เมื่อระฆังของการเลือกตั้งดังขึ้น


เพิ่มเพื่อน    

    เมื่อกำหนดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 สิ่งที่เราได้เห็นคือภาพการสาดโคลนของนักการเมือง และการตอบโต้กันทุกวันเมื่อมีไมค์จ่อปาก บางคนควบคุมอารมณ์ได้ บางคนควบคุมไม่ได้ก็จะเป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นได้ไม่เลิก บางคนไม่มีประเด็นก็สร้างสถานการณ์หรือเกาะติดสถานการณ์เพื่อให้มีไมค์มาจ่อปาก ได้เป็นข่าวมีหน้าออกสื่อบ้าง บางคนจับผิดคนอื่นตลอดเวลาจนไม่รู้ว่าเอาเวลาที่ไหนไปหาเสียงหรือคิดนโยบายช่วยเหลือชาวบ้าน บางคนก็แม่นกฎหมายขึ้นมาทันใดในทุกประเด็น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้หลีกเลี่ยงกฎหมายมาตั้งเยอะ บางคนก็วิ่งแล้ววิ่งอีกกว่าจะได้มีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ส่วนประชาชนคนดูก็เหมือนกับได้ดูลิเก ปาหี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เดาทิศทางออก ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือน่าตื่นเต้น
    เรายังคงเห็น ส.ส.ที่มาจากการสืบทอดทางสายโลหิตเหมือนกับว่าประเทศนี้เป็นบริษัทจำกัด ที่ต้องแย่งตำแหน่ง แย่งเก้าอี้เพื่อจะได้เป็นใหญ่เป็นโต มีชื่อเสียง มีตำแหน่ง และมีงบประมาณลงพื้นที่โดยมีเปอร์เซ็นต์ในการกอบโกย เรายังคงเห็นการหาเสียงที่เริ่มมีการติดป้ายหาเสียงที่เห็นแก่ตัว คือ วางกีดขวางทางเท้าเต็มไปหมด เรายังคงเห็นการปลดป้ายของคู่แข่งและเอาป้ายตัวเองไปแขวนแทน เรายังคงเห็นผู้สมัคร ส.ส.เดินหาเสียงยกมือไหว้ไปทั่ว แต่เมื่อได้รับเลือกก็จะหายตัวไปนั่งเชิดคอในสภาแทน เรายังคนเห็น ส.ส.น้ำเน่าที่พ่นน้ำลายใส่กันโดยอวดอ้างสรรพคุณของตัวเองและโจมตีฝ่ายตรงข้ามจนต้องมีการฟ้องร้องตามมา เรายังคงเห็น ส.ส.ที่เป็น ดร.เต็มเมืองแต่ไม่เคยสำรวจกันว่าเป็นปริญญากิตติมศักดิ์ ปริญญาห้องแถว หรือปริญญาที่ได้มาแบบ “จ่ายครบ จบแน่” เรายังคงเห็นการแจกเงินในคืนหมาหอน และมีรถรับส่งไปยังคูหาเลือกตั้งแต่ กกต.ไม่เคยจับได้ และแน่นอนเรายังคงเห็นการซื้อตัว ส.ส.การซื้อสิทธิ์ขายเสียงควบคู่ไปกับการเลือกตั้งทุกครั้ง
    หลังการเลือกตั้งเราคงเห็นการวิ่งฝุ่นตลบในการจัดตั้งรัฐบาล เราคงเห็นคนที่อยากเป็นรัฐมนตรีจนเนื้อเต้นแม้ว่าตัวเองจะไม่มีความสามารถก็ตาม เราคงเห็นการเรียกร้องโควตาและการเจรจาต่อรองขอกระทรวงที่ทำเงินเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการจัดตั้งรัฐบาล เราคงเห็นโผรายชื่อคณะรัฐมนตรีรายวันที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทั้งๆ ที่เป็นความลับสุดยอด เราคงเห็นการให้สัมภาษณ์ของว่าที่รัฐมนตรีรายวันว่ามีหน้าตาเช่นไร เราคงเห็นการถ่ายรูปคณะรัฐมนตรีและหลังจากนั้นก็จะมีการปรับไปเรื่อยๆ เรียกว่าเป็นตำแหน่งที่เหมือนกับ “สมบัติ ผลัดกันชม”
    คำถามในฐานะคนไทยเจ้าของประเทศที่เสียภาษีก็คือ เมื่อไหร่ภาพเดิมๆ เหล่านี้จะหมดไป เมื่อไหร่นักการเมืองน้ำเน่าจะสูญพันธุ์ เมื่อไหร่ประชาธิปไตยบ้านเราจะโปร่งใส เมื่อไหร่จะมีนักการเมืองน้ำดีเข้ามาสู่สนามการเลือกตั้ง เมื่อไหร่เราจะได้คนดีเข้ามาบริหารประเทศอย่างจริงจังโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของพวกพ้อง เพราะจากที่มองเห็นการเลือกตั้งครั้งนี้คงไม่มีอะไรใหม่ในสายตาคนไทย ขอบอกว่าเสียดายเงินภาษีที่จ่ายไปจริงๆ.
               จิตติมา กุลประเสริฐรัตน์

             (g,[email protected])


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"