11 ก.พ.62- บรรยากาศการชุมนุม ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ P-move ที่ปักหลักหน้าทำเนียบรัฐบาลติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดิน โฉนดชุมชน รวมทั้งกรณีบ้านมั่นคง และการจ่ายค่าชดเชย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนไปนานแล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไข โดยล่าสุดได้ออกแถลงการณ์ ฉบับ “ตรวจราชการรัฐบาลอำนาจเต็ม เพื่อติดตามการแก้ปัญหา สร้างกลไกความต่อเนื่อง และรักษาช่องทางลดความเหลื่อมล้ำ ตามนโยบายรัฐบาลปัจจุบัน”
ระบุว่า ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้มารวมกลุ่มกันติดตามการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายให้เป็นไปตามข้อตกลง และมติของคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ขปส. ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 และคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาตามกระทรวงต่างๆ อีก 8 คณะ โดยได้ยื่นข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในประเด็นต่างๆ เช่น กรณีปัญหาที่มีมติเห็นชอบร่วมกันจนเป็นข้อยุติของอนุกรรมการ และคณะกรรมการแก้ปัญหาของ ขปส. จะต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติเห็นชอบ
โดยให้นำเข้าพิจารณาภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ได้แก่ (1) การคุ้มครองพื้นที่ชุมชนที่ยื่นเสนอขอใช้สิทธิที่ดินตามนโยบายโฉนดชุมชนทั้ง 486 ชุมชน เพื่อให้ชุมชนได้พัฒนาชุมชน และทำมาหากินตามปกติ ในระหว่างการรอหาแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว (2) การปรับเกณฑ์การสนับสนุนงบประมาณโครงการบ้านมั่นคง จากเดิม หน่วยละ 80,000 บาท เป็น 100,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน (3) การจ่ายค่าชดเชยเยียวยากับผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยฝั่งแดง จังหวัดอุบลราชธานี
ซึ่งทุกเรื่องที่ได้รับข้อยุติดังกล่าวแล้วนั้น ขปส. ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้นำเรื่องดังกล่าวเข้า ครม. เพื่อพิจารณาและสร้างกลไกการติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลต่อไปข้างหน้า ขณะนี้การประชุม ครม. ผ่านไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีการนำเรื่องกรณีปัญหาของ ขปส. ทั้ง 3 เรื่องเข้าสู่ ครม. เพื่อพิจารณาแต่อย่างใด
ขปส. ขอชี้แจงต่อสาธารณะว่า การชุมนุมของคนจนเพื่อติดตามตรวจสอบและรักษากลไกการแก้ปัญหาผลักดันเรื่องที่ได้มติให้เป็นมติของ ครม. เป็นการตอกย้ำถึงหลักประกันที่สำคัญว่า ระหว่างนี้ การแก้ไขปัญหาจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งทุกกรณีปัญหาจะได้รับการคุ้มครอง ปกป้อง ไม่ให้ถูกละเมิดข้อตกลงหรือถูกคุกคามสิทธิจากหน่วยงานและกลไกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ดังเช่นอดีตที่ผ่านมา และปรากฎการณ์ที่เห็นในตอนนี้การมาติดตามการแก้ปัญหาเข้าสู่วันที่ 2 ยังไม่มีผู้แทนจากรัฐบาลเข้ามาเหลียวแลเลยสักคน
ขปส. ขอยืนยันว่า นโยบายลดความเหลื่อมล้ำของรัฐบาลปัจจุบันและท่าทีการแก้ไขปัญหา ขปส. ที่ผ่านมา แม้หลายเรื่องไม่มีรูปธรรม แต่ภาพรวมการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและ ขปส. ในหลายพื้นที่ได้นำมาซึ่งเครื่องมือและกลไกในการติดตามปัญหา และมีความคืบหน้าในบางกรณี ดังนั้น เพื่อให้ช่องทางและกลไกในการลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาลปัจจุบันมีความต่อเนื่อง และไม่ถูกทำลายหรือสิ้นสุดลงด้วยกรณีใดๆ ขปส. จึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลปัจจุบันได้ผลักดันให้ข้อตกลงมติในที่ประชุมผลการแก้ปัญหาและกลไกได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา จนกว่ารัฐบาลใหม่จะเข้ามาบริหารประเทศต่อไป
ดังนั้นการเจรจาในคณะกรรมการแก้ปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมกับรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 จะเป็นทางออกให้กับประชาชน ในวันพรุ่งนี้จะต้องนำข้อเรียกร้องทั้ง 3 กรณี ข้างต้นเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เพื่อเห็นชอบตามมติคณะกรรมการฯ ในทันที
ทั้งนี้ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-Move ประกอบด้วยขบวนการภาคประชาชน 6 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายสลัม 4 ภาค, เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน, เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง, สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ, สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ และ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด ประมาณ 500 คน รวมตัวปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดิน ตลอดจนยื่นข้อเสนอเพื่อเร่งรัดกระบวนการแก้ปัญหาต่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |