88%ยังไม่ถูกใจชื่อ'ผู้นำ' วางสเปกเก่งแก้ปากท้อง


เพิ่มเพื่อน    

    ผลโพลพบยังไม่มีใครโดนใจเลือกเป็นนายกฯ เหตุภาพนายกรัฐมนตรีคนต่อไปยังคงเบลอๆ   ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นใคร วางสเปกเก่ง เน้นด้านเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องได้ เคยมีผลงานจับต้องได้ 
    เมื่อวันที่ 10 ก.พ. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยแพร่ผลสำรวจหลังจากวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 58,572 คน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-9 กุมภาพันธ์ 2562 หลังจากที่ผู้สมัครสังกัดพรรคการเมืองต่างๆ ได้ลงพื้นที่หาเสียงตามเขตเลือกตั้งมาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งแต่ละพรรคก็มีนโยบายและวิธีการหาเสียงที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ “นโยบายที่โดนใจ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” 
    ผลสำรวจดังกล่าว สรุปได้ดังนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งเพศชายและหญิง ชื่นชอบนโยบายที่คล้ายคลึงกัน 2.ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ที่มีอายุแตกต่างกัน ชื่นชอบนโยบายต่างกัน 3.ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน ชื่นชอบนโยบายต่างกัน
     โดยนโยบายที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ชื่นชอบ จำแนกตามตัวแปรเพศ ชาย-หญิง โดยทั้งเพศชาย และเพศหญิงมีนโยบายที่ชอบอันดับต้นๆ ตรงกัน เพียงแต่เปอร์เซ็นต์แตกต่างกัน อย่างเช่นของเพศชาย ชอบนโยบาย และมีเปอร์เซ็นต์ดังนี้ 1.กินดีอยู่ดี มีงานทำ ขึ้นค่าแรง เงินเดือน 30.24% 2.กระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน 23.83% 3.แก้ปัญหาด้านการเกษตร ราคาพืชผลดี 19.85% 4.ลดค่าครองชีพ ควบคุมราคาสินค้า 13.60% 5.แก้ปัญหาทุจริต ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล 12.48%   
    ขณะที่นโยบายที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ชื่นชอบ จำแนกตามตัวแปรระดับการศึกษา ประถม-สูงกว่าปริญญาตรี พบว่า ในส่วนของกลุ่มระดับการศึกษาประถมศึกษา นโยบายที่ชอบอันดับแรกๆ ประกอบด้วย 1.กินดีอยู่ดี มีงานทำ ขึ้นค่าแรง เงินเดือน    28.55% 2.แก้ปัญหาด้านการเกษตร ราคาพืชผลดี    26.33% 3.กระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน    22.19% 4.ลดค่าครองชีพ ควบคุมราคาสินค้า     13.49% 5.สวัสดิการการรักษาพยาบาล รักษาฟรี    9.44%    
    ส่วนกลุ่มระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี นโยบายที่ชอบอันดับแรกๆ มีเช่น กินดีอยู่ดีมีงานทำ-กระตุ้นเศรษฐกิจการค้าการลงทุน-แก้ปัญหาทุจริต ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล
    วันเดียวกัน นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ปัญหาปากท้องประชาชน กับภาพนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จากทุกสาขาอาชีพ จำนวน 1,111 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562     พบว่า ร้อยละ 46.8 ติดตามข่าวสารผ่านสื่อมวลชน บ่อยๆ ในขณะที่ร้อยละ 47.1 ไม่บ่อย และร้อยละ 6.1 ไม่ติดตามเลย
    ที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนร้อยละ 30.1 ระบุการแก้ปัญหาปากท้องดีขึ้น แต่ร้อยละ 35.5 ระบุเหมือนเดิม และร้อยละ 34.4 ระบุแย่ลง นอกจากนี้ เกินครึ่งหรือร้อยละ 52.7 ระบุความมั่นคงในอาชีพการงานตอนนี้แค่กลางๆ ประคองตัว และร้อยละ 25.0 ระบุไม่มั่นคง ในขณะที่ส่วนน้อยหรือเพียงร้อยละ 22.3 เท่านั้นระบุมั่นคง รายได้ดี
    นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.4 ระบุยังไม่เห็นมีใครตอนนี้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่เก่ง แก้ปัญหาปากท้องประชาชนได้ ในขณะที่ส่วนน้อย หรือเพียงร้อยละ 11.6 ระบุมีในใจแล้ว
    ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวว่า ผลสำรวจที่ผ่านมาหลายครั้งชี้ให้เห็นว่าปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด และคนส่วนน้อยของประเทศอยู่ในฐานะมั่นคง รายได้ดี และผลสำรวจครั้งนี้ตอกย้ำว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในฐานะกลางๆ แค่ประคองตัวและกำลังมองหาคนจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปที่เก่ง เน้นด้านเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้ดี เคยมีผลงานจับต้องได้ ไม่ทอดทิ้งชาวบ้านคนจน มุ่งช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ยังไม่มีใครในใจตอนนี้ เพราะภาพนายกรัฐมนตรีคนต่อไปยังคงเบลอๆ ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นใคร.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"