ตำรวจ ปส.ร่วมกับ บช.ภ.5 บุกค้นบ้านผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดรายใหญ่ในชายแดน อ.เชียงดาว พบเชื่อมโยง "มันทุกเม็ด" ยึดเอกสาร สมุดบัญชีไปตรวจสอบ พร้อมจู่โจมเครือข่ายในเชียงราย ลำพูน ตาก เพชรบูรณ์ เผยเตรียมขอหมายจับ "นางหลี่ เลาจาง"
    เช้ามืดวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ ตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษสยบไพรี พร้อมด้วยตำรวจภูธรภาค 5 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเขตพื้นที่ 5 เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เจ้าหน้าที่สรรพากร และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 189 หมู่ 8 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ของนางหลี่ เลาจาง หลังการสืบสวนสอบสวนพบมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติด "มันทุกเม็ด" 
    จากการตรวจสอบภายในบริเวณบ้านของนางหลี่​ ซึ่งมีทั้งหมด 3 หลัง ด้านหน้าเป็นบ้านหลังเล็ก มีกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้าน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของคนที่เข้ามา ส่วนพื้นที่ถัดไปเป็นโรงงานขนาดเล็กคัดแยกส้ม และมีบ้านหลังขนาดกลางอยู่ ถัดออกไปเป็นบ้านหลังใหญ่ มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท อยู่ด้านในบริเวณข้างๆ บ้านมีทางเข้าถ้ำได้ด้วย 
    จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ พบอาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก เครื่องเงิน และเงินสดจำนวนหนึ่ง จึงอายัดไว้ตรวจสอบ พร้อมกันนี้ได้ยึดรถยนต์ เอกสารและสมุดบัญชีไปตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงิน รวมถึงได้อายัดบ้านทั้งหมดไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้มีการกระจายกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย จำนวน 17 จุด ในพื้นที่ อ.เชียงดาว อ.ดอยหล่อ อ.แม่แจ่ม อ.ดอยสะเก็ด และ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ขณะเดียวกันยังมีการนำกำลังเข้าตรวจค้นในพื้นที่ จ.เชียงราย 2 แห่ง ลำพูน 1 แห่ง ตาก 3 แห่ง และเพชรบูรณ์ 1 แห่ง เพื่อตรวจสอบหลักฐาน และเพื่อขยายผลการดำเนินการทางมาตรการทำลายโครงสร้างอิทธิพลของเครือข่าย ทั้งทางด้านทรัพย์สิน มาตรการทางภาษี และการขยายผลเครือข่ายข้ามชาติที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยในช่วงบ่าย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. จะเดินทางไปแถลงข่าว
    สำหรับนางหลี่​ เลาจาง​ เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา เคยถูกแก๊งค้ายาเสพติดอุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่ 25 ล้านบาท ซึ่งการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีข้อมูลว่า เหตุที่นางหลี่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ เป็นเพราะกลุ่มนางหลี่มีการหักหลังเรื่องเงินที่เกี่ยวโยงกับยาเสพติด จากนั้นตำรวจจึงขยายผลจนทราบว่านางหลี่มีความเชื่อมโยงกับชาวเผ่าม้ง ที่ทำหน้าที่ในการโอนเงินยาเสพติด และการขนส่งยาเสพติดกระจายลงไปยังกรุงเทพมหานคร ภาคใต้ และประเทศเพื่อนบ้าน โดยทำในลักษณะเครือญาติ รวมถึงถูกซัดทอดจากผู้ต้องหาค้ายาเสพติดที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2558 ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้น ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นดังกล่าว และหลังจากนี้เตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับนางหลี่ต่อไป
    ในการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องสงสัยเป้าหมายได้ 3 คนคือ นางหลี่ เลาจาง, นายสมชัย เลาจาง ลูกชายนางหลี่ และนางรังสิมา แซ่หาญ ภรรยานายสมชัย จากการสอบปากคำ นางหลี่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่มีอาชีพปลูกผักทำสวน มีรายได้ 6-8 แสนบาทต่อปี ไม่รู้เห็นเรื่องเงินหมุนเวียนในบัญชีของลูกชายรวมหลายล้านบาท ยอมรับรู้จักนายบรรเทิง แซ่ตั้ง ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกจับเมื่อปี 2561 ในฐานะแฟนใหม่ แต่ยืนยันไม่รู้เห็นเรื่องการค้ายาเสพติดของนายบรรเทิง
    เจ้าหน้าที่ระบุว่า นอกจากนางหลี่แล้ว สมาชิกในครอบครัวคนสำคัญที่สั่งการในการรับขนยาเสพติด คือนางสาวบังอร เลาจาง ลูกสาวนางหลี่ เป็นอีกคนที่มีหมายจับ แต่หลบหนีออกจากบ้านพักในหมู่บ้านไปนานแล้ว ซึ่งเครือข่ายค้ายาเสพติดของนางหลี่มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 1 พันล้านบาท
    ปฏิบัติการครั้งนี้ ตำรวจ ปส.เข้าตรวจค้นทั้งหมด 17 จุด สามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดได้ 1 คน คือ นางเบญจมาศ แซ่ตั้ง ลูกสาวของนายบรรเทิง แซ่ตั้ง นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 คน พร้อมตรวจยึดของยาไอซ์ 100 กิโลกรัม และยาบ้ากว่า 7 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดลำปาง ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำหน้าที่ขนส่งยาเสพติด โดยลำเลียงมาจากอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ไปยังภาคกลาง พร้อมซัดทอดว่ายาเสพติดเป็นของนางบังอร เลาจาง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด และเป็นลูกสาวของนางหลี่.