อินทัชเผยปี 61 กำไรสุทธิ 11,491 ล้านบาท


เพิ่มเพื่อน    

บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ อินทัช เผยผลประกอบการปี 2561 กำไรสุทธิ 11,491 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผลครึ่งปีหลังหุ้นละ 1.17 บาท เน้นการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน

นายเอนก พนาอภิชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากการดำเนินงานในปี 2561 อินทัช สามารถทำกำไรสุทธิ 11,491 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,673 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้ผลกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) (ซีเอสแอล) ที่อยู่ภายใต้ไทยคม ขณะที่กำไรปกติจากการดำเนินงานใกล้เคียงกับปีก่อน จากการรับรู้ผลกำไรจากไทยคมที่สูงขึ้น ทั้งนี้ อินทัชยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลส่วนใหญ่ที่บริษัทได้รับจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยหลังหักค่าใช้จ่าย โดยกำหนดจ่ายปันผลครึ่งปีหลังหุ้นละ 1.17 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 เมษายน 2562 ทำให้ในปี 2561 บริษัทจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้นในอัตรา 2.71 บาท ต่อหุ้น”

เอไอเอส-พัฒนาโครงข่ายรองรับการเติบโตในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่

ในปี 2561 เอไอเอสได้ใบอนุญาตคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ เพิ่มทำให้เป็นผู้ให้บริการที่มีคลื่นความถี่เพื่อให้บริการลูกค้ากว้างที่สุดในอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการใช้งาน 4G ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันเอไอเอสมีผู้ใช้บริการรวม 41 ล้านราย เพิ่มขึ้น 1 ล้านเลขหมาย จากสิ้นปี 2560 สำหรับธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เอไอเอสมีลูกค้าไฟเบอร์เพิ่มขึ้น 209,300 ราย ทำให้มีลูกค้ารวมทั้งสิ้น 730,500 ราย  ในส่วนของธุรกิจดิจิทัลเซอร์วิส หลังจากที่ได้เข้าซื้อกิจการของซีเอสแอล ทำให้เอไอเอสมีศักยภาพในการให้บริการลูกค้าองค์กรดีขึ้น เช่น การให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ลูกค้าองค์กร (EDS) รวมถึงบริการคลาวด์ (Cloud) ซึ่งมีการเติบโตในอัตราเลขสองหลักเมื่อเทียบกับปี 2560 ส่วนกลุ่มลูกค้าทั่วไปให้การตอบรับแพลตฟอร์มวิดีโอ AIS PLAY มีลูกค้าใช้งานอย่างต่อเนื่องกว่า 1.7 ล้านราย และแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมทางการเงินบนมือถือ (Mobile Money) ผ่านแรบบิท ไลน์ เพย์ ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 850,000 ราย

สำหรับปี 2562 เอไอเอสจะยังคงมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพโครงข่ายเพื่อรองรับการเติบโต และเสริมความจุของ 4G ให้ความสำคัญต่อการขยายการเติบโตในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น พร้อมผลักดันบริการดิจิทัลเซอร์วิสใหม่ๆ ให้กับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร โดยตั้งงบลงทุนไว้ 20,000-25,000 ล้านบาท

ไทยคม มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในปี 2561 ที่ 230 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการขายหุ้นในซีเอสแอล เป็นหลัก ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานปกติฟื้นตัวขึ้นในทิศทางเดียวกันมาอยู่ที่ 140 ล้านบาท จากการลดลงของค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายหลังการบันทึกการด้อยค่าของสินทรัพย์ดาวเทียมในปี 2560 และการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร

อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของอุตสาหกรรมการให้บริการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียม และอุตสาหกรรมโทรทัศน์ทำให้การแข่งขันในตลาดอยู่ในระดับสูง ดังนั้น ไทยคม จึงเน้นการหาลูกค้าใหม่เพิ่มเติมในภูมิภาคที่มีการเติบโตสูง คือ แอฟริกา ประเทศในแถบลุ่มน้ำโขง เอเชียใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศจีน รวมถึงการหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดาวเทียม

ในปีที่ผ่านมา อินเว้นท์ใช้เงินลงทุน 110 ล้านบาท สำหรับการลงทุนใน 3 บริษัท คือ บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ให้บริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งโซลูชั่น ระดับแนวหน้าของเมืองไทย บริษัท ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้นำการให้บริการระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management - CRM) และ POS Digital Platform สำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) และบริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมประยุกต์ทางด้านภูมิศาสตร์ (Enterprise Location-Based Application) นอกจากนี้ ได้แลกเงินลงทุนในบริษัทเดิม 2 บริษัท คือ บริษัท อินฟินิตี้ เลเวล สตูดิโอ พีทีอี ลิมิเต็ด และบริษัท ซินโนส จำกัด เป็นบริษัท วีวีอาร์ เอเซีย จำกัด อีกด้วย

ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา อินเว้นท์ลงทุนในบริษัทร่วมลงทุนที่หลากหลายจำนวน 17 บริษัท ทั้งธุรกิจดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ สื่อและโฆษณา ฟินเทค และเฮลท์เทค ใช้เงินรวม 525 ล้านบาท โดยบริษัทเหล่านี้มีมูลค่าสูงขึ้นเป็น 792 ล้านบาท อินทัชยังคงนโยบายการลงทุน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"