หมอเผยพริตตี้ที่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราหลังไปนวดแผนโบราณ อาการทรุด พบติดเชื้อในทางเดินหายใจหลังสมองเสียหาย ตำรวจยังต้องรอความเห็นจากสาธารณสุขก่อนแจ้งข้อหาใคร กรมแพทย์แผนไทยชี้ คนท้องหากนวดรีดกล้ามเนื้อน่องอาจส่งผลให้มีลิ่มเลือดวิ่งไปที่ปอดหรือสมองได้ ยิ่งอันตรายสำหรับคนท้องก่อนถึง 3 เดือน และ 6 เดือนขึ้นไปห้ามนวดเด็ดขาด หรือการนวดกล่อมท้องเพื่อให้เด็กคลอดง่าย ก็ต้องทำโดยหมอที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเท่านั้น
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เดินทางไปตรวจร้านนวดแผนไทย ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ หลังนายบุญมี เกษเกษี ออกมาขอความเป็นธรรมกรณี น.ส.วิราวรรณ เกษเกษี อายุ 26 ปี ลูกสาว ซึ่งเป็นพริตตี้และตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน ไปใช้บริการนวดแล้วเกิดช็อกหมดสติ และแท้งลูก ส่วนตัวเองกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราจนถึงขณะนี้ โดยพบว่าร้านนวดดังกล่าวเป็นของชมรมผู้สูงอายุ มีใบอนุญาตประกอบกิจการนวดแผนไทยและแผนโบราณ รวมทั้งใบรับรองมาตรฐานสถานประกอบการเพื่อสุขภาพจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้พบว่าทางร้านได้ติดป้ายแจ้งผู้มารับบริการนวดต้องแจ้งปัญหาสุขภาพก่อน โดยโรคที่มีความสุ่มเสี่ยงอาจมีผลกระทบหากรับบริการนวด คือ โรคเบาหวาน ความดันสูงหรือต่ำ เส้นเลือดขอด โรคหัวใจ กระดูกพรุน ตั้งครรภ์ และได้รับการผ่าตัดภายใน 6 เดือน จากการสอบถามทราบว่าหมอนวดที่เป็นคนนวดให้ น.ส.วิราวรรณ ยังมาทำงานตามปกติ
จากนั้น พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ได้เดินทางไปยัง รพ.ลานนา อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อสอบถามอาการของ น.ส.วิราวรรณ ที่ยังนอนอยู่ในห้องไอซียู ซึ่งแพทย์แจ้งว่าอาการยังโคม่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา อีกทั้งสมองยังเสียหาย ล่าสุดพบว่ามีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ยังได้เดินทางไปยัง สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี ก่อนจะเปิดเผยว่า หลังญาติไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันและรับเป็นคดีไว้แล้ว และได้มีการสอบปากคำหมอนวดและญาติไปแล้วส่วนหนึ่ง จากนี้จะขอดูอาการของผู้ป่วย และขอความเห็นจากแพทย์ผู้ทำการรักษาและทางสาธารณสุข แล้วจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกัน ซึ่งหากผลทางแพทย์และทางสาธารณสุขระบุว่าผิดอย่างไร ตำรวจก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันเดียวกัน นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองโฆษกกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวกรณีนี้ว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเพียงพอ ทราบว่าผู้ป่วยไปนวดฝ่าเท้า แต่ไม่รู้ว่าเป็นลักษณะอย่างไร เพราะถ้าแค่นวดฝ่าเท้าเพียงเท่านั้นไม่ค่อยมีปัญหา แต่บางทีร้านนวดบางแห่งมักแถมโดยการนวดรีดกล้ามเนื้อไปตามน่อง ซึ่งโดยหลักแล้วหญิงตั้งครรภ์มดลูกจะใหญ่ขึ้น จะไปกดเส้นเลือดที่อยู่ในท้อง ซึ่งเป็นส่วนที่ต่อมายังบริเวณน่อง บริเวณขา ทำให้จะมีเลือดไปตกค้างอยู่ ไหลเวียนไม่สะดวก อาจมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในเส้นเลือดได้ หากไปนวดเค้นก็อาจเกิดปัญหา ลิ่มเลือดอาจหลุดออกมาวิ่งไปที่ปอด ไปที่สมอง แต่ตามข่าวข้อมูลยังไม่เพียงพอ ทำให้ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
“เราต้องไปดูก่อนว่าร้านนวดที่ไปรับบริการเป็นร้านนวดที่ขออนุญาตเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และเกี่ยวกับบุคลากร หรือหมอนวด เป็นผู้ที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เพราะปกติสถานประกอบการที่เป็นร้านนวด หมอนวดต้องผ่านการอบรมหลักสูตรอย่างน้อย 150 ชั่วโมง” นพ.ขวัญชัยกล่าว
นพ.ขวัญชัยกล่าวว่า การนวดไทยเป็นองค์ความรู้จากบรรพบุรุษของเรา ใช้องค์ความรู้มาเป็นพันๆ ปี ปรากฏในเอกสารกฎหมายตราสามดวง มีตั้งแต่สมัยอยุธยา มีกรมนวดฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวา เสนาบดีดูแลกรมนวดมีศักดินาสูง เห็นได้ว่าในสมัยโบราณก็มีการใช้การนวดไทยในการดูแลสุขภาพของคนไทยมาแต่โบราณแล้ว ซึ่งการนวดไทยจะเป็นการบำบัดรักษาโดยพื้นฐานของเส้นประธานสิบ เป็นเส้นทางเดินของพลังงาน หรือเส้นทางเดินของเลือดและลม เป็นการแก้ไขปัญหาการอุดตัน การเดินไม่สะดวกของลม ดังนั้น ผู้ที่จะเป็นหมอนวด จะทำการบำบัดรักษาได้ ต้องมาเรียนรู้บนพื้นฐานเส้นประธานสิบ ซึ่งเรามีหลักสูตรเบื้องต้นคือ 150 ชั่วโมง ซึ่งร้านนวดทั้งหลายต้องผ่านหลักสูตรนี้เป็นอย่างน้อย ซึ่งจะเป็นการนวดเพื่อผ่อนคลาย ถัดขึ้นไปจะเป็นการนวดเพื่อบำบัดอาการ 20 กลุ่มอาการ 330 ชั่วโมงขึ้นไป และถัดขึ้นไปเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเป็นแพทย์แผนไทย ต้องอบรมอย่างน้อย 800 ชั่วโมง และยังมีหลักสูตรต่อยอดขึ้นไปอีก 1,300 ชั่วโมง เรียกว่าปริญญาเอก ดังนั้นการนวดจึงเป็นเรื่องที่ต้องอบรม ต้องผ่านการรับรอง ซึ่งมีทั้งประโยชน์และมีความเสี่ยง หากทำโดยคนไม่มีความรู้ก็จะเสี่ยงอันตรายได้
"ข้อแนะนำหญิงตั้งครรภ์สามารถนวดได้ เพียงแต่ต้องเลือก เพราะเมื่อตั้งครรภ์ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง จึงต้องเลือกอย่างเหมาะสม ดังนั้น หากอายุครรภ์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึง 3 เดือน ไม่ควรนวด เพราะการนวดจะกระตุ้นให้มดลูกรัดตัว เสี่ยงแท้งลูกได้ แต่หากเกิดอาการเจ็บป่วยและจำเป็นต้องนวดจริงๆ ต้องไปนวดกับหมอแผนไทย อย่านวดตามร้านทั่วไป ส่วนอายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไป มดลูกจะไปกดเส้นเลือดดำ เส้นเลือดแดง ไปกดในท้อง ในลำไส้ ก็ไม่ควรไปนวดร้านนวดทั่วไปเช่นกัน หากจำเป็นก็ต้องเป็นหมอแผนไทยที่มีการร่ำเรียนมา 800 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย สรุปคือ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ช่วงก่อน 3 เดือน และ 6 เดือนขึ้นไปไม่ควรนวด แต่ระหว่างช่วง 3 เดือนถึง 6 เดือนอาจนวดได้ แต่ย้ำว่าต้องไปนวดกับแพทย์แผนไทยที่ผ่านการอบรมเท่านั้น” นพ.ขวัญชัยกล่าว
รองโฆษกกรมการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวอีกว่า การนวดกล่อมท้องก็มีการทำในสมัยโบราณ เพื่อให้เด็กในครรภ์อยู่ในท่าที่เหมาะที่จะคลอด ซึ่งผู้ทำต้องเป็นหมอพื้นบ้านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมการแพทย์แผนไทยฯ เท่านั้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |