“ประยุทธ์” ชี้มีข่าวดีสำหรับประชาชนแน่ 8 ก.พ. 09.00-10.00 น. รู้ชัดตอบรับบัญชีนายกฯ พปชร.หรือไม่ ทิ้งรหัสให้ถอดคำพูด “ใครไม่มีความผิดอะไรร่วมได้หมด เพราะเป็นมิตรกับทุกพรรค ไม่ให้ร้ายใคร” “สมคิด-อุตตม” ย้ำชัดเจนประกาศเสนอชื่อ “บิ๊กตู่” คนเดียว สะพัด! “บิ๊กป้อม” แทรกโผปาร์ตี้ลิสต์พลังประชารัฐ ดัน “ณัฏฐพล” ขึ้นเบอร์ 1 ถีบ “สุริยะ-สมศักดิ์” ร่วงลำดับ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.พ. หลายฝ่ายยังคงจับตาไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าจะเซ็นยินยอมเป็นนายกฯ ในบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ หลังจากที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมแกนนำพรรค ได้เดินทางไปส่งเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.พ. และในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ. จะเป็นวันสุดท้ายที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะปิดรับการเสนอชื่อบัญชีนายกฯ
ทั้งนี้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์มีท่าทีผ่อนคลาย และในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี พล.อ.ประยุทธ์ยังปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบฯ ตามปกติ กระทั่งเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมทีมงานได้เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน ส.รุ่งโรจน์ภายในตลาดนางเลิ้ง โดยคณะนายกฯ ได้ถอดสูทออก และสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวเท่านั้น ก่อนเดินทักทายพ่อค้า-แม่ค้าในตลาด สอบถึงการค้าขายว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ระหว่างที่นายกฯ อยู่ที่ร้ายขายข้างแกง ได้มีพ่อค้าตะโกนบอกว่า “ของมันแพง ขายไม่ได้” ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์หันชี้มาที่ตัวเองก่อนตอบว่า “มันเกี่ยวกับผมไหม มันก็ไม่ใช่ วันนี้เราต้องปรับไปขายของทางออนไลน์กับข้าวส่งไปถึงบ้าน วันนี้ 70% อยู่ที่การขายออนไลน์” ด้านพ่อค้ากล่าวว่า “แต่มันจะไม่ไหวอยู่แล้ว จะแย่อยู่แล้ว” ขณะที่นายกฯ ตอบกลับว่า “คนเขาไปเลือกซื้อที่ออนไลน์กันหมดแล้ว แต่ผมก็จะช่วย เราก็ต้องช่วยกัน เดี๋ยวคนก็เอาไปใส่อีกว่าทหารไม่ทิ้งใคร”
นอกจากนี้ พ่อค้ายังบอกว่า “ศักยภาพของตลาดไม่มีที่จอดรถ มีตึกล้อมรอบ การคมนาคมก็ลำบาก ถ้ามีการคมนาคมดีกว่านี้ มีที่จอดรถที่ประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยได้ ตลาดก็จะกลับมารุ่งเรืองได้ แต่มาจับจ่ายซื้อของก็โดนล็อกล้ออีก นายกฯ จะใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร” โดย พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่า “จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อกฎหมายต้องเป็นไปตามกฎหมาย การสร้างที่จอดรถหรือสร้างอะไรก็ตาม บนถนนสร้างไม่ได้ ผังเมืองปรับกันหมดแล้ว ส่วนตึกที่ล้อมรอบก็คงต้องไปบอกรอบๆ ว่าผมสามารถทุบตึกรอบๆ นี้ได้หรือไม่” ซึ่งทีมงานนายกฯ ระบุภายหลังว่าจะให้ กทม.มาดูแลในเรื่องดังกล่าว
ต่อมานายกฯ ยังได้สอบถามแม่ค้าร้านถัดไปว่าขายดีหรือไม่ พร้อมระบุว่า หลายคนบอกกับว่าขายดี ร้านโน้นบอกว่าขายดี ร้านนี้บอกว่าขายไม่ดี ก็ต้องไปดูว่าอยู่ที่สินค้าหรือไม่ วันนี้ไปถาม 10 ร้าน มีขายดีอยู่ 8 ร้าน เราก็ต้องลดราคาลงบ้าง เพื่อให้คนเข้าเยอะขึ้น ถ้าขายแพงก็ไม่ได้ และวันนี้เดินทางมาซื้อกับข้าว และมารับประทานอาหารกลางวันที่ตลาดนางเลิ้ง เพื่อแสดงให้เห็นว่านายกฯ สามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้ และสถานการณ์เป็นปกติ ซึ่งที่มาวันนี้ก็เพื่อมารับฟังทุกคน
จากนั้นเวลา 12.00 น. คณะนายกฯ ได้เข้าไปนั่งรับประทานอาหารกลางวันในร้าน ส.รุ่งโรจน์ โดยนายกฯ ได้สั่งบะหมี่น้ำน่องเป็ดตุ๋นใส่ปู 2 ชาม ซึ่งเป็นเมนูโปรดตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ขาห่านและลิ้นอบหม้อดิน กระเพาะเป็ดผัดพริกไทยดำ และเนื้อเป็ดพะโล้ นอกจากนี้ยังสั่งเพิ่มเติมคือ กุยช่ายขาวผัดหมูสับ ฮ่อยจ๊อปู และเนื้อเป็ดผัดฉ่าจานร้อน
บิ๊กตู่ยันเช้า8ก.พ.มีข่าวดี
และในเวลา 12.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจตอบรับคำเชิญเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรค พปชร.แล้วหรือไม่ ว่าจะตัดสินใจในวันที่ 8 ก.พ. ช่วงเช้าประมาณ 09.00-10.00 น. และจะเป็นข่าวดีสำหรับประชาชน แต่เมื่อถามว่าจะเดินทางไปสำนักงาน กกต.ด้วยตัวเองเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์สวนว่า “เฮ้ย! ทำไมต้องไปด้วยเล่า” และเมื่อถามว่าจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เขาคงแจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบถึงวิธีการที่เหมาะสม
ถามอีกว่า นอกจากนโยบายพรรค พปชร.มีปัจจัยอื่นประกอบการตัดสินใจด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูความร่วมมืออะไรต่างๆ ว่าทุกคนต้องร่วมกันทำใหม่ ทำในสิ่งที่ดีให้มันดียิ่งขึ้น หลายอย่างก็ต้องดูในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ใครไม่มีความผิดอะไร มันก็ร่วมได้หมด เพราะเราก็เป็นมิตรกับทุกพรรค ไม่ให้ร้ายใคร
เมื่อถามว่า หากถึงจุดหนึ่งพรรค พปชร.เสนอชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ขึ้นเป็นนายกฯ จะขัดข้องหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ถ้าเขาจะเสนอ 10 คน ก็ไม่ว่าอะไร แต่ไม่อยากให้มันมีการต่อรองกันไปกันมา น่าเบื่อ” ถามอีกว่ากังวลหรือไม่ หากต้องร่วมงานกับ พปชร.ที่มีอดีตนักการเมืองร่วมด้วยจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเมืองมันก็เป็นการเมือง แต่มันอยู่ที่วิธีบริหารจัดการมากกว่า ถ้านายกฯ เป็นคนที่มีคุณธรรม มันก็มีอำนาจหน้าที่ในการทำงาน ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่กังวล
ถามต่อว่า ในอนาคตหากเป็นนายกฯ กังวลหรือไม่ว่าจะถูกซักฟอกในสภาผู้แทนราษฎร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนทันทีว่า “จะซักฟอกเรื่องอะไร ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วจะซักฟอกเรื่องอะไร แต่หากมีการซักฟอก เขาอาจไม่เข้าใจ เขาเลยต้องซักฟอก ถ้าชี้แจงได้ก็จบ”
ในช่วงท้ายก่อนที่นายกฯ จะเดินออกจากตลาดนางเลิ้งขึ้นรถยนต์กลับทำเนียบฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า “มากินก๋วยเตี๋ยวก็เป็นการเมืองอีก”
ในช่วงเย็น พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้ชี้แจงถึงข่าวสะพัดในสื่อโซเชียลที่ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ตอบรับคำเชิญเป็นนายกฯ ของพรรค พปชร. ว่าไม่เป็นความจริงแต่ประการใด โดยทาง พล.อ.ประยุทธ์ได้ยืนยันว่าจะให้คำตอบกับทางพรรค พปชร. ในวันที่ 8 ก.พ. ช่วงเช้า
ด้านนายสมคิดกล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.จะเสนอชื่อเป็น 3 แคนดิเดตตำแหน่งนายกฯ ว่า ได้ยืนยันชัดเจนว่าต้องการสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ต่อไป ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเลือกผู้นำ จึงได้เสนอให้นายอุตตมเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ เพียงชื่อเดียว คือชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์
“ที่ผ่านมาผมเคยประกาศไว้ว่า จุดยืนของผมคือการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้ผมก็ยังยืนยันตามความคิดนี้อยู่ ผมและคนอื่นก็พร้อมที่คอยช่วยเหลือ พล.อ.ประยุทธ์อย่างเต็มที่ ผมขอประกาศอย่างชัดเจน ผมสนับสนุนให้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เพียงชื่อเดียว ฉะนั้นนี่คือคำตอบของผมที่ชัดเจนแล้ว ไม่ต้องมาถามอีก จบ ไม่ต้องแปลแล้ว” นายสมคิดกล่าว
เสนอชื่อ'ประยุทธ์'คนเดียว
ในช่วงเย็น นายอุตตมได้ออกแถลงการณ์พรรค พปชร.ระบุว่า ในสถานการณ์ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการแสดงเจตนารมณ์ที่อยากเห็นการบริหารชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายในทุกๆด้านให้มีความต่อเนื่อง ราบรื่นสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ ดังนั้นขอใช้โอกาสนี้ประกาศสนับสนุนให้เสนอท่าน พล.อ.ประยุทธ์เป็นตัวแทนของพรรคเพียงรายชื่อเดียวในการดำรงตำแหน่งนายกฯ คนต่อไป
ก่อนหน้านี้ เวลา 10.30 น. นายอุตตมพร้อมคณะได้เดินทางมายื่นสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ของพรรคจำนวน 120 รายชื่อต่อ กกต. โดยระบุว่า วันนี้พรรคยังไม่มีการยื่นบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค เนื่องจากรอการตัดสินใจของผู้ถูกทาบทาม และขณะนี้พรรคไม่มีความกดดันต่อข่าวลือต่างๆ ในช่วงนี้ โดยเฉพาะกรณีบุคคลภายนอกมากดดันการพิจารณาบัญชีรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ และบัญชีชื่อนายกฯ เพราะการสรรหาที่มีขึ้นมีระบบรัดกุม มีขั้นตอนผ่านการหารือพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งความเหมาะสม ประสบการณ์ทางการเมือง การนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้จริง
“ข่าวลือเรื่องเปลี่ยนลำดับรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์นั้นไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะลำดับต้นๆ ทุกคนมีความสามารถทั้งนั้น ซึ่งบัญชีรายชื่อที่เราจัดต้องบอกว่าคุณภาพคับแก้ว ดังนั้นยืนยันว่าไม่มีแรงกดดันใดๆ พวกเราลงเรือลำเดียวกัน ก็ต้องพายทางเดียวกัน เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด” นายอุตตมกล่าว
เมื่อถามอีกว่า มีแผนสำรองกรณี พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ให้ถึงจุดนั้นก่อนว่าใครตอบรับบ้าง หากไม่มีใครตอบรับ พรรคก็มีกระบวนการทุกอย่างรองรับไว้อยู่แล้ว แต่ยังมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณาตอบรับ
เมื่อถามถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ซึ่งอาจเป็นบุคคลประวัติศาสตร์ในหน้าการเมืองไทย พรรคหวั่นเกรงด้วยหรือไม่ นายอุตตมปฏิเสธแสดงความเห็นเรื่องนี้ รวมทั้งไม่มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ในเรื่องนี้ด้วย
ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคอีสาน พปชร. กล่าวถึงกระแสความขัดแย้งในการจัดลำดับบัญชีรายชื่อของพรรค ว่าปกติธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคการเมืองในการเรียงลำดับ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อส่วนใหญ่จะเรียงจากตำแหน่งในพรรค อย่างหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค แต่ในส่วนของ พปชร.ติดขัดในข้อกฎหมาย หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีภายใน 90 วัน จึงต้องมาพิจารณาในลำดับถัดไป ซึ่งขอให้มั่นใจได้ว่าลำดับที่ 1 ถึง 40 ได้เป็น ส.ส.กันทุกคน เรื่องความแตกแยกภายในพรรคไม่มีแน่นอน
สำหรับ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ พปชร.ใน 10 อันดับแรกนั้น ประกอบด้วย 1.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค 2.นายสุริยะ 3.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 4.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 5.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒนุ์ 6.นายสันติ กีระนันทน์ 7.นายวิรัช รัตนเศรษฐ 8.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 9.นายสุพล ฟองงาม และ 10.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
เปิดก๊วน 40 ชื่อ พปชร.
ทั้งนี้ ในรายชื่อ 40 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ที่นายสุริยะมั่นใจว่าจะได้รับเลือกเป็น ส.ส.นั้น พบว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มต่างๆ ภายในพรรค พปชร. โดยแบ่งออก 4 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย ทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด, กลุ่มสามมิตร, อดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และตัวแทนกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่เข้ามาร่วมงาน โดยในส่วนอดีตแกนนำ กปปส. นายณัฏฐพลได้เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 และนายพุทธิพงษ์ได้ลำดับที่ 3 ซึ่งได้รับการผลักดันจากผู้มีบารมีนอกพรรค เนื่องจากตอบแทนช่วงที่ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ นอกจากนี้ยังมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ที่มาพร้อมกับอดีตแกนนำ กปปส.ที่อยู่ในระดับที่ 10 ด้วย
ส่วนทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด พบว่ามีการส่งนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้ช่วย รมว.การคลัง ที่เป็นผู้ร่วมคิดโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของรัฐบาลมาอยู่ลำดับที่ 5, นายสันติ กีระนันทน์ อดีตผู้ช่วย รมว.อุตสาหกรรม (นายอุตตม) และอดีตรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ทำเรื่อง SME ให้รัฐบาล อยู่ในลำดับที่ 6 นอกจากนี้ ยังมีบุคคลจากสายนายสมคิด และผู้ทำงานให้พรรค พปชร.ในช่วงต้น อาทิ นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ญาตินายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ อดีต รมช.พาณิชย์ ลำดับที่ 12, นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค ลำดับที่ 17, นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ เหรัญญิกพรรค ลำดับที่ 20, นายชวน ชูจันทร์ ผู้ก่อตั้งพรรค ลำดับที่ 23, น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ ลำดับที่ 19, นายยุทธนา โพธสุธน ลำดับที่ 21, นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล ลำดับที่ 25 และนายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ ลำดับที่ 34
ขณะที่กลุ่มสามมิตรพบว่า นายสุริยะอยู่ลำดับที่ 2, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อยู่ลำดับที่ 4, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ลำดับที่ 16, นายภิรมย์ พลวิเศษ ลำดับที่ 24, นายธนกร วังบุญคงชนะ ลำดับที่ 27 รวมไปถึงนายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ฝากบุตรชายมาอยู่กับนายสุริยะและนายสมศักดิ์ ลำดับที่ 28 ด้านตัวแทนกลุ่มการเมืองต่างๆ อาทิ กลุ่มโคราช นายวิรัช รัตนเศรษฐ ลำดับที่ 7, นางวลัยพร รัตนเศรษฐ น้องสาวนายวิรัช ลำดับที่ 29, นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ บุตรชายนายวิรัช ลำดับที่ 35, กลุ่มเพชรบูรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ลำดับที่ 8, กลุ่มอีสานตอนบน นายสุพล ฟองงาม ลำดับที่ 9, กลุ่มขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ลำดับที่ 11, กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ประธานสภา อบจ.พะเยา อยู่ลำดับที่ 13 และนายภาคิน สมมิตรธนกุล ผอ.ฝ่ายยุทธศาสตร์ ภาคเหนือตอนบน ลำดับที่ 26, กลุ่มกำแพงเพชร นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ หรือกำนันตู้ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชาชน (พปช.) อยู่ลำดับที่ 14, กลุ่มชลบุรี นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี อยู่ลำดับที่ 15, กลุ่มบ้านริมน้ำ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ลำดับที่ 18, กลุ่มปากน้ำ นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ลำดับที่ 22 และนายวรพร อัศวเหม ลำดับที่ 39 เป็นต้น
ขณะเดียวกัน นายณัฏฐพลกล่าวถึงกระแสข่าวความไม่พอใจการจัดรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ว่าบัญชีมาจากองค์ประกอบหลายส่วน ซึ่งคณะกรรมการสรรหาได้พยายามคัดสรรอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก และเป็นธรรมดาของการจัดทำปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งพรรคอื่นก็มีปัญหาเหมือนกัน คงไม่มีพรรคไหนแฮปปี้กันหมด แต่คิดว่าจริงๆ ถือว่าโอเคแล้ว และเราไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เราแค่ขยับรายชื่อ รวมถึงมีบางคนที่ถูกตัดรายชื่อออกไปเลย เพราะเรามีแค่ 120 ลำดับ
“การคัดเลือกครั้งนี้ส่วนใหญ่ดูจากประสบการณ์ทางด้านวิชาการ ธุรกิจ และหลายภาคส่วน ไม่คิดว่าจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค ส่วนที่บอกกันว่าได้เป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 เพราะตอบแทนที่ร่วมต่อสู้กับ กปปส.นั้น ไม่เกี่ยวกันเลย การที่ได้รับเกียรติมาอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ถือว่าหัวหน้าและเลขาธิการพรรคไว้วางใจ”
มีรายงานแจ้งถึงบัญชีรายชื่อที่นายณัฏฐพลได้เป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ว่ามาจากการวิ่งเต้นไปที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ก.พ. เพื่อตอบแทนบุญคุณ กปปส. และบทบาทนายทุนของนายณัฏฐพลที่จะรับผิดชอบพรรคต่อไป จึงขยับนายณัฏฐพลขึ้นมาแทนนายสุริยะที่จะเป็นเบอร์ 1 รวมทั้งให้นายพุทธิพงษ์มาแทรกคิวอันดับ 3 แทนนายสมศักดิ์ จากเดิมอันดับ 2 ตกไปเป็นอันดับ 4
"เชื่อว่าจะทำให้นายสุริยะและนายสมศักดิ์เคือง เพราะเป็นผู้อาวุโสทางการเมือง และเปิดตัวทางการเมืองในนามกลุ่มสามมิตรก่อนเป็น พปชร.อีก และก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่าจะเป็นปาร์ตี้ลสิต์อันดับ 1 และ 2 มาตลอด จึงเท่ากับทำให้เสียหน้าทางการเมือง ขณะที่ 2 บุคคล กปปส.ก็ยังมีคดีความในข้อกบฏอีกด้วย รวมทั้งยังอ่อนพรรษาทางการเมือง แต่ พล.อ.ประวิตรกลับให้การสนับสนุน" รายงานระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |