ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์

มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ ระหว่าง 6 มีนาคม 2559-7 กรกฎาคม 2565

                ผู้เขียนยังขอพักการอัพเดตดวงชะตาของอีกสองลัคนาราศีที่เหลือ คือกุมภ์กับมีนเอาไว้ก่อน เพราะมีเหตุการณ์วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิด ล็อกถล่มวันเดียวสองรอบ ในทางโหร เกิดจากมฤตยูจร ที่ทับลัคนา-พระอาทิตย์ดวงเดิม (๑) และจิตใจของเมือง(พระอาทิตย์-ตนุเศษ หรือจิตใจของคนเมือง) ให้สะท้านไปทั้งเมือง เป็นครั้งใหญ่อีกหนึ่งคราวจนต้องเขียนจารึกไว้เป็นปูมโหร

                ก่อนอื่นขอให้ความหมายเต็มของมฤตยูที่ลอกมาจากหนังสือโหราศาสตร์ปริทรรศน์ของอาจารย์เทพย์  สาริกบุตร มาให้ดูกันจะจะคือ

                1.หมายถึงเหตุร้าย เหตุการณ์ไม่ทันนึกคิด การผลัดเปลี่ยน การพลัดพรากจากกัน การฆ่าตนเอง การนึกฝัน ความเศร้าโศก กิจการเกี่ยวกับมหาชน การผลัดเปลี่ยนทันทีทันใด การทำให้ขาดรัก ความเสียใจ การต้องเนรเทศ การมีศัตรู โชคอันไม่แน่นอน

                2.หลงดำเนินการผิดทาง หรือวิถีไม่แน่นอน การ ประพฤติแปลกคนอื่น มักทำการโดยถูกยุยง เอาตัวเองเป็นใหญ่ มีความประหลาดมากมาย

                3.มีความสามารถดีและอาจประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ

                4.มฤตยูเป็นดาวแห่งสายฟ้า เมื่อฟาดลงมาย่อมเสียหายพินาศ ทำให้สิ่งที่สร้างสมมาตลอดต้องล้มคว่ำทำลายลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้เกิดโครงการใหม่ที่ดีกว่า

                5.มฤตยูเป็นสัญลักษณ์ของ นักปฏิวัติ ที่ไม่พอใจสิ่งเก่าๆ และต้องการสิ่งใหม่ๆ ที่คนธรรมดาอาจไม่เข้าใจ มองผู้อยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยูว่าวิตถารและถูกรังเกียจ

                กล่าวโดยสรุปผู้เขียนเห็นว่า มฤตยูนี้เป็นตัวแทนของสิ่งที่เรียกว่า ล็อกถล่ม เปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติกะทันหันจนชวนตะลึงตาค้างทั้งดีและร้ายในแบบร้ายก่อนดีหรือดีก่อนร้าย

                สถานการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในเมืองรัตนโกสินทร์ระหว่างมฤตยูจรเข้าราศีเมษทับลัคนา และพระอาทิตย์ดวงเดิมของเมืองมาตั้งแต่ต้นมีนา 2559 เป็นต้นมา ที่ผู้เขียนทำนายไว้คือ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่โตในเมือง ทั้งเรื่องคนสำคัญ-การเมือง (พระอาทิตย์ ๑ เป็นตัวแทน) และจิตใจคนในเมือง (พระอาทิตย์เป็นตัวแทนจิตใจ หรือตนุเศษของเมือง) เช่น ที่เกิดมาแล้วเรื่องใหญ่ คือ

                1.น้ำตานองแผ่นดิน ตามมาด้วยการผลัดแผ่นดินจากรัชกาลที่ 9 เป็นรัชกาลที่ 10

                2.กรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดคือ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 เมื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ยอมรับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ ท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดล็อกถล่มใส่หน้าคนไทยทั้งแผ่นดิน และผู้เขียนเองก็เหมือนถูกมฤตยูก้อนใหญ่ตกใส่หัวมึนงงตาลายไปเหมือนกัน

                แต่วันเดียวกันนั้นเอง ก็มีพระราชโองการออกมาหยุดกระแสในช่วงดึกอย่างเด็ดขาด

                คำถามที่ผู้เขียนต้องกลั่นออกมาให้สังคมคือ หลังปรากฏการณ์ 8 กุมภาพันธ์ 2562 แล้วจะมีเหตุอาเพศใดๆ เกิดขึ้นในการเมืองของกรุงรัตนโกสินทร์อีกบ้าง คำตอบคือ

                1.ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าเรื่องล็อกถล่มคาดไม่ถึงเช่นนี้ยังจะเกิดเป็นระยะๆ ไปจนกรกฎาคม 2565

                2.ถึงการมาทับลัคนาเมืองของมฤตยูรอบนี้ ซึ่งเป็นรอบที่สาม มีลีลามาดีมากกว่าร้าย คล้ายรอบแรกที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ ตลอดระยะ 7 ปีขณะที่มฤตยูเดินอยู่ในราศีเมษนั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มพาประเทศไปสู่ความทันสมัย เตรียมการไว้สำหรับรับมือการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก

                ส่วนรอบที่สองที่มฤตยูทับลัคนาเมืองนั้น ออกแนวร้ายมากกว่าดี ด้วยการปฏิวัติสยาม เปลี่ยนแปลงการปกครอง นวัตกรรมใหม่ๆ ทางการเมืองเกิดพร้อมกับความวุ่นวายขายกระจาดตลอดระยะเวลา 7 ปี เพราะทางโหรมีเกณฑ์ร้ายอื่นผสมโรงด้วย

                แม้มฤตยูมารอบนี้จะดีมากกว่าร้าย แต่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่ถ้าจะให้ถูกโฉลกต้องปฏิวัติขึ้นไปและเหตุการอาเพศชวนตะลึงจะยังทยอยเกิดขึ้นเป็นระยะตามอาการของมฤตยูที่จะท้าทายล้มล้างสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่ แม้บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะท้าทายบรรทัดฐานของสังคมอย่างมาก แต่เป็นเพราะมฤตยูนั้นในพื้นฐานเดิมของดวงเมืองเป็นเจ้าบ้านโชคลาภ-ความสำเร็จ (เกษตรราศีกุมภ์-ภพลาภะ) ฉะนั้นเมื่อผ่านการเปลี่ยนแปลงแล้วน่าจะออกมาดีมากกว่าร้าย หรือดีแล้วร้าย-ร้ายแล้วดี

                3.ส่วนการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้ง-การตั้งรัฐบาลที่กำลังจะมีขึ้น ก็ยังคงยืนยันว่าจะออกมาแบบเหนือการทำโพลใดๆ คือล็อกจะถล่ม โดยตัวแปรสำคัญคือการติดต่อสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ต ที่เปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติจิตใจคนในเมืองมากมาย (ดวงเดิมดวงเมืองมฤตยูสถิตภพที่สาม-สหัชชะ)

                คำแนะนำที่ผู้เขียนพอจะให้ได้บ้างคือ คนในวงการเมืองที่รู้สึกว่าเป็นเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง ต้องรีบปฏิวัติ-เปลี่ยนแปลงตัวเอง หาไม่แล้วท่านจะถูกเปลี่ยน หรือหากฝืนได้ก็อาจจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด

                4.ไม่ว่ามฤตยูจะทำงานอย่างไรก็ตาม ยังจำกันได้หรือไม่ว่าผู้เขียนเคยขอร้องให้คนไทยช่วยจับมือกันช่วยพระสยามเทวาธิราชฟันฝ่าอีกรอบตั้งแต่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป เพราะอาการทางโหรเหมือนพระสยามเทวาธิราชท่านป่วยหรืออ่อนแอคุ้มครองชะตาเมืองได้น้อย (พฤหัสบดีจรเข้าภพมรณะ) นั้น บัดนี้สถานการณ์ทางโหรเริ่มทยอยดีขึ้นแล้วคือ

                4.1 ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นมา ดาวประจำชีพเมืองเข้มแข็ง-ได้คู่มิตรใหญ่ในเมือง แม้จะมีเหตุร้ายใดๆ เมืองก็ต้านทานได้

                4.2 ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป พระราหูจรที่เคยให้ร้ายดวงเมืองจะพลิกกลับเป็นให้คุณงามความดี ขอให้จับตาปรากฏการณ์สำคัญในเมืองตามโฉลก..พระภูบาลให้สถานยศเงินทอง..คือน่าจะเป็นวาระของการแต่งตั้งญาติพี่น้องที่สำคัญๆ ในเมือง

                4.3 ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป หัวหน้าเทวดาประจำเมืองเริ่มจะเข้มแข็งคุ้มดวงชะตาเมืองได้เต็มที่ เพื่อเดินหน้าเข้าสู่ช่วงที่ผู้เขียนขอไว้ให้จับมือกันมาให้ถึง คือวันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2562 ซึ่งจะได้ขยายความให้ทราบต่อไป.