ชาวบ้านบุกศาลากลางจังหวัดชุมพร ร้องนายทุนสร้างบ้านนกนางแอ่นย่านชุมชนบินว่อนนับแสนตัว ก่อมลพิษทั้งเสียง มูล ไร ฝุ่นละออง ทำเดือดร้อนหนัก หน่วยงานรัฐยังนิ่งเฉย รองผู้ว่าฯรับเรื่องถึงกับฉะยับเจ้าหน้าที่เกียร์ว่าง ไม่เป็นที่พึงประชาชน พร้อมสั่งการให้บังคับใช้กฎหมายทุกฉบับโดยเร็ว

12 ก.พ.62 - ที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร ได้มีตัวแทนชาวบ้านในย่านชุมชนเขตเทศบาลตำบลมาบอำมฤต อำเภอปะทิว กว่า 20 คน พร้อมป้ายเขียนข้อความร้องทุกข์เดือดร้อนต่างๆ เช่น “ผู้ว่าฯช่วยไล่อีแอ่นบ้านให้หนูร้องทุกข์มานานกว่า 3 ปีแล้ว”  “ยิ่งกว่า PM 2.5 เชื้อโรคฝุ่นกระจายในอากาศ ไอเป็นเลือดแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก” “ลุงตู่ช่วยด้วย ไม่เอาบ้านนกในเขตเทศบาลมาบอำมฤต” และมีรูปภาพเด็กชาย คนแก่เป็นโรคผิวหนัง โรคภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ และใบรับรองแพทย์ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อที่แพร่มาจากนกนางแอ่นกินรัง

ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มนายทุนผู้ประกอบการหลายรายก่อสร้างและต่อเติมอาคารพาณิชย์สูงหลายชั้นในย่านชุมชนเขตเทศบาลตำบลมาบอำมฤต เพื่อเลี้ยงนกนางแอ่นกินรังเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ทุกเช้าเย็นจะมีนกนางแอ่นนับแสนๆตัวบินว่อนเข้าออกเหนือหลังคาบ้านสร้างความเดือดร้อนรำคาญและได้รับผลกระทบจากมูลนก ตัวไร เสียง ฝุ่นละออง มีผลต่อสุขภาพอนามัย และสิ่งแวดล้อมมานนานนับ 10 ปีแล้ว และช่วง 3 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านได้รวมตัวกันร้องเรียนตั้งแต่ระดับท้องถิ่น อำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ยังไม่รับการช่วยเหลือแต่กลับมีการสร้างบ้านรังนกมากขึ้นกว่าเดิม ความเดือดมีมากขึ้นจึงต้องบุกมาร้องเรียนที่ศาลาจังหวัดดังกล่าว

ต่อมา นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร ได้เชิญชาวบ้านทั้งหมดเข้าไปพูดคุยปัญหาที่ห้องประชุม โดยมี นายประมูล อานเรือน ท้องถิ่นจังหวัดชุมพร นายดุสิต ศักรกานต์ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.ชุมพร และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

นายสมพรได้กล่าวตำหนิเจ้าหน้าที่รัฐผู้เกี่ยวข้องอย่างรุนแรงว่า ทำงานกันแบบไม่เต็มใจ หน่อมแน้ม ยึกยัก ไม่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างจริงจัง ปล่อยเรื่องให้คาราคาซังมานานหลายปี ไม่แก้ปัญหาให้กับประชาชน พร้อมกับสั่งการให้ท้องถิ่นจังหวัด และ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม ออกหนังสื่อสั่งการให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายทุกฉบับตั้งแต่กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.สาธารณสุข ,พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม, พ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครอง, มาประชุมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและให้รายงานการทำงานที่ผ่านมาว่าได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไรบ้าง และถ้าผิดกฎหมายมีการปล่อยให้ก่อสร้างต่อเติมอาคารมาได้อย่างไร ทุกฝ่ายที่เกี่ยงข้องกับกฎหมายทุกฉบับต้อมงมีคำตอบในวันที่ 15 ก.พ.นี้

นายสมพร กล่าวอีกว่า ตนเพิ่งจากย้ายมาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรได้ไม่กี่เดือนและมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ยังมีปัญหาอีกเป็น 100 เรื่อง อย่างกรณีนี้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้เป็นที่พึ่งให้ประชาชน บางเรื่องโยนกันไปมาจนยืดเยื้อคาราคาซังมานานนับ 10 ปี และก็เช่นกันเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาชาวบ้านได้มาร้องเรียนต่อผู้ว่าฯอีก เพราะเวลาได้ล่วงเลยมานานแล้ว

ตนได้มีหนังสือสั่งการด่วนที่สุดลงวันที่ 18 ม.ค.62 เรื่องการบังคับใช้กฎหมายในการประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ แจ้งถึงนายกเทศมนตรีตำบลมาบอำมฤต และนายอำเภอปะทิว เนื่องจากจังหวัดพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามมาตรา 28/1 พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดว่าเมื่อปรากฏเหตุรำคาญเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างจนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของสาธารณชน ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจประกาศกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศ  พร้อมกับรายงานให้จังหวัดทราบภายในวันที่ 25 ม.ค.62 โดยตนเป็นผู้ลงนามในคำสั่งนั้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆแจ้งมาให้ตนทราบ

ดังนั้นในการประชุมวันที่ 15 ก.พ.62 เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับและจะต้องมีคำตอบที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน มิฉะนั้นปัญหานี้จะไม่จบ หลังจากนั้นในวันที่ 22 ก.พ.62  ตนจะลงพื้นที่ไปแจ้งผลการดำเนินการตามกฎหมายในการแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านรู้ด้วยตนเอง

ด้านนางฤทัย รุ่งระวีกุล อายุ 67 ปี และ นางประภัสสร เกตุแก้ว อายุ 49 ปี แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้ยินรองผู้ว่าฯพูดและสั่งการในวันนี้ เพราะพวกเราเดือดร้อนกับปัญหาบ้านรังนกในย่านชุมชนเขตเทศบาลตำบลมาบอำมฤตมานานกว่า 10 ปีแล้ว จนมาช่วง 3 ปีหลังนี้ พวกเราทนไม่ได้อีกแล้วจึงรวมตัวกันร้องเรียนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ท้องถิ่น อำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และสำนักนายกรัฐมนตรี จนผ่านไปแล้ว 3 นายอำเภอ กับ 2 ผู้ว่าฯ แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ

ขณะที่บ้านรังนกนางแอ่น นายทุนยังมีการก่อสร้างและต่อเติมอาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากเดิมมี 21 หลัง และที่กำลังสร้างใหม่อีก 10 กว่าหลัง เด็กเล็กคนแก่ต้องเป็นภูมิแพ้ โรคผิวหนัง ทางเดินหายใจ มลพิษฝุ่นละอองทั้งเสียงร้องรำคาญ ตัวไร มูลนกเรี่ยราดไปทั่วย่านชุมชน พวกเราทนไม่ไหวแล้วจริงๆ หากยังไม่รับการแก้ไขช่วยเหลืออีกก็คงจะไปนอนประท้วงกันที่หน้ารัฐสภาต่อไป