รัฐจับมือเอกชนสานพลัง “ทำความดีถวายพระเจ้าอยู่หัว” สร้างบ้านพักถาวรให้ชาวลัวะประสบภัยดินถล่ม จ.น่าน 60 หลัง


เพิ่มเพื่อน    

รัฐจับมือเอกชนสานพลัง “ทำความดีถวายพระเจ้าอยู่หัว” สร้างบ้านพักถาวรให้ชาวลัวะประสบภัยดินถล่ม จ.น่าน 60 หลัง

(พิธียกเสาเอกสร้างบ้านพักถาวรชาวลัวะบ้านห้วยขาบ  อ.บ่อเกลือ  จ.น่าน)

จากเหตุการณ์ดินถล่มที่หมู่บ้านชาวลัวะจังหวัดน่านเมื่อวันที่ 28   กรกฎาคม 2561  ที่บ้านห้วยขาบ  ต.บ่อเกลือเหนือ   อ.บ่อเกลือ  จ.น่าน  ทำให้บ้านเรือนที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณไหล่เขาถูกดินถล่มพังทลายจำนวน 4 หลัง  และเสียหายบางส่วนจำนวน 2 หลัง  มีผู้เสียชีวิต 8   ราย  จังหวัดน่านได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติ  เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุดินถล่มได้อีก  เพราะที่ตั้งของหมู่บ้านอยู่ติดเชิงเขาที่ลาดชัน  ต่อมาในช่วงปลายเดือนสิงหาคมชาวบ้านห้วยขาบทั้งหมู่บ้าน  จำนวน 60 ครัวเรือน  ประชากร 253 คน  ได้ย้ายจากที่พักพิงผู้ประสบภัยเข้าพักอาศัยที่บ้านพักชั่วคราว  บริเวณสนามกีฬา  อบต.ดงพญา  อ.บ่อเกลือ  เพื่อรอการสร้างบ้านพักถาวร

 ‘ร่วมใจ สร้างที่อยู่อาศัย  ทำความดีถวายพระเจ้าอยู่หัว’

ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา มีพิธียกเสาเอกเพื่อก่อสร้างที่พักอาศัยถาวรให้กับประชาชนที่ประสบภัยบ้านห้วยขาบจำนวน 60 หลังคาเรือน  ตามโครงการ ‘ร่วมใจ สร้างไทย  สร้างที่อยู่อาศัย  ทำความดีถวายพระเจ้าอยู่หัว’  ที่บ้านห้วยขาบใหม่  หมู่ที่ 3  ต.ดงพญา  อ.บ่อเกลือ จ.น่าน  โดยมีพลเอกอนันตพร  กาญจนรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธี  มีนายวรกิตติ  ศรีทิพากร   ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน   และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ให้การต้อนรับ  มีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดประมาณ 400 คน

ทั้งนี้พิธีการในช่วงเช้าที่บริเวณบ้านพักชั่วคราว  มีการมอบผ้าห่ม  เครื่องอุปโภค-บริโภค  อุปกรณ์การศึกษา  ฯลฯ  ให้แก่ประชาชนที่ประสบภัย    และการมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินป่าสงวนฯ โดยผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้แก่ผู้ประสบภัยบ้านห้วยขาบ หลังจากนั้นประธานในพิธีและผู้ร่วมงานได้เดินทางไปทำพิธียกเสาเอกเพื่อก่อสร้างบ้านใหม่ในที่ดินที่กรมป่าไม้จัดสรรให้บริเวณหมู่ที่ 3 ต.ดงพญา  อ.บ่อเกลือ  ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักชั่วคราวประมาณ 1.3 กิโลเมตร  พื้นที่ทั้งหมด  176 ไร่เศษ   จัดสรรเป็นพื้นที่อยู่อาศัยและทำกิน  รวม 43 ไร่ 

โดยชาวบ้านทั้ง 60 ครอบครัว  จะได้รับที่ดินครัวเรือนละ 120  ตารางวา  เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและทำกิน (ไม่ให้กรรมสิทธิ์) เพื่อสร้างบ้านขนาด  5X8 ตารางเมตร  มีทั้งแบบบ้านชั้นเดียวและสองชั้น รูปแบบบ้านประยุกต์มาจากบ้านของชาวลัวะ (คล้ายเรือนกาแลของชาวเหนือ) โครงสร้างเป็นปูนและเหล็ก  สามารถใช้วัสดุจากบ้านเก่ามาเสริมหรือต่อเติม   

ราคาก่อสร้างประมาณหลังละ  267,000-293,000 บาท ใช้งบประมาณจากหน่วยงานรัฐและเงินบริจาคของภาคเอกชน  และแบ่งพื้นที่ส่วนกลาง  เป็นแปลงเกษตร  สนามกีฬา  ศาลาชุมชน  สถานที่ประกอบพิธีกรรม  ฯลฯ   ตามแผนงานจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเวลา  5-6 เดือน  หรือภายในเดือนกรกฎาคมนี้  หลังจากนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่บ้านพักชั่วคราวจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักถาวร

(รมว.พม.เป็นประธานยกเสาเอกสร้างบ้านชาวลัวะ)

พลเอกอนันตพร  กาญจนรัตน์  รมว.พม.กล่าวว่า  หลังจากเหตุการณ์ดินถล่มที่บ้านห้วยขาบ  หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ให้การช่วยเหลือชาวบ้านในเบื้องต้น  รวมทั้งการสร้างบ้านพักชั่วคราว  ซึ่งชาวบ้านก็อยู่กันมานานหลายเดือน  วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่มีพิธียกเสาเอกสร้างบ้านใหม่  เป็นบ้านพักถาวร  โดยบริษัทเอกชนได้ร่วมสนับสนุนงบประมาณในการสร้างบ้านประมาณ 22.5 ล้านบาท  และกระทรวง พม.  โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ สมทบงบประมาณตามโครงการบ้านมั่นคงชนบทจำนวน  1,320,000 บาท

“ส่วนการสร้างบ้านก็จะเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 5 เดือน  คือประมาณเดือนกรกฎาคม  เพื่อให้ทันก่อนฤดูฝนจะมา  ซึ่งหลังจากสร้างบ้านเสร็จแล้วก็จะมีการส่งเสริมเรื่องอาชีพต่างๆ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน  โดยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด(พมจ.)  และกรมป่าไม้ก็จะสนับสนุนการปลูกป่า  การปลูกต้นไม้เศรษฐกิจ 85 ชนิด  ส่วนชาวบ้านก็มีกองทุนต่างๆ  ช่วยเหลือดูแลกัน  เช่น  มีกลุ่มออมทรัพย์   มีกองทุนสวัสดิการชุมชนที่มาจากเงินออมของชาวบ้านวันละ 1 บาท  และมีสภาองค์กรชุมชนตำบลเป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชนด้วย”  พลเอกอนันตพรกล่าว

ธนวัฒน์  จรรมรัตน์   ผู้ใหญ่บ้านห้วยขาบ  กล่าวว่า  ชาวบ้านต่างตั้งความหวังว่าจะได้อยู่บ้านถาวรเร็วๆ นี้  เพราะบ้านพักชั่วคราวมีความคับแคบ  กว้างยาวประมาณ  4X4 ตารางเมตร  บางครอบครัวอยู่กัน 5-6 คน  ต้องอยู่กันอย่างแออัด  กลางวันก็ร้อนมาก  กลางคืนก็หนาว  เพราะสร้างด้วยสังกะสี  ไม่มีห้องน้ำในตัว  ต้องใช้ห้องน้ำรวม  และตั้งอยู่ไกลจากบ้านพัก 

ส่วนบ้านเดิมนั้น  บางครอบครัวก็ปลูกสร้างมานานหลายสิบปี  บางหลังก็เพิ่งสร้างใหม่  บ้านของตนก็เพิ่งสร้างใหม่อีกหลังหนึ่ง  หมดเงินไปหลายแสนบาท   แม้จะเสียดายเพราะบ้านไม่ได้เสียหายจากดินถล่ม  แต่ก็ต้องยอมอพยพออกมา  เพราะชาวบ้านต่างก็กลัว  ไม่รู้ว่าดินจะถล่มอีกหรือไม่  โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกหนัก  และทางราชการก็บอกว่าบ้านห้วยขาบอยู่ในแนวรอยเลื่อนปัวซึ่งอาจจะเกิดดินถล่มได้อีก

“ชาวบ้านห้วยขาบรู้สึกดีใจและขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มาช่วยเหลือชาวบ้าน  เพราะตอนนี้ชาวบ้านต่างก็อยากจะอยู่บ้านใหม่ที่มั่นคงถาวรและปลอดภัย  ไม่ต้องกลัวว่าดินจะถล่มลงมาอีก  ส่วนเรื่องอาชีพนั้น  ชาวบ้านก็คงจะต้องทำกินในพื้นที่เดิม  โดยปลูกกาแฟเป็นอาชีพหลัก  เพราะพื้นที่ใหม่มีเนื้อที่ไม่เยอะ  ครอบครัวหนึ่งได้ที่ดินเพียง 120 ตารางวา  คงจะได้เพียงปลูกบ้านและปลูกผักสวนครัวเท่านั้น”  ผู้ใหญ่บ้านห้วยขาบบอก

 

ห้วยขาบโมเดล-ต้นแบบการใช้ที่ดินรัฐสร้างบ้านและที่ดินทำกิน

 

การก่อสร้างบ้านพักถาวรให้ผู้ประสบภัยบ้านห้วยขาบ  รวมทั้งหมด 60 ครัวเรือน  ถือเป็นการสานพลังประชารัฐ  เพื่อทำความดีถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ  บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10  โดยมีหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่นร่วมสนับสนุนการก่อสร้างที่อยู่อาศัย  เช่น  จังหวัดน่าน  พมจ.น่าน  สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย   สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง  ศูนย์ป่าไม้ประจำ จ.น่าน  สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่  13 (แพร่) อบต.ดงพญา  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.น่าน  การประปาส่วนภูมิภาค จ.น่าน  ฯลฯ

ส่วนหน่วยงานรัฐจากส่วนกลาง  เช่น  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม   โดยกรมป่าไม้ได้อนุญาตให้จังหวัดน่านใช้ที่ดินบริเวณป่าสงวนแห่งชาติดอยภูคา-ป่าผาแดง  หมู่ที่ 3  ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน  ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านห้วยขาบที่เกิดภัยดินถล่มประมาณ 3 กิโลเมตร   เนื้อที่ทั้งหมด 176 ไร่เศษ  จัดสรรเป็นที่อยู่อาศัยและเป็นที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน  43 ไร่ 

กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด   เช่น  พมจ.จังหวัดน่านจัดทำแผนงานการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนทุกวัย  เช่น  เด็ก  เยาวชน  สตรี  ผู้สูงอายุ  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือ พอช.สนับสนุนงบประมาณปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน   การก่อสร้างที่อยู่อาศัย  และการประกอบอาชีพ  รวม 1.3  ล้านบาท 

ภาคเอกชนสนับสนุนงบประมาณการสร้างบ้านพักถาวร  จำนวน  22.5 ล้านบาท  รวมงบประมาณเบื้องต้นทั้งหมดประมาณ 27 ล้านบาทเศษ (งานสาธารณูปโภค  ถนน  ประปา  ไฟฟ้า  โดยหน่วยงานในท้องถิ่น  4 ล้านบาทเศษ และ พอช. 1.3 ล้านบาท)

(มอบงบประมาณสนับสนุนสร้างบ้านพักถาวร)

                สมชาติ  ภาระสุวรรณ  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’   กล่าวว่า  หลังจากเหตุการณ์ดินถล่มที่บ้านห้วยขาบในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2561  มีหลายหน่วยงานเข้าไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเฉพาะหน้า  ส่วน พอช.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับชาวบ้านเพื่อเตรียมการสร้างบ้านพักชั่วคราว  และเนื่องจากที่ตำบลบ่อเกลือเหนือมีการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบล   ดังนั้น พอช.จึงใช้สภาองค์กรชุมชนตำบลบ่อเกลือเหนือเป็นเวทีในการชวนชาวบ้านมาพูดคุย  สร้างความเข้าใจ  และให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของตนเอง  โดย พอช.สนับสนุนงบประมาณสร้างบ้านพักชั่วคราวประมาณ 1 ล้านบาทเศษ

                “ส่วนการสร้างบ้านพักถาวรครั้งนี้  พอช.และชาวบ้านก็ใช้สภาองค์กรชุมชนตำบลเป็นเวทีในการระดมความคิดเห็นของชาวบ้าน  เพื่อสอบถามความต้องการของชาวบ้านในเรื่องการสร้างบ้านใหม่  รวมทั้งให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการสำรวจที่ดินแปลงใหม่  ร่วมออกแบบผังชุมชน  และออกแบบบ้าน  เพื่อให้ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน”  ผอ.พอช. กล่าว

                ผอ.พอช.กล่าวด้วยว่า  การสร้างพักถาวรบ้านห้วยขาบครั้งนี้  ถือเป็นต้นแบบการร่วมมือกันของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน  โดยเฉพาะการใช้ที่ดินของรัฐมาแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินตามแนวทางของคณะกรรมการ

นโยบายที่ดินแห่งชาติ (หรือ คทช. มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน) ซึ่งกรณีบ้านห้วยขาบนี้  จังหวัดน่าน  และ คทช.จังหวัดน่านได้ประสานความร่วมมือกันเพื่อขอใช้ที่ดินป่าสงวนฯ จากกรมป่าไม้    และต้องใช้เวลาหลายเดือนตามขั้นตอนของทาง ราชการ  จนในที่สุดอธิบดีกรมป่าไม้  โดยการอนุมัติของรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้อนุญาตให้จังหวัดน่านเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ  ป่าดอยภูคาและป่าผาแดง  เนื้อที่ 176 ไร่เศษ  ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา  ระยะเวลาอนุญาตช่วงแรก 30 ปี  จนถึงต้นปี 2592

                “ส่วนการสร้างบ้านใหม่นั้น  จะต้องสร้างให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝน  เพราะทางขึ้น-ลงหมู่บ้านเป็นภูเขาลาดชัน  ทำให้การเดินทางลำบาก  และหลังจากสร้างบ้านแล้ว  ก็จะต้องมีการพัฒนาชุมชนในด้านต่างๆ เพื่อให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง  พึ่งพาตนเองได้ตลอดไป” ผอ.พอช.กล่าวทิ้งท้าย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"