โซเชียลร้อยระอุละทุล้านองศา เมื่อ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก เนื้อหากินใจ แต่ก็ทิ่มแทงคนโกง ยิ่งกว่ากระอักเลือด เพราะระบอบทักษิณโดยนายทักษิณ ชินวัตร โลภมากทั้งเรื่องผลประโชน์และอำนาจ ไม่รู้จักพอจนตัวเองไม่มีแผ่นดินอยู่ วันนี้กำลังทำให้สมุนอาจต้องไร้แผ่นดินซุกหัวเช่นกัน ...๐
"...คนไทยต้องตื่นรู้ตาสว่างได้แล้ว นักการเมืองที่แฝงกายใช้อำนาจผ่านผู้อื่นให้กระทำและไม่กระทำการ ที่ล้วนส่งผลเสียต่อแผ่นดินควรได้รับการประณาม ควรถูกเผยตัวตน ให้ประชาชนได้รับทราบ ตาสว่างเสียทีว่าเขาหวังสูบประโยชน์เข้าตัวเอง เบื้องหลังการอ้างว่าจะทำให้ประชาชน เราไม่ควรใช้อารมณ์ต่อสู้ แต่ควรใช้ปัญญา
กี่คนแล้วที่ต้องรับโทษแทน กี่คนแล้วที่ถูกดัน ถูกเชิดให้อยู่แนวหน้า และก็ต้องรับโทษไป การกระทำครั้งนี้ต้องช่วยกันทำความจริงให้ปรากฏว่าใครที่เริ่มขบวนการนี้ คนเหล่านี้ไม่เคยเผยตัวออกมา ยามเมื่อต้องรับผิดคนที่ถูกลงโทษจึงเป็นเพียงคนแถวหน้า
ผู้นำที่ขี้ขลาดตาขาวแบบนี้ มือและใจสกปรก เอาความสกปรกใส่มือผู้อื่นทำลายแผ่นดินไม่ควรได้รับโอกาสบริหารประเทศอีกต่อไป เพราะครั้งนี้อาจเอื้อมทำลายสถาบัน แม้จะมีพระบรมราชโองการออกมาแต่ก็กลายเป็นเหยื่ออันโอชะสำหรับคนที่หวังร้ายต่อประเทศไทยที่ยังคงทำลายอย่างต่อเนื่อง จากนี้ไปผู้นำที่ขี้ขลาดจะไม่ยอมแพ้แน่นอน เขาไม่เคยยอมรับว่าบาปกรรมมีจริง แต่เขาก็คงไม่เคยรู้ว่าพลังความดีมีจริงและแข็งแรงมากด้วย อย่ากะพริบตาจากนี้...."
ถ้าบรรดาสมุนทักษิณลองหันกลับไปดูอดีต ก็เห็นอยู่ว่า ที่ติกคุกไปแล้ว มีทั้งพวกที่เชื่อคำพูดทักษิณแล้วเผาศาลากลาง บรรดาผู้รับใช้คดีปล่อยกู้คดีกรุงไทย นั่นก็คือตอนแก่ ถึงบางคนจะโชคดีได้ออกมาใช้ชีวิตนอกคุกเร็วกว่าที่คิด แต่การอยู่ร่วมขบวนการโกง สังคมจะจดจำไปชั่วลูกชั่วหลาน ที่เหลือก็คือ "พานทองแท้ ชินวัตร" วันนี้ยังไม่ติดคุก แต่วันข้างหน้าตอบไม่ได้ อยู่ที่คำพิพากษาของศาล ...๐
การเมืองกำลังจะไปได้ หลังสงบในระดับหนึ่งมาร่วม 5 ปี ประชาชนคาดหวังว่าหลังเลือกตั้งผ่านพ้นไป บ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้ แต่คนชื่อ ทักษิณ กลับจุดไฟให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก โดยที่การเลือกตั้งไม่ทันจะเกิดขึ้น ...๐
ในหมู่นักวิชาการเสื้อแดงพูดเรื่องนี้กันหนาหู "อนุสรณ์ อุณโณ" คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ สื่อสารผ่านเฟซบุ๊กว่า "ความเกินคาดและการพลิกผันส่งผลกระทบต่อการเมืองและสังคมไทยอย่างสำคัญ ในระยะเฉพาะหน้าหรือว่าในสนามเลือกตั้งที่จะถึง ฝ่ายสนับสนุน คสช. และพลังอนุรักษนิยมจะเพิ่มจำนวนขึ้นตามความเกลียดชังที่ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง หลังจากคนกลุ่มนี้อยู่ในสภาวะหลับใหลและแตกกระจายมากว่าสี่ปี ในระยะยาว ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ จะได้รับการฟื้นฟู เพราะได้พิสูจน์ตัวอีกครั้งภายใต้การนำใหม่ว่าสามารถคลี่คลายปัญหาได้อย่างชะงัดและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย" ...๐
มองว่าพลังอนุรักษนิยมถูกปลุกขึ้นมา ก็ถือว่าถูกต้อง แต่ถูกไม่หมด เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงเองถูกทักษิณปลุกให้เรียงหน้าออกมารับใช้ ทั้งฝ่ายการเมือง วิชาการ และมวลชน ล้วนได้รับการปลุกปั่นถ้วนหน้า โดยที่คนกลุ่มนี้ไม่รู้ตัว ยังคิดว่านั่นคือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เคยหลาบจำ
อย่างไรก็ตาม การนิยามคำว่า "พลังอนุรักษนิยม" ของคนที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เกิดจากการประเมินสถานการณ์อย่างผิวเผิน คิดว่าคนที่อยู่ตรงข้ามระบอบทักษิณเป็นพวกอนุรักษนิยม ฝักใฝ่เผด็จการทหาร ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการมองอย่างผิดพลาด และตื้นเขิน ฝ่ายตรงข้ามทักษิณเชื่อในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมานาน แต่ระบอบทักษิณและกลุ่มเครือข่ายซ้ายจัดพยายามจะเข้ามาเปลี่ยนแปลง ดังที่เราเห็นได้จากแนวคิดของแกนนำพรรคอนาคตใหม่บางคน สุดท้ายวันนี้จึงต้องย้อนถามนายทักษิณ ใช้แผนที่มิบังควรเพื่อเข้าสู่อำนาจทำไม ...๐
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |