จี้‘ทษช.’รับผิดชอบ! ‘ทูลกระหม่อมฯ’ขอบคุณคนไทยสำหรับน้ำใจ/จับตากกต.หารือ11ก.พ.


เพิ่มเพื่อน    

  ทูลกระหม่อมฯ ทรงขอบคุณคนไทยทุกๆ คน สำหรับความรักและน้ำใจ ขอบอกอีกครั้งด้วยความจริงใจว่า อยากเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า เป็นที่ชื่นชมและยอมรับของนานาประเทศ ส่วนไทยรักษาชาติออกแถลงการณ์น้อมรับพระราชโองการ พร้อมดำเนินนโยบายเพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย ขณะที่แกนนำพรรคล่องหน "เจ๊เบียบ" ยันลูกชายสบายดี ด้าน "ท่านใหม่" แนะยุติบทบาทก่อนอาจถูกยุบพรรค จับตา 11 ก.พ. กกต.ฟันหรือไม่

    ภายหลังมีพระราชโองการประกาศ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  ความตอนหนึ่งว่า "การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง" เมื่อคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พบว่าวันรุ่งขึ้นมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง 
    ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงโพสต์อินสตาแกรมส่วนพระองค์ @nichax ข้อความว่า ขอบคุณพวกเราคนไทยทุกๆ คน สำหรับความรักและน้ำใจที่มีต่อกันในวันที่ผ่านมานี้  และขอบคุณที่ให้กำลังใจ และให้ความสนับสนุนดิฉันมาโดยตลอด
          อย่างไรก็ตาม ขอบอกอีกครั้งด้วยความจริงใจว่า  อยากเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า เป็นที่ชื่นชมและยอมรับของนานาประเทศ อยากเห็นพวกเราชาวไทยทุกคนมีสิทธิและโอกาส มีความสุขอยู่ดีกินดี มีความสุขทั่วถึงกัน และขอขอบคุณด้วยความรักอย่างจริงใจนะคะทุกคน ขออวยพรให้ทุกคนโชคดีมีความสุข #ILoveYou
    ขณะที่พรรคไทยรักษาชาติออกแถลงการณ์ว่า  ตามที่ได้มีประกาศพระราชโองการในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น 
    พรรคไทยรักษาชาติขอน้อมรับพระราชโองการข้างต้นไว้ด้วยความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ 
    พรรคไทยรักษาชาติซาบซึ้งในพระเมตตาของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล ที่ได้ให้ความเมตตาต่อพรรคฯ พรรคไทยรักษาชาติจะขอทำหน้าที่ตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กฎหมายการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ ด้วยความเคารพในขนบธรรมเนียมราชประเพณี และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายเพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย  ด้วยความเคารพในการตัดสินใจของประชาชน ตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
    ก่อนนั้นคณะทำงานพรรคไทยรักษาชาติแจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงของ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง และกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งแกนนำพรรค ที่จะลงพื้นที่พบปะประชาชนช่วงเย็น เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ กทม. 
    ทั้งนี้ ตลอดวันที่ 9 ก.พ. เกิดกระแสข่าวแพร่สะพัด ไปในหลายทิศทาง โดยเฉพาะแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ บางคน หลบออกไปสังเกตการณ์ภายนอก บางคนเลือกที่จะเก็บตัวในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง กับอีกกระแสข่าวอันเนื่องจากบางคนไม่สามารถติดต่อได้ บางคนไม่ยอมรับโทรศัพท์ จึงทำให้เกิดข่าวลือหนาหูถึงการถูกจำกัดบริเวณ 
ไทยรักษาชาติเงียบกริบ
    นอกจากนี้ บรรยากาศที่ทำการพรรคไทยรักษาชาติย่านแจ้งวัฒนะ เต็มไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีคณะกรรมการบริหารพรรคเดินทางมาประชุมเหมือนทุกวันที่ผ่านมา มีเพียงสมาชิกพรรคและกองเชียร์ประมาณ 4-5 คน ที่เดินทางมาสังเกตการณ์และรอให้กำลังใจเท่านั้น
    นายสุธรรม แสงประทุม สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงสถานการณ์ของพรรคหลังจากนี้ว่า คงเป็นเรื่องกรรมการบริหารพรรค เพราะตนไม่ได้เป็นกรรมการ เป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น จากนี้ไป เชื่อว่าทางพรรคคงจะคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ส่วนกระแสข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับแกนนำพรรค ขออย่าไปฟังข่าวลือมาก วันนี้ควรมาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ ดีกว่าขยายสถานการณ์
    นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดขอนแก่น มารดาของ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่สนามบินขอนแก่นว่า มาทำธุระที่ อ.หนองสองห้อง ซึ่งเป็นบ้านเกิดตั้งแต่เมื่อวาน และกำลังเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ได้รับการติดต่อการส่งข่าวจากลูกชายว่าไม่ต้องเป็นห่วง สบายดี เขาเป็นห่วงความรู้สึกแม่ ขณะเดียวกันพี่น้องในเขตพื้นที่หนองสองห้องเมื่อทราบข่าว ได้ฝากความห่วงใยให้กับ ร.ท.ปรีชาพล ด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข้อถกเถียงว่า พรรคไทยรักษาชาติจะต้องรับผิดชอบกรณีการเสนอพระนาม ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ หรือไม่นั้น เมื่อตรวจสอบพบว่าพรรคไทยรักษาชาติอาจทำผิดระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
    ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ หลังการยื่นพระนามต่อ กกต.แล้ว ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ แถลงข่าวว่า
          "คณะกรรมการบริหารพรรคได้ประชุมกัน และมีมติเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นนายกฯ ของพรรค ซึ่งกรรมการบริหารพรรคเห็นพ้องต้องกันว่าทูลกระหม่อมฯ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นชื่อที่มีความเหมาะสมที่สุด
          จากนั้นจึงได้ติดต่อและประสาน โดยทูลกระหม่อมฯ ได้มีพระเมตตาตอบรับและยินยอมให้พวกเราเสนอชื่อท่าน เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบเป็นนายกฯ ในนามพรรคไทยรักษาชาติ"
          ขณะที่ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ฉะนั้นคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติไม่อาจปฏิเสธความผิดนี้ได้
          ทั้งนี้ การประชุมใหญ่ของพรรคไทยรักษาชาติ ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ที่ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ มีวาระสำคัญในการเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวมถึงเปลี่ยนแปลงภาพเครื่องหมายพรรค และสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรค
         ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือก ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช เป็นหัวหน้าพรรค, นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1, นางสุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2, นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3,นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4
"ไพบูลย์"ลุ้นยุบ ทษช.
          นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค, นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค คนที่ 1, นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค คนที่ 2, นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรค คนที่ 3
       นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค, น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรค
         น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค, นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค, รศ.ดร. รุ่งเรือง พิทยศิริ กรรมการบริหารพรรค, นายจุลพงศ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค
    นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปประเทศ (ปชช.) กล่าวว่า ภายหลังการเข้ายื่นหนังสือถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ขอให้ กกต.พิจารณาและวินิจฉัยการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ ว่าเข้าข่ายขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 คาดว่าในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.นี้ น่าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนจากทาง กกต. 
    ส่วนตัวจะไม่ดำเนินการยื่นคำร้องใดๆ อีก เพราะเรื่องที่ตนยื่นร้องไปมีความชัดเจนแล้วว่า ทษช.กระทำการโดยนำสถาบันฯ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่ง ทษช.ควรต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างหนึ่งอย่างใด ในทางการเมืองเชื่อว่าประชาชนคงตัดสินใจได้ ส่วนพรรคประชาชนปฏิรูปประเทศขอเดินหน้าน้อมนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้แก้ปัญหาให้กับประชาชน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. คณะกรรมการการเลือกตั้งประชุม ณ ห้องประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยถูกจับตาว่า สำนักงาน กกต.จะเสนอคำร้องของนายไพบูลย์เป็นวาระพิจารณาหรือไม่ ซึ่งคำร้องของนายไพบูลย์ ขอให้ กกต.ตรวจสอบการกระทำของ ทษช. โดยอ้างอิงถึงระเบียบว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้ง หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 “ห้ามไม่ให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใด นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง”
    ขณะที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หมวด 8 การสิ้นสุดของพรรคการเมือง มาตรา 92 ระบุความว่า "เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น (1) กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ (2) กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
"ท่านใหม่"แนะยุติบทบาท
     พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงการพิจารณาคุณสมบัติบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ โดยระบุว่า ในวันที่ 11 มี.ค.นี้ คณะกรรมการ กกต.จะประชุม คาดว่าจะมีการหารือในทุกเรื่อง รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายต่างๆด้วย
    ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีปัญหาทางข้อกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ของ กกต. ว่าจะสามารถพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองได้หรือไม่ เนื่องจากกฎหมายได้กำหนดให้ กกต.ประกาศเพียงรายชื่อผู้ที่พรรคการเมืองเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงฯ ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งด้วย
    เช้าวันเดียวกันนี้ หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก Chulcherm Yugala ถามว่า        คณะกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคที่กระทำการมิบังควร จะรับผิดชอบอย่างไร
          "ผมไม่อยากจะซ้ำเติมพรรคไทยรักษาชาติ เพียงแต่อยากบอกแค่คำว่า จบคือจบ แต่อยากจะแนะนำว่า ขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ และหัวหน้าพรรค จะต้องมีความรับผิดชอบต่อการกระทำที่มิบังควร ที่ได้ยื่นเสนอพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค จะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่?"
          หม่อมเจ้าจุลเจิมยังโพสต์ว่า ผมจึงหวังว่า คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ และหัวหน้าพรรค สมควรที่จะต้องพิจารณาตัวเอง ในการกระทำอันมิบังควรในครั้งนี้ โดยหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค สมควรที่จะประกาศยุติในการลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ ต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง ก่อนที่ (“อาจจะ”) โดนยุบพรรค อย่างเป็นทางการ หรืออาจจะไม่โดนยุบพรรคก็ได้........ แต่เมื่อถึงเวลานั้น พวกท่าน หัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค ตลอดจนสมาชิกพรรค จะเป็นพรรคการเมืองที่ไม่สง่างามในสายตาของประชาชน คนทั้งประเทศครับ
    ด้านนายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า เมื่อคืนรอไม่ไหวนอนหลับเสียก่อน ตื่นขึ้นมารีบดูข่าวที่คิดว่าน่าจะเป็น ปรากฏว่าเป็นดังที่คิดไว้จริงๆปลื้มปีติจนบอกไม่ถูกว่ามากมายขนาดไหน จากที่เมื่อวานเวลา 9 นาฬิกาเศษ สมองมึนงงเหมือนถูกทุบศีรษะอย่างแรง หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงอาการจึงกลับสู่ปกติเวลาผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง โลกหมุนกลับความสงบสุขกลับมาสู่ผืนแผ่นดินไทยอีกครั้งและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปตราบเท่าที่ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หมดเวลาของทักษิณ
    สำหรับทักษิณ ชินวัตร และบริวารก็จงตระหนักเถิดว่า หมดเวลาแล้วที่จะมาหลอกลวงประชาชนคนไทยเพื่อมีอำนาจและจะได้แสวงหาประโยชน์ทุจริตคอร์รัปชันโกงกินเพื่อตนเอง และบริวารกันอีกต่อไปส่วนพรรคไทยรักษาชาติจงเตรียมตัวรับชะตากรรมที่หน้ามืดตามัว ที่ไม่รู้ว่าอะไรควร ไม่รู้กระทั่งฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเถิด
    ส่วน ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์เฟซบุ๊ก “เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas” เรื่อง “พระราชโองการฉบับเดียวดับทุกข์ทวยราษฎร์ได้ดังพลัน” ระบุว่า เมื่อวานนี้ปฏิทินจีนระบุว่า 8 ก.พ. เจ้าลงมาจากสวรรค์ เพิ่งเข้าใจว่าหมายถึงอะไร 
    ในยามที่ทวยราษฎร์เกือบทั้งประเทศวิตกว่าบ้านเมืองกำลังเดินไปสู่ความสับสนปั่นป่วน วิตกกังวลว่า เสาหลักของบ้านเมืองกำลังโยกคลอน ก็กลางดึกนั้นเอง ความมืดมิดในหัวใจก็หมดสิ้น เมื่อได้อ่านหรือฟังประกาศพระราชโองการ “สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร” ซึ่งออกมาทันเวลา ประดุจเจ้าลงมาจากสวรรค์ตามที่ปฏิทินบอก ลงมาดับทุกข์เข็ญของอาณาประชาราษฎร์โดยแท้ พระเกียรติยศ ร.10 เบ่งบานทั้งแผ่นดิน คนไทยรักเคารพ-ศรัทธาพระองค์ท่านมากขึ้นอีกทวีทบเท่า 
    หลายคนก้มลงกราบพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งน้ำตา พวกเรามองไปข้างหน้าสู่งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งจะยิ่งสง่างาม จะสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น แม้พระราชพิธีนี้มีเพื่อสำแดงว่าพระมหากษัตริย์เป็นเทวราช แต่เหตุการณ์ที่เริ่มต้นแต่เช้าและจบลงก่อนสิ้นวันที่ 8 ก.พ.นั้น พิสูจน์ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นธรรมราชด้วย พระราชโองการที่จะจารึกไว้ประวัติศาสตร์นี้วินิจฉัยสิ่งที่เกิดขึ้นตามหลักการรัฐธรรมนูญ และหลักโบราณราชประเพณีที่ใช้มานับแต่ปี 2475 เป็นต้น 
    รวมทั้งตราไว้ว่าด้วยว่าเป็นวัฒนธรรมของชาติที่สถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องไม่ถูกนำเข้าไปเป็นฝักฝ่ายในทางการเมือง ขอน้อมรับพระราชปรีชาญาณและพระบรมราชวินิจฉัยนี้ใส่เกล้าใส่กระหม่อมสุดท้าย ผมอ่านความตอนต้นของพระราชโองการที่จะเป็นเอกสารสำคัญของชาติต่อไปนี้ ยังระบุว่า เจ้าแผ่นดิน หรือเจ้าอยู่หัวของเรานั้น จะทรงครองราชย์แบบ “พ่อปกครองลูก” ด้วย เทวราชและธรรมราชฉบับไทยเรานั้น ทรงเป็นพ่อของแผ่นดินด้วย ดับทุกข์ ดูแลให้เกิดสุข แก่ราษฎร และเพิ่มเติมอีก จากเหตุการณ์ 8 ก.พ.2562 คือทรงนำพา ชี้ทางแก่ราษฎรที่เปรียบเสมือนลูกในยามที่พวกเขาสับสนปั่นป่วน
สถาบันคือหัวใจของชาติ
    พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นนั้น เกี่ยวข้องกับนักการเมืองที่นำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงถือเป็นสิ่งที่ไม่งดงาม อย่างไรก็แล้วแต่ ขออย่าแตะไปถึงข้างบน เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์คือหัวใจของชาติ ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงเข้าใจถึงสถานการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างดี และทรงรู้ว่าประชาชนต้องการอะไร เราจึงต้องทำการเมืองให้ถูกต้อง เพื่อให้บ้านเมืองมีความสถาพรสืบไป
     น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ “โบว์” แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ Bow Nuttaa Mahattana @NuttaaBow ระบุว่า มีคำถามว่า #ไทยรักษาชาติ จะถูกยุบพรรคมั้ย ถ้าพูดให้เป็นธรรมก็ไม่ควรฉวยโอกาสใช้เหตุที่เกิดขึ้นมาตัดคู่แข่งทางการเมือง พรรคการเมืองคือตัวแทนอุดมการณ์ของสมาชิก ความเห็นเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ต้องยอมรับว่ามีการมองต่างมุม หลายที่ก็ทำกัน และการให้พื้นที่กับความเห็นต่างคือหัวใจของประชาธิปไตย
    นพ.เหวง โตจิราการ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 56 พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์ข้อความว่า "เอามาเก็บไว้เป็นหลักฐานครับว่า ใครทำอะไรไว้ เพื่อไม่ให้มันสูญหายไปกับสายลม ขอบคุณข่าวสดครับ"
          โพสต์ของ นพ.เหวง สืบเนื่องจากสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่ง เสนอข่าวกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Noch Hautavanija หรือ พัสณช เหาตะวานิช ซึ่งเป็นทีมงานของนายกรณ์ จาติกวณิช แกนนำคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวีตโดยระบุว่า "นี่คือความชั่วอันสูงสุดของคนไทยที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร!" หลังพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นพระนามทูลกระหม่อมฯ เป็นแคนดิเดต นายกฯ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"