จับหนุ่มสกุลดัง ตุ๋นเหยื่อ100ล.


เพิ่มเพื่อน    


    จับหนุ่มนามสกุลดัง "โรจนเสถียร" ร่วมกับพวกลวงลงทุนเก็งกำไรแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีผู้หลงเชื่อเสียหายกว่า 100 ล้าน
    วันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้  ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) แถลงข่าวการจับกุมนายพิตตินันท์ มีธง กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท มาร์เก็ตเทียร์ เซอร์วิส จำกัด, นายธนัตถ์ บวรภัทรนันท์, นายพิเชษฐ์ หรือพัชรนันท์ โรจนเสถียร ร่วมกันฉ้อโกงหลอกลวงลงทุนเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FOREX) มีผู้หลงเชื่อเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
    พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้รับร้องเรียนจากประชาชนกว่า 100 คน ซึ่งตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกลวงนำเงินมาลงทุนเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินตราต่างประเทศรับประกันผลตอบแทนสูง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท เข้าข่ายกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
    ​จากการสืบสวนทราบว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้คือ บริษัท มาร์เก็ตเทียร์ เซอร์วิส จำกัด โดยนายพิตตินันท์ มีธง กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท, นายธนัตถ์ บวรภัทรนันท์ม นายพิเชษฐ์ หรือพัชรนันท์ โรจนเสถียร กับพวก โดยนายธนัตถ์ และนายพิเชษฐ์ กับพวก มีหน้าที่ร่วมกันชักชวนหาผู้ลงทุนเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) โดยการโพสต์เฟซบุ๊ก ชื่อ “EA ARBITRAGE” อ้างว่าได้ผลตอบแทนสูง ร้อยละ 25-40 ต่อเดือน หรือร้อยละ 5-15 ต่อสัปดาห์ ถ้าได้กำไรสามารถถอนกำไรได้ทุกสัปดาห์ หากขาดทุนจะเยียวยาให้เท่ากับเงินลงทุนที่ผู้ลงทุนได้ลงทุนไป จะต้องลงขั้นต่ำจำนวน 500-10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดอัตรา 1 เหรียญฯ ต่อ 33.80 บาท) ถ้าได้ผลตอบแทน 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้ลงทุนจะได้รับ 70 เปอร์เซ็นต์ หักค่าเทรดจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ และค่าดูแลระบบคอมพิวเตอร์เดือนละ 700 บาท มีผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหา 
    พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ในช่วงแรกผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนจริงตามที่กำหนด แต่หลังจากนั้นก็เริ่มไม่ได้ผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ ผู้เสียหายบางรายถูกเทรดจนพอร์ตการลงทุนติดลบ บางรายไม่สามารถถอนผลกำไรจากพอร์ตการลงทุนได้ โดยกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าระบบคอมพิวเตอร์มีปัญหา และหากผู้ลงทุนต้องการถอนผลกำไร จะต้องหาผู้ร่วมลงทุนมาเพิ่มจึงจะถอนผลกำไรได้ หรือได้รับการเยียวยาคืนเงินต้นที่ลงทุนไป และบางรายถูกกลุ่มผู้ต้องหาปิดพอร์ตการลงทุนไป
    ผบช.สตม.เผยต่อว่า พนักงานสอบสวน บก.ปอศ.ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”​ จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้น 6 จุดที่เกี่ยวข้อง ตรวจยึดทรัพย์สินมีค่าซึ่งเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด มูลค่าประมาณกว่า 22 ล้านบาท นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"