อานิสงส์เลือกตั้ง ดัชนีผู้บริโภคพุ่ง ฟื้นรอบ5เดือน


เพิ่มเพื่อน    


    ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.ฟื้นตัวในรอบ 5 เดือน หลังกำหนดวันเลือกตั้ง จีนกลับมาเที่ยวไทย สงครามการค้าส่อคลี่คลาย ขณะที่ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าสดใส ปรับเพิ่มขึ้น 25.07%
    เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจประชาชนทั่วประเทศ 2,247 คน เกี่ยวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยประจำเดือน ม.ค.2562 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (CCI) เท่ากับ 80.7 เพิ่มจาก ธ.ค.2561 ที่ 79.4 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันเท่ากับ 54.5 เพิ่มจาก 53.4 และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตเท่ากับ 92.3 เพิ่มจาก 90.8 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเท่ากับ 67.7 เพิ่มจาก 66.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานเท่ากับ 75.8 เพิ่มจาก 74.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 98.7 เพิ่มจาก 97.3
    สาเหตุที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวในรอบ 5 เดือน มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ ความชัดเจนในเรื่องของวันเลือกตั้ง หลังจากมีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.2562 นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น หลังจากไทยยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า  และสัญญาการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีน เพื่อแก้ไขปัญหาสงครามการค้าช่วงเดือน ม.ค. มีทิศทางคลี่คลาย รวมถึงสำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2562 จะขยายตัว 4% เป็นต้น
    ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามปัจจัยลบที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยเฉพาะกรณีของการออกจากสหภาพยุโรปของเครือสหราชอาณาจักร (เบร็กซิต) ที่หากยังยืดเยื้อและไม่มีแผนชัดเจน จะทำให้เศรษฐกิจยุโรปเติบโตไม่โดดเด่น รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่มีราคาตกต่ำในรอบ 3-5 ปี ทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน ที่ทำให้กำลังซื้อของกลุ่มฐานรากยังไม่ฟื้นกลับมา หรือรายได้ยังกระจุกตัวอยู่กลับคนบางกลุ่ม ทำให้เศรษฐกิจยังไม่ดีในสายตาผู้บริโภค เพราะค่าดัชนียังต่ำกว่า 100
    “เดือน ม.ค. มีสัญญาณบวก เพราะเศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานดี ทำให้ความเชื่อมั่นไม่ทรุดตัว ประกอบกับมีสัญญาณที่ดีจากการเลือกตั้งที่คาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 จากเงินสะพัดในช่วงของการหาเสียง 3-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยทำให้จีดีพีไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 0.3-0.5% ทำให้จีดีพีไตรมาส 1 จะเติบโตได้ประมาณ 4%” นายธนวรรธน์ระบุ
    สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ศูนย์ยังคงคาดการณ์การเติบโตไว้ที่ 4-4.2% ภายใต้สถานการณ์สงครามการค้าโลกคลี่คลาย หลังจากจีนแก้ไขการขาดดุลการค้าให้สหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ รวมถึงเบร็กซิตมีทางออกที่ดี และหลังการเลือกตั้งมีความชัดเจนเรื่องพรรคการเมืองที่จะมาจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงบรรยากาศในช่วงเดือน พ.ค. ที่จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และค่าฝุ่น PM 2.5 ไม่มีปัญหารุนแรง ทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นตามลำดับ
    ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) กล่าวถึงผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุน เดือน ก.พ.62 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.07% มาอยู่ที่ระดับ 116.76 เป็นเดือนแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นกับสถานการณ์การเมืองที่กำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนและภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง แต่ยังติดตามความคืบหน้าผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน
    นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ สิ้นเดือน ม.ค.62 ปิดที่ 1,641.73 จุด เพิ่มขึ้น 5% จากสิ้นปี 61 และพบว่านักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 6,581 ล้านบาท ถือเป็นทิศทางเดียวกับตลาดส่วนใหญ่ในเอเชีย เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการเจรจาเงื่อนไขทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และความชัดเจนการกำหนดวันเลือกตั้งของไทย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"