ใครออกกำลังกายด้วย “แอโรบิก” เป็นประจำยกมือขึ้น?? จากรายงานล่าสุดออกมาบอกว่า การเอกเซอร์ไซส์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มสมองส่วนสีเทาให้กับผู้สูงวัย แม้แต่คนที่อายุ 20 ปี และได้ออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าวก็จะได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน จากผลวิจัยอันน่าทึ่งพบว่า การหมั่นออกกำลังกายจะให้ผลเชิงบวกกับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป
สำหรับ “สมองส่วนสีเทา” (Gray matter) นั้น จะเป็นแหล่งรวมของเซลล์ประสาทต่างๆ (สมองส่วนสีเทาเป็นสมองที่อยู่บริเวณรอบนอกของสมองใหญ่ สมองน้อย และก้านสมอง) ซึ่งสมองส่วนสีเทาจะทำหน้าที่ในการควบคุมกล้ามเนื้อและความรู้สึก ตลอดจนความคิด ความจำ และป้องกันโรคอัมพฤกษ์อัมพาตได้อีกด้วย
ผลการวิจัยยังระบุอีกว่า การออกไปเดินเล่น หรือขี่จักรยานเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดอายุสมองของคุณได้ 10 ปี หรือแม้แต่การศึกษาวิจัยในกลุ่มของนักเรียน โดยให้พวกเขาปีนบันไดยังช่วยพัฒนาทักษะความคิด หรือการใช้สมองเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ข้อดีของการเอกเซอร์ไซส์ตามช่วงอายุนั้น เช่น คนอายุ 40 ปี หากออกกำลังกายบ่อยๆ ก็จะทำให้ใบหน้าดูเด็กกว่าวัยถึง 10 ปี ในขณะที่คนอายุ 60 ปีออกกำลังกาย ก็จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยถึง 20 ปี
ความน่าสนใจของงานวิจัยเกี่ยวกับการเอ็กเซอร์ไซส์ดังกล่าว นับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะนำไปใช้ในการรักษาความสมดุลให้กับสมอง เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมโดยไม่ต้องใช้ยา
ด้านศาสตราจารย์ยาโคว์ สเทิร์น ผู้วิจัยจากสถาบัน Taub ที่เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์และสมองผู้สูงอายุ ภายใต้มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก กล่าวว่า “เมื่อผู้คนมีอายุมากขึ้น ทักษะการคิดจะลดลง” ดังนั้นการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง อีกทั้งช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้เช่นกัน
ศาสตราจารย์ยาโคว์กล่าวอีกว่า “เราพบว่าผู้เข้าร่วมทดสอบที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่อวัยวะทุกส่วนทำงานได้เป็นอย่างดี แต่ยังเพิ่มความหนาให้กับสมองชั้นนอก หรือสมองส่วนที่เรียกว่าเนื้อสีเทา “Gray matter” นั่นเอง
ด้านการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารประสาทวิทยายังพบว่า “การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะกระตุ้นเซลล์ประสาทให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเส้นประสาทที่อยู่ในทำงานของการควบคุมอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย”
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่คุณหมั่นออกกำลังกาย ไม่เพียงแค่ทำให้สมองแข็งแรง แต่ยังช่วยให้คุณสามารถที่จะควบคุมพฤติกรรมความรู้สึกได้ อีกทั้งยังสามารถที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ และบรรลุเป้าหมายในสิ่งที่ได้ตั้งใจไว้อีกด้วย
ดร.ยาโคว์ สเทิร์น และเพื่อนร่วมงานของเขาได้ติดตามผู้เข้าร่วมวิจัย จำนวน 132 คน ที่อายุระหว่าง 20-67 ปี ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน อาทิ ผู้ที่ออกกำลังกายด้วยแอโรบิก หรือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อสัปดาห์ละ 4 ครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้าผู้เข้าร่วมทดสอบกลุ่มนี้มักจะออกกำลังกายด้วยการเดินบนลู่วิ่ง หรือปั่นจักรยานอยู่กับที่ กระทั่งการเอกเซอร์ไซส์บนเครื่องออกกำลังที่จำลองการเดินขึ้นบันได ซึ่งการวิจัยพบว่าการที่คนรักสุขภาพออกกำลังกายด้วยการยืดเส้นยืดสาย และการเบ่งกล้ามเนื้อ จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการออกกำลังอยู่กับที่ หรือประเภทลู่วิ่งในยิม มากกว่าถึง 2 เท่า หรือคิดเป็น 0.05 เท่า
สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ที่ออกกำลังด้วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อ กระทั่งการเบ่งกล้ามเป็นประจำ จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายคิดเป็น 0.25 คะแนน
นั่นหมายความว่าผู้ที่ออกกำลังด้วยกีฬาทั้ง 2 ประเภท โดยเฉพาะในผู้ที่อายุ 40 ปี จะคิดเป็นคะแนนโดยเฉพาะอยู่ที่ 0.228 เท่า แต่ถ้าในกลุ่มคนอายุ 60 ปี ประโยชน์จากการเอกเซอร์ไซส์ทั้ง 2 รูปแบบเดียวกัน จะสูงกว่าถึง 2 เท่า หรือคิดเป็น 0.596 คะแนน นั่นเป็นเพราะว่าทั้งการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และการเบ่งกล้าม เป็นกีฬาที่เหมาะสมกับร่างกายของคนสูงวัย หรือไม่ได้หนักมาก ไม่อันตราย แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่า เนื่องจากคนสูงวัยจะบริโภคในปริมาณที่น้อยลง
นักวิจัยคนเดิมกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “สำหรับค่าความแตกต่างของประโยชน์ที่ผู้สูงอายุอายุ 60 ปี ได้รับจากการออกกำลังกายทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าว ที่สูงถึง 0.5 เท่า ถ้าเทียบกับคนอายุ 40 ปี ซึ่งนัยสำคัญจากการออกกำลังกายที่เหมือนกันของคน 2 วัย ยังสะท้อนให้เห็นว่า อันที่จริงแล้วการหมั่นเอกเซอร์ไซส์สม่ำเสมอย่อมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการคงความอ่อนเยาว์กว่าวัยนั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่าคนอายุ 40 ปี ก็จะหน้าเด็กลงไป 10 ปี ส่วนคนอายุ 60 ปีก็จะดูอ่อนกว่าวัยถึง 20 ปี”
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมทดสอบงานวิจัยดังกล่าวยังไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ หรือมีภาวะสมองเสื่อมอยู่ก่อนแล้ว เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ประโยชน์ที่ได้รับจากการออกกำลังกายทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมามีค่าเฉลี่ยค่อนข้างต่ำ
กล่าวได้ว่ากลุ่มกีฬาแอโรบิก และการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เป็นสิ่งที่คนทุกเพศทุกวัย และคนทุกระดับการศึกษา สามารถออกกำลังกายได้ และยังเป็นสิ่งที่ช่วยฝึกความจำและทักษะความคิด ตั้งแต่ที่คุณเริ่มหันมาออกกำลังด้วยกีฬาประเภทดังกล่าว
ดร.ยาโคว์ สเทิร์น กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการวัดสมรรถภาพการออกกำลังด้วยชนิดกีฬาแอโรบิกในยิม อย่างการปั่นจักรยานอยู่กับที่ เรียกว่า ergometer ร่วมกับการทำการสแกนสมอง หรือ MRI ตั้งแต่เริ่มต้นและสิ้นสุดผลการวิจัย เพื่อทำให้ทราบถึงการพัฒนาของสมองจากการออกกำลัง สะท้อนให้เห็นว่า สิ่งนี้ชี้ให้เห็นความหนาของเนื้อสมองชั้นนอก หรือสมองส่วนเนื้อสีเทา ได้เพิ่มจำนวนขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ด้านหน้าซ้าย เมื่อออกกำลังกายในกลุ่มแอโรบิกทุกกลุ่ม ซึ่งบ่งบอกว่ามันมีส่วนช่วยในการออกกำลังกายสมองของคนทุกวัย หรือพูดง่ายๆ ว่า งานวิจัยของเรายืนยันว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อผู้ใหญ่ทุกคน”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |