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ที่ปราศจากพรรคฝ่ายค้านเนื่องจากโดนศาลสูงสุดตัดสินยุบพรรค
หากอียูตัดสิทธิพิเศษทางการค้าที่ว่านี้จะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและรองเท้าของกัมพูชาที่ส่งออกไปยังอียูเป็นมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ และจ้างแรงงานมากกว่า 700,000 คน
เมื่อวันอังคาร ฮุน เซน เขียนลงเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของเขาซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 10 ล้านคน ว่ากัมพูชาไม่สามารถแลกเปลี่ยนอิสรภาพและอำนาจอธิปไตยกับสิ่งใด กัมพูชาต้องการเป็นมิตรกับประเทศหุ้นส่วนอื่นๆ ที่ต้องการเห็นกัมพูชาเจริญก้าวหน้าโดยไม่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ
ข้อความในเพจของเขาไม่ได้กล่าวถึงข้อตกลงอีบีเอ
รายงานกล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบของอียูจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีจึงจะนำไปสู่การตัดสินใจว่าจะตัดสิทธิกัมพูชาหรือไม่
บรรดาผู้นำสหภาพและธุรกิจกล่าวกันว่า หากอียูยกเลิกอีบีเอ อุตสาหกรรมสิ่งทอของกัมพูชาจะเสียหายอย่างร้ายแรง ภาษีศุลกากรสิ่งทอจะเพิ่มขึ้น 12% ส่วนภาษีศุลกากรสินค้าประเภทรองเท้านั้นจะเพิ่มมากกว่าเท่าตัวจาก 8% เป็น 17% การโดนตัดอีบีเอจะทำให้กัมพูชาสูญรายได้ถึงปีละ 700 ล้านดอลลาร์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |