วันนี้ (๘ กุมภาพันธ์) รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองทั้งหมดจะอยู่ในมือ กกต.ทั้งหมด 
    จากนั้นการหาเสียงจะเข้มข้นขึ้น เพราะเหลือเวลาแค่เดือนเศษจะถึงวันเลือกตั้งแล้ว 
    "บิ๊กตู่" เผื่อใจ
    พรรคพลังประชารัฐมีแผนสำรอง
    "จาตุรนต์ ฉายแสง" ไม่มีชื่อในแคนดิเดตของพรรคไทยรักษาชาติ 
    นั่นคือสีสันการเมือง 
    แต่วันนี้ทุกอย่างชัดเจน ตามรายชื่อที่ปรากฏเป็นข่าว 
    มีประเด็นที่อยากทำความเข้าใจคือกรณี...
    "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แต่ไม่อยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์  
    นั่นทำให้ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" คือหนึ่งในบุคคลที่ถูกพรรคอนาคตใหม่ต่อต้าน 
    เหตุผลเป็นไปตามที่ "ปิยบุตร แสงกนกกุล" ให้เอาไว้ 
    ...พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่า จำเป็นต้องยืนยันหลักการเรื่องนายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส.ด้วย 
    เราต้องไม่ลืมว่าหลักการนี้ 
    เป็นการต่อสู้กันอย่างยาวนานของประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย เพื่อจะยืนยันหลักการว่านายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส.  
    เมื่อพิจารณาเช่นนี้แล้ว กรณีของคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ไม่ได้ลงเป็นผู้สมัคร ส.ส. หรือกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้ง ๒ ท่านนี้จึงไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามความเห็นของผม 
    เพราะว่าเราต้องรักษาหลักการ นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส.ให้ได้ เราไม่เพียงแต่ยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช.เท่านั้น แต่ต้องไปให้ไกลกว่าเดิมคือ ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก....
    ครับ...เหมือนจะอ้างตำรา แต่อ้างไม่หมด แล้วใช้โมหะตัดสิน
    ที่จริงปิยบุตรเป็นนักกฎหมาย น่าจะตีความกฎหมายออก แต่กลับใช้ภูมิรับใช้ความอยากมากกว่าข้อกฎหมาย 
    รัฐธรรมนูญกำหนดให้พรรคการเมืองสามารถเสนอชื่อบุคคลนอกบัญชีเป็นนายกฯ ได้ 
    ระเบียบ กกต.ให้พรรคการเมืองใช้รูปแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทุกพรรคการเมืองติดในป้ายหาเสียงได้ 
    หมายความว่าอย่างไร?
    นี่คือการเลือกนายกรัฐมนตรีทางตรงกลายๆ 
    ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกเต็ม ๑๐๐%  
    ฉะนั้นจะนำไปเปรียบเทียบการเมืองก่อนปี ๒๕๓๕ ไม่ได้ 
    มันคนละเจตนารมณ์กัน.