‘ตระกูลเพื่อ’หลบดูทางลม


เพิ่มเพื่อน    

  โค้งแรกหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ตระกูลเพื่อยังตั้งหลักไม่ได้ ไทยรักษาชาติ-เพื่อชาติ งดปราศรัยขอดูทิศทางลมก่อน ส่วนเพื่อไทยเตือนลูกพรรคให้ระวังตัว เพราะการเมืองอ่อนไหว  ขณะที่พลังประชารัฐตีปีกหลัง "บิ๊กตู่" ตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ "เสรีพิศุทธ์" ตามด่าเช็ดละครน้ำเน่า  จ้องยุบ พปชร.ข้อหา "ประยุทธ์" ครอบงำ

    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลายพรรคการเมืองยังคง เดินสายปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งตามปกติ ยกเว้นพรรคไทยรักษาชาติ ที่ยังคงมีปัญหาเรื่องการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กับพรรคเพื่อชาติ ที่อ้างว่าขอประเมินสถานการณ์ก่อน  
    นายรยุศด์ บุญทัน โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า จากกำหนดการเดินสายปราศรัยและลงพื้นที่พบปะประชาชนในกิจกรรม “เพื่อชาติสัญจร ภาคอีสาน” ระหว่างวันที่ 8-15 กุมภาพันธ์ 2562 นั้น ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อชาติ ขออนุญาตเลื่อนกำหนดการดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อประเมินและติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด หากพร้อมจัดกิจกรรมต่อเมื่อใด จะแจ้งให้ทางสื่อมวลชนทราบอีกครั้ง และต้องขออภัยทุกท่านอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ จากกองโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อชาติ
    นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขธิการพรรคเพื่อไทย ส่งข้อความถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า “เรียนสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกท่าน ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้มีความอ่อนไหว ขอให้สมาชิกทุกท่านระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นในทุกรูปแบบ และขอให้เดินหน้าทำหน้าที่ของตนเองตามที่ได้รับอาสาพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ สำนักเลขาธิการพรรค 8 กุมภาพันธ์ 2562”
    ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ ยังคงเคลื่อนไหวคึกคัก ที่ จ.สมุทรสาคร นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำพรรค เดินทางมาร่วมพิธีเปิดศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐประจำ จ.สมุทรสาคร บริเวณ ถ.นรราชอุทิศ ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร 
    นายอุตตมกล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตอบรับบัญชีชื่อนายกรัฐมนตรีในนามพรรคพลังประชารัฐไปแล้ว ซึ่งพรรคมีความมั่นใจ และเชื่อว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมนำพาประเทศไปข้างหน้า ในสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศชาติที่ต้องการความสงบสุข ต้องการผู้นำที่สามารถจะตัดสินใจได้และทำงานเพื่อประชาชน โดยพรรคพลังประชารัฐได้ช่วยกันคิดและพิจารณาแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมในเวลานี้ที่จะนำพาประเทศต่อไป
    “พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคใหม่ก็จริง แม้เกิดมาได้ 3 เดือนกว่า แต่เกิดมาด้วยอุดมการณ์ร่วมกันของสมาชิกพรรคทุกคน และด้วยความมั่นใจตั้งแต่วันแรกว่าเราจะเดินไปบนเส้นทางของประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยของคนไทย ไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เป็นวิถีประชาธิปไตยของคนไทย และพรรคพลังประชารัฐอาสามาทำงานให้ประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยนโยบายนำพาประเทศไทยก้าวหน้าและก้าวทันโลกให้คนไทยมีความสุข อย่างครอบคลุมและทั่วถึง” 
สืบทอดอำนาจคืออะไร
    ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นอย่างไรต่อแถลงการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ที่ยังคงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. นายอุตตมตอบว่า ตนไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความเห็นเรื่องดังกล่าว แต่ขอให้ดูว่าการวางตัวของ พล.อ.ประยุทธ์นั้นเป็นอย่างไร 
    "การสืบทอดอำนาจหมายความว่าอย่างไร เมื่อได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ทำงานในส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนชาวไทย และได้แสดงเจตนารมณ์แล้วว่าจะมาทำงานการเมืองต่อในวิถีประชาธิปไตยของคนไทย "
    เมื่อถามว่ารู้สึกโล่งใจขึ้นหรือไม่ที่พรรคไทยรักษาชาติจะไม่มีแคนนิเดตนายกรัฐมนตรี นายอุตตมกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกโล่งใจอะไรทั้งนั้น เรามุ่งมั่นทำงาน อาสามาทำงานให้ประชาชน มีความมุ่งมั่นชัดเจนในนโยบายแต่ละด้าน เพื่อให้สอดรับทุกพื้นที่ เราก็เดินหน้าในเส้นทางของเรา เราทำงานอย่างเต็มที่ และมุ่งหวังที่จะได้จำนวนผู้แทนราษฎรที่จะทำให้พรรคพลังประชารัฐมีส่วนในการจัดตั้งรัฐบาล เราทำงานเต็มที่แล้วหวังผลเต็มที่ 
    ถามว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบรับแล้ว ได้ให้ข้อชี้แนะเรื่องนโยบายพรรคพลังประชารัฐเพิ่มเติมหรือไม่ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเผยว่า ได้หารือคร่าวๆ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์มีความเห็นบ้าง และพรรคพลังประชารัฐก็รับฟังความเห็นเหมือนกัน และเสนอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งขอให้รอดูว่าจะมีนโยบายออกมาอีกเป็นระยะไม่ช้าไม่นานนี้ 
    ทั้งนี้ ก่อนเดินทางไปยังท่าเรือวัดโกรกกราก เพื่อโดยสารเรือข้ามฟากไปยังท่าเรือสุขาภิบาล ท่าฉลอม โดยเมื่อถึงบริเวณท่าฉลอมแล้ว นายอุตตม นายสนธิรัตน์ และผู้สมัครทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ได้แวะพบปะประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยภายในตลาดท่าฉลอม โดยมีพ่อค้าแม่ค้าประชาชนเข้ามาทักทายและให้กำลังใจอย่างอบอุ่น ก่อนที่คณะจะออกเดินทางไปร่วมพิธีเปิดศูนย์ประสานงานเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ ประจำ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร อีกหนึ่งแห่งด้วย
    ที่ตลาดเอี่ยมสมบัติ เขตสวนหลวง กทม. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ และนายธันวา ไกรฤกษ์ ผู้สมัครเบอร์ 6 เขต 20 กทม. ลงพื้นที่พบปะประชาชน ต่อจากนั้นลงพื้นที่ตลาดอยู่สุข ซึ่งเป็นตลาดที่ผู้ค้าย้ายมาจากตลาดหน้าสวนหลวง ร.9 เขตประเวศ ที่ถูกปิดจากกรณีป้าทุบรถ เพื่อแนะนำตัวผู้สมัครและร่วมรับฟังปัญหาจากพ่อค้าแม่ค้า และพี่น้องประชาชนที่เดินตลาด พร้อมนำเสนอนโยบายการพัฒนาตลาดชุมชนในแต่ละเขต และการจัดตั้งคณะกรรมการมาดูแลในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีพื้นที่ในการทำกิน และเป็นพื้นที่ของชุมชนอย่างแท้จริง 
"บิ๊กตู่"เหมาะสุด
    นายกอบศักดิ์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ทุกพรรคมีพร้อม ทั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส.ส.แบบแบ่งเขต รวมถึงบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจมากที่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบรับเป็นบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถช่วยพรรคหาเสียงได้นั้น ก็ไม่ได้มีผลอะไร 
    เขากล่าวว่า เหตุผลที่เลือก พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ที่ใช่ และเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยจะสามารถประคองประเทศไทยให้ผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้ไปได้ เนื่องจากขณะนี้คลื่นใต้น้ำและปัญหาต่างๆ ยังสะสมอยู่ในประเทศไทย เราจึงต้องการคนที่จะประคองและบริหารสถานการณ์ช่วงผันผวนให้ทุกคนสุขสงบ ตามที่ประชาชนคาดหวังอยากให้บ้านเมืองสงบ เพื่อสามารถทำมาหากินได้ เพราะเบื่อที่ต้องมาทะเลาะเบาะแว้งกันอีก 
    นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์มีประสบการณ์และกล้าตัดสินใจในเรื่องที่ยากๆ และคนอื่นไม่กล้าตัดสินใจ เช่น กฎหมายหลายฉบับที่ไม่มีใครกล้าปรับแก้ให้ รวมถึงหลายนโยบายที่ประชาชนรอมาหลายปีไม่มีใครกล้าทำ จึงถือเป็นคนที่กล้าตัดสินใจเพื่อประชาชน ที่สำคัญเป็นคนมือสะอาด จึงมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ และสามารถตรวจสอบได้ ขณะที่ผลโพลต่างๆ ที่ถามว่าอยากให้ใครเป็นเบอร์ 1นายกฯ ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็ชนะทุกโพล 
    ขณะที่ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า 
11 เหตุผลที่ต้องเลือกลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง
          ท่านคงได้รับทราบแล้วว่าพรรคพลังประชารัฐได้มีมติเสนอรายชื่อบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมขอใช้โพสต์นี้ แชร์เหตุผลกับที่ พล.อ ประยุทธ์ หรือ “ลุงตู่” ของพวกเรา เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนี้ครับ
          1.ท่านเป็นผู้ที่นำความสงบกลับคืนสู่ประเทศไทย ในช่วงที่ประเทศเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง
           2.ท่านมีบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยที่เป็นผู้นำสูง ซึ่งหายากและเหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำประเทศ
          3.ท่านกล้าตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ หลายๆ เรื่องที่น้อยคนนักจะกล้าในช่วงเวลาเช่นนั้น
        4.ท่านเป็นคนทำจริง ทำได้ และทำสำเร็จให้เห็นดังผลงานตลอด 4 ปีที่ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา
           5.ท่านอาสาเข้ามาบริหารประเทศอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นนอมินีหรือร่างทรงของใครทั้งสิ้น
           6.สิ่งที่ท่านได้ตัดสินใจเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นว่าท่านมิได้มีผลประโยชน์ซ่อนเร้น แต่มาจากการเสียสละของท่านที่แท้จริง
รักประชาชน
          7.สิ่งที่ผมสัมผัสได้จากการทำงานร่วมกับท่านมาตลอดระยะเวลา 3 ปีนั้น ผมรับรู้ได้ว่าท่านรักประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง
         8.ถึงแม้ท่านจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีบุคลิกที่เป็นผู้นำ แข็งแกร่ง แต่ในอีกด้าน ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่ติดดิน ประชาชนเข้าถึงและพึ่งพาท่านได้
          9.ท่านเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองการณ์ไกล ดังเห็นได้จากท่านได้วางนโยบาย Thailand 4.0 หรือยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อวางรากฐานให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในระยะยาว
          10.การที่ท่านเข้ามาบริหารประเทศในช่วงภาวะวิกฤติที่ผ่านมานั้น หนึ่งในภารกิจที่สำคัญของท่านคือการสร้างรากฐานประชาธิปไตยที่แท้จริงให้กับประเทศไทยในระยะยาว
          11.ท่านเป็นมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่งที่มีอารมณ์หลากหลายดังเช่นคนทั่วไป แต่หนึ่งในบุคลิกภาพที่โดดเด่นของท่านที่พวกเราทุกคนสัมผัสได้คือ การมีอารมณ์และความสามารถแบบศิลปินในด้านการประพันธ์บทกลอนต่างๆ ท่านเข้าถึงจิตใจของประชาชน เราจะเห็นรอยยิ้มที่อบอุ่น จริงใจ และอารมณ์ขันของท่านในทุกครั้งที่ท่านได้พบปะกับพี่น้องประชาชน แต่ด้วยความเป็นมนุษย์ปุถุชนของท่าน เมื่อมีสิ่งไม่ถูกต้องเกิดขึ้น เป็นธรรมดาที่ท่านจะมีอารมณ์หงุดหงิดบ้าง
          ผมเชื่อว่ามีหลายท่านมีมุมมอง ความคิดที่สอดคล้องกับผม อย่างไรก็ตาม ผมเคารพในความคิดเห็น ในทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนทุกท่าน เราเห็นพ้องหรือเห็นต่างกันได้โดยไม่แตกแยกครับ
          ต่อจากนี้ไป เป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนที่จะตัดสินใจในการเลือกผู้นำ และรัฐบาลที่จะนำพาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า มั่นคง บนความสงบสุข ปรองดองของประชาชนในประเทศด้วยตัวของท่านเองครับ
    วันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรค เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดชุมพร ว่า ถ้าประชาชนต้องการประชาธิปไตย ขออย่าไปเลือกพรรคเผด็จการ อย่าให้คะแนนหลุดรอดไปแม้แต่คะแนนเดียว เพราะถ้าคะแนนหลุดรอดไป พวกเขาจะยิ่งเป็นพรรคใหญ่ พวกเขาหว่านคนจนไป 14 ล้านคน จะได้คะแนนเสียง 7 ล้านคะแนน ส.ส.เกือบ 100 คนแล้ว บวกกับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 คน ก็จัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ถ้าเขาได้เกิน 376 คนขึ้นไป เขาสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยชอบด้วยกฎหมาย แล้วจะเป็นเผด็จการต่อไปอีก 20 ปี
ตามด่าเช็ดทุกเวที
          เขากล่าวว่า การส่งชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐนั้น เขารู้กันมานานแล้ว มันเป็นละครน้ำเน่า รู้กันตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจแล้ว ทำอะไรบ้าง เขียนรัฐธรรมนูญก็โกง กฎหมายลูกก็โกง ออกคำสั่งก็โกง มาตั้งพรรค ใช้ชื่อโครงการของรัฐ มีการตั้ง 4 รัฐมนตรี ดูดอดีต ส.ส.เข้ามาสู่พรรค มีการข่มขู่เข้ามา ตอนนี้ใกล้เลือกตั้งแล้ว ในที่สุดก็มีข่าวออกมาว่ารับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พปชร. บอกแล้วว่าเป็นละครน้ำเน่า เขารู้กันมาตั้งนานแล้ว
          “คุณประยุทธ์เขาสั่งได้ เขาเป็นคนให้คุณอุตตมมาตั้งพรรคเพื่อรองรับเขา ถ้าคุณอุตตมจะไปจัดว่า นายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ คุณประยุทธ์ อันดับ 1 คุณอุตตมอันดับ 2 คุณสมคิดอันดับ 3 คุณประยุทธ์อาจจะมองว่าคนเดียวเท่กว่า เลยสั่งให้เปลี่ยน เหลือคุณประยุทธ์คนเดียว ถามว่าคุณประยุทธ์เป็นคนนอก การกระทำแบบนี้ครอบงำพรรคหรือเปล่า"
    พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า นายอุตตมเป็นหัวหน้าพรรค ยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ครอบงำพรรคหรือเปล่า เพราะมีโทษตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 28, 29 คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดกฎหมายในประเด็นครอบงำพรรคในหลายๆ ประเด็น 
          หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยยังโจมตีนโยบาย สปก. 4-01 ของพรรค พปชร. ว่าตอนที่พรรค พปชร.เอาประเด็นนี้ขึ้นมา ก็เพื่อเอาที่ดิน สปก.4-01 มาแจกจ่ายให้ประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายของพรรค แต่มีข่าวออกมาว่าภายหลังที่ พล.อ.ประยุทธ์สั่งการนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ไปสั่งพรรคห้ามใช้เรื่องนี้ไปหาเสียง เพราะจะไม่มีการให้เอกสารสิทธิ แต่จะให้เพียงสิทธิทำกินแก่ประชาชนเท่านั้น พอจะสรุปได้ว่า พปชร.จะเอาที่ดิน ส.ป.ก. มาออกเอกสารสิทธิให้ประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมาบอกนายสมคิดให้สั่งพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเข้าข่ายครอบงำ 
    เขาบอกว่า แม้ว่าวันนี้ พปชร.จะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ของพรรคแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ตอบรับแล้ว แต่ก็ยังเป็นคนนอก เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค พล.อ.ประยุทธ์จะมาอย่างโน้นอย่างนี้ กับพรรคไม่ได้ ลักษณะแบบนี้ถือว่าครอบงำ
"บิ๊กตู่"ครอบงำ
          พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังกล่าวว่า กรณีของการปรับเปลี่ยนลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค พปชร. ที่มีข่าวออกมา พล.อ.ประยุทธ์มาเสนอแนะในเรื่องนี้ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนนอก ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดที่มิใช่เป็นสมาชิก กระทำการใดเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ 
    "ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ผมคิดว่าพรรค พปชร.ไม่น่าจะรอด” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว
    บรรยากาศการหาเสียงที่จังหวัดพิษณุโลก เช้าวันเสาร์ ที่ตลาดใต้ ตลาดเทศบาล 1 อำเภอเมืองพิษณุโลก ยังคงเป็นจุดที่ผู้สมัคร ส.ส.ออกมาพบปะประชาชนพ่อค้าแม่ค้ากันอย่างต่อเนื่อง โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เขต 1 พิษณุโลก มาเดินสายแจกใบปลิว ป่าวประกาศหาเสียงขายนโยบายแก้จนของพรรคประชาธิปัตย์ บรรยากาศการพบปะประชาชนเป็นไปอย่างเป็นกันเอง
    นพ.วรงค์กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยหลังจากการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีว่า สถานการณ์ดีขึ้น คลี่คลาย แต่ประเทศไทยเรายังมีวิกฤติ ยังมีความเสี่ยงอยู่ ยังมีคนพยายามที่จะทำให้ประเทศไม่นิ่ง คิดว่าความเป็นนักการเมือง เราต้องตระหนักถึงสิ่งนี้ ต้องนำพาประเทศไทยผ่านสิ่งเหล่านี้ไปให้ได้ วันนี้รู้สึกโล่งอก เราต้องมีสำนึกพยายามประคับประคองประเทศนี้ไปให้ได้ สำหรับวันนี้ การเดินหาเสียงในตลาดใต้กระแสตอบรับดีมาก เพราะออกพบประชาชนมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โครงการนำนโยบายของพรรคประชาธิปไตยนำเสนอ  ซึ่งมีหลายโครงการที่เราทำอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ english for all ที่มีการขยายไปทั่วประเทศ
    เฟซบุ๊กเพจ "คนภูมิใจไทย" ของพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดเผยคลิปโฆษณานโยบายพรรค เจาะใจ voterรุ่นใหม่ ความยาว 1.25 นาที ประกอบด้วยนโยบาย กัญชาไทยปลูกได้เสรี พืชแก้จนของคนไทย นโยบายสร้างรายได้ประชาชน, ขับ Grab ถูกกฎหมาย นโยบายสร้างรายได้ประชาชน, Work/Study from Home เรียนและทำงานบ้านสัปดาห์ละ 1 วัน, แก้หนี้ กยศ. นโยบายเรียนไม่ติดหนี้ มีกำลังใจทำงาน, อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ นโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางการศึกษา, บุรีรัมย์โมเดล ต้นแบบของการพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชน, สร้างระบบกำไรแบ่งปัน ทวงคืนกำไรให้ชาวนา ชาวนาไทยต้องไม่จน
    พร้อมระบุอีกว่า เราไม่ได้มาเล่นๆ วันนี้พรรคภูมิใจไทยพร้อมทลายทุกข้อจำกัด ลดอำนาจรัฐ ด้วยนโยบายที่ครอบคลุม เพื่อปากท้องประชาชนและอนาคตประเทศไทยมาร่วมกันกับเรา อำนาจอยู่ในมือคุณ นอกจากนี้ คลิปโฆษณาดังกล่าวยังได้มีการเผยแพร่ผ่านช่องทางยูทูบอีกด้วย
"กำนัน"เดินที่บึงกาฬ
    นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ทวีตผ่านทวิตเตอร์ Rangsiman Rome @RangsimanRome ว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกจากการเป็นนายกฯ และหัวหน้า คสช.ได้แล้ว เพราะการมีทั้ง ม.44 การมีอำนาจตั้ง ส.ว. เพื่อมาเลือกตัวเองกลับไปเป็นนายกฯ อีกครั้ง นี่เท่ากับเป็นการสืบทอดอำนาจดีๆ นี่เอง
    ที่จังหวัดบึงกาฬ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย พร้อมด้วยนายสำราญ รอดเพชร และคณะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และในฐานะประธานคณะทำงาน ได้เดินทางมายัง จ.บึงกาฬ ลงพื้นที่เดินคารวะแผ่นดินบริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลบึงกาฬ เพื่อเชิญชวนประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมมีป้ายหาเสียงจากลูกพรรค รวมพลังประชาชาติไทย ผู้สมัคร ส.ส.บึงกาฬ เขต 1 นายสมนึก พิทูลทอง, เขต 2 นายแก้ว พูลเพิ่ม
          นายสุเทพได้เดินพบปะกับชาวบ้าน พ่อค้าแม่ขาย ตามร้านค้าต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลบึงกาฬแบบเดินเข้าหาถึงในบ้าน และเข้ากราบไหว้ศาลเจ้าแม่สองนาง หลวงพ่อพระใหญ่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวจังหวัดบึงกาฬเคารพศรัทธา ซึ่งได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ไร้กลุ่มต่อต้านหรือคนเห็นต่าง
          เขาบอกว่า ได้มาถึงพื้นที่ จ.บึงกาฬ เมื่อเย็นของวันที่ 8 แล้ว ก็ได้พูดคุยกับประชาชนมาบ้าง เช้าวันนี้ได้มาเดินตลาดสด เดินตามห้องแถวสองข้างถนน เยี่ยมเยือนพี่น้องที่ค้าขาย ได้รับการต้อนรับดีมาก แม่ค้าที่ขายดอกไม้ก็มอบพวงมาลัยให้ ออกมาต้อนรับและขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันจำนวนมาก อัธยาศัยไมตรีของพี่น้องชาวบึงกาฬดี ซึ่งผมเชื่อว่าวันข้างหน้าจังหวัดบึงกาฬจะเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย
         หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยัง อ.ศรีวิไล เพื่อเยี่ยมเยือนพี่น้องที่ค้าขายในตลาดสด และแวะทานข้าวเที่ยงที่ อ.พรเจริญ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดสกลนคร เชิญชวนประชาชนร่วมเป็นเจ้าของพรรครวมพลังประชาชาติไทย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"