"บิ๊กตู่" ลั่นตรวจสอบคนปล่อยข่าวปลอม เดี๋ยวจะลงโทษ! ชี้อันตรายเพราะข่าวเท็จเต็มโซเชียลและสื่อบางฉบับ กลาโหมเตรียมใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กับคนกุข่าวรัฐประหารซ้อน บิดเบือนเชื่อมโยงข้อมูลอันเป็นเท็จสร้างความเสียหายแก่สังคม "บิ๊กป้อม" ไม่พูดเยอะขอจับให้ได้ก่อน
    หลังมีการปล่อยข่าวรัฐประหารจนสร้างความหวาดวิตกตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนถึงการเผยแพร่ราชกิจจานุเบกษาปลอม มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปลดผู้นำเหล่าทัพ ส่งผลให้เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถูกจับตามองเป็นพิเศษ 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "กำลังตรวจสอบอยู่ เดี๋ยวจะลงโทษ ข่าวปลอม"
    ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับกรณีข่าวที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปประเทศเยอรมนีในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ไม่เป็นความจริง แต่เป็นข่าวลือที่พูดกันหลายฝ่าย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์รับทราบดี และได้ยืนยันกับคณะทำงานว่าไม่ได้เดินทางไปที่ใด
    นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปาฐกถาหลังเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการสร้างการรับรู้สู่ชุมชนว่า การบูรณาการสร้างความรับรู้ให้ประชาชนเป็นสิ่งสำคัญและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่จะเห็นมีข่าวต่างๆ แพร่หลายมากมายมาสร้างความไม่เข้าใจให้ประชาชน สร้างความสับสนอลหม่านมากพอสมควร เราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพราะถือเป็นอันตรายที่สุด เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความไม่เข้าใจ วันนี้มีข่าวเท็จ ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือนแพร่หลายในโซเชียลมีเดียและสื่อบางฉบับ ซึ่งตนไม่เข้าใจตรงนี้ ดังนั้นเราต้องสร้างภูมิคุ้มกันและการเรียนรู้ให้ประชาชน
    "ไม่ว่าจะเป็นการออกคำสั่งมาตรา 44 หรือประกาศราชกิจจานุเบกษา ต้องให้ประชาชนเข้าใจว่ามีขั้นตอนอย่างไร เราต้องให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง แต่ต้องยอมรับว่าข่าวสารต่างๆ จากรัฐบาลนั้นไปไม่ถึงประชาชน บางคนฟังบางคนไม่ฟัง เป็นสาเหตุให้ประชาชนรับรู้ข่าวสารที่ผิด สูญเสียโอกาสรับรู้ข้อมูล"
    พล.อ.ประยุทธ์เผยว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานกลางในการชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชน โดยให้ทุกหน่วยงานส่งข้อมูลมาที่กระทรวงมหาดไทยได้ อย่างไรก็ตาม กฎหมายที่รัฐบาลออกมานั้นไม่ได้มุ่งหวังที่จะลงโทษ แม้หลายคนจะอยากให้มีกฎหมายที่แรงขึ้นในบทลงโทษ แต่เราทำเช่นนั้นไม่ได้ทั้งหมด เพราะกฎหมายที่ดีต้องสร้างความร่วมมือจากประชาชนให้ได้มากที่สุด
    พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการข่าวติดตามตรวจสอบข่าวลือในสื่อโซเชียลต่างๆ ว่ามีต้นตอมาจากแหล่งใด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากแหล่งใด ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้หน่วยงานที่ได้รับผลกระทบต่างๆ อาทิ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลหน่วยงานเกี่ยวข้องกับราชกิจจานุเบกษา, กองทัพ และ คสช.พิจารณาดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผลกระทบที่ส่งผลให้เกิดความเสียหาย
แจ้งความดำเนินคดี
    พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้มอบหมายให้นางสาวสาวิตรี ชำนาญกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไปแจ้งความดำเนินคดีเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดกรณีปลอมแปลงเอกสารทางราชการแล้ว
    ที่กระทรวงกลาโหม เวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการถวายความปลอดภัยงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกฯ ที่ห้องภาณุรังษี กระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมผู้แทนผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมประชุม
    ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบถึงกระแสข่าวลือการรัฐประหารซ้อน หลังผู้ใช้โซเชียลมีเดียตื่นตระหนกแห่แชร์ราชกิจจานุเบกษาปลอม อ้างคำสั่งหัวหน้า คสช.ปลดผู้บัญชาการเหล่าทัพ ทำให้ #รัฐประหาร ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยตลอดทั้งคืนวันอาทิตย์ โดยบอกเพียงว่าไม่มีอะไร ขอให้จับได้ก่อน
    ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) มีกำหนดการประชุมมอบหมายงานตามวาระปกติที่ บก.ทสส. ถนนแจ้งวัฒนะ ส่วน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการ คสช.ไม่ได้เข้าประชุมสำนักงานเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ลธ.คสช.) โดยมอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล  นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. ในฐานะรองเลขาฯ คสช.ประชุมแทน โดยมีรายงานว่า ผบ.ทบ.เพิ่งเดินทางกลับจากราชการต่างประเทศ ด้าน พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) มีกำหนดการต้อนรับ ผบ.ทร.กัมพูชา ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ วังเดิม ขณะที่ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) มีภารกิจและกำหนดการที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง
    ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกระแสข่าวการรัฐประหารซ้อนว่า ให้ฝ่ายความมั่นคงติดตามการบิดเบือน การเชื่อมโยงข้อมูลการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จที่จะสร้างความเสียหายและผลกระทบต่อสังคม ให้องค์กรที่ได้รับผลกระทบดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ตนขอเตือนว่าสิ่งที่กระทำเหล่านี้ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จึงขออย่ากระทำผิดเลย เพราะบ้านเมืองเดินมาถึงขนาดนี้แล้ว กำลังจะมีการเลือกตั้ง วันนี้ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาล  เราจะทำบรรยากาศการเลือกตั้งให้เกิดความเรียบร้อย ให้เสรี เป็นธรรม และเท่าเทียม 
สร้างความแตกแยก
    เมื่อถามว่า วัตถุประสงค์ของผู้ปล่อยข่าวเหล่านี้หวังผลอะไร โฆษกกระทรวงกลาโหมตั้งคำถามกลับมาว่า การกระทำดังกล่าวใครได้ประโยชน์ ซึ่งหากดูแล้วรัฐไม่ได้ประโชน์ใดๆ เลย และจะยิ่งทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น เกิดความไม่เข้าใจกันเอง จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณติดตามฟังข่าวสารด้วย สิ่งใดที่เห็นว่าไม่เป็นจริงให้สอบถามมาที่ส่วนราชการ ขอให้เชื่อมั่นทางราชการ และติดตามข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงจากทางราชการเท่านั้น อย่าพยายามส่งต่อข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอย่าตื่นตระหนก ตอนนี้เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้ว จึงต้องนำบทเรียนในอดีตเพื่อวางอนาคตให้เกิดความสงบร่วมกัน
    ซักว่าหน่วยข่าวกรองได้รับรายงานว่ามาจากฝ่ายการเมืองหรือไม่ พล.ท.คงชีพตอบว่ากำลังติดตามอยู่ โดยติดตามความเชื่อมโยงของทุกฝ่าย จะเป็นกลุ่มไหนก็แล้วแต่ ถือว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดีต่อประเทศชาติและบ้านเมือง ปีนี้เป็นปีที่สำคัญเป็นปีมหามงคลของคนไทย มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  อีกทั้งจะมีการประชุมอาเซียนที่ได้เป็นเจ้าภาพ รวมทั้งมีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร คนไทยจึงมีหน้าที่ร่วมกันในการดูแลรักษาความสงบ
    ถามว่าจะจับผู้ที่ปล่อยกระแสข่าวลือนี้เพื่อมาลงโทษตามกฎหมายได้หรือไม่ พล.ท.คงชีพกล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่ยาก เพราะเราติดตามความเชื่อมโยงในโซเชียลมีเดียได้ จึงน่าจะติดตามได้ เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอยู่ ขอความร่วมมืออย่ากระทำการใดๆ ที่ทำให้ตื่นตระหนก เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนเลย  ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว
    ส่วนที่มีการติดแฮชแท็ก #รัฐประหาร อันดับหนึ่งนั้น โฆษกกระทรวงกลาโหมตอบว่าไม่ต้องตื่นตระหนก ภาพการเคลื่อนย้ายกำลังและยุทโธปกรณ์เป็นไปเพื่อการฝึก ซึ่งกองทัพได้ชี้แจงไปแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐประหาร ขอให้เชื่อมั่นเพราะเราเดินกันมา 4 ปีแล้ว ในการทำเพื่อประเทศชาติ ต่อไปนี้ก็ต้องกลับมายืนในความถูกต้องและหลักกฎหมายร่วมกัน ซึ่งตนเชื่อว่าทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี 
    ซักว่าในการประชุมในวันนี้ที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพไม่ได้เข้าร่วมประชุมนั้นติดภารกิจใช่หรือไม่ พล.ท.คงชีพชี้แจงว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการถวายความปลอดภัยและการจัดการจราจรพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ไม่ใช่เป็นการประชุม ผบ.เหล่าทัพ
    เมื่อถามว่าจุดยืนของรัฐบาลและเหล่าทัพยังคงเป็นเอกภาพหรือไม่ พล.ท.คงชีพระบุว่า "ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราเหนียวแน่นเป็นหนึ่งเดียวกัน สถาบันทหารยังเป็นสถาบันหลัก ที่ตนเชื่อมั่นว่าทุกวันนี้ยังทำหน้าที่เป็นหลักประกันความมั่นคง ขอให้มีความเชื่อมั่นในสถาบันทหารว่าเราทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติมาตลอด" 
สร้างเรื่องเท็จ
    พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอมที่ถูกจัดทำขึ้นทั้งฉบับ เป็นการสร้างเรื่องเท็จ มุ่งประสงค์ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด  อาจหวังให้สังคมเกิดความวุ่นวาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาของการเผยแพร่เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการ จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนหลีกเลี่ยงการส่งต่อเรื่องอันเป็นเท็จดังกล่าว เพราะอาจเข้าข่ายความผิดในทางกฎหมายได้
    อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันอาจมีกลุ่มไม่หวังดีกำลังพยายามสร้างความวุ่นวายทางข้อมูลข่าวสาร ในลักษณะสร้างเรื่องเท็จ บิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิดทั้งในตัวบุคคลหรือองค์กรก็ตาม ไปนำเสนอเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งอาจมีข้อสังเกตได้ว่าอาจจะเป็นการกระทำในลักษณะที่เป็นกระบวนการ หวังให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างมีนัย โดยเฉพาะกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศในช่วงเวลาสำคัญนี้ด้วย  
    จึงขอความร่วมมือ เนื่องด้วยช่วงนี้สังคมมีความอ่อนไหวต่อทุกข้อมูลข่าวสาร การจะนำเสนอข้อมูลใดๆ ควรจะอยู่ในกรอบกติกาอย่างเหมาะสม และเชื่อว่าในช่วงนี้สังคมจะได้ใช้วิจารณญาณที่ดีในการบริโภคข่าวสารมากขึ้น รวมถึงสามารถรู้เท่าทันต่อวิธีการต่างๆ ของผู้ที่ไม่หวังดีต่อสังคมและประเทศชาติ
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคไม่เสียสมาธิกับความสับสนต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะหน้าที่สำคัญของเราคือ การนำเสนอนโยบายหาเสียงเลือกตั้งให้ตอบสนองต่อประชาชน พร้อมเชื่อว่าประชาชนต้องการเห็นประเทศไทยมีการเลือกตั้งตามที่กำหนดไว้ ดังนั้นเพื่อผลักดันสิ่งต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน พรรคก็ขอทำหน้าที่ตรงนี้ต่อไป
    นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือการรัฐประหารอย่างต่อเนื่อง สะท้อนปัญหาสังคมไทยให้เห็นว่า เกิดการเผชิญหน้าระหว่างอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งกับอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งกำลังไปต่อไม่ได้ จนกลายเป็นกระแสเรื่องการรัฐประหารอีก ซึ่งถ้ามีการยึดอำนาจ อนาคตใหม่ยืนยันว่า จะคัดค้านอย่างแน่นอน.