6ก.พ.62- เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) - เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และแกนนำเยาวชนกว่า 30 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) เป็นผู้รับเรื่อง
โดยนายวันชัย พูลช่วย เลขานุการเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า ทางกลุ่มของตนได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกเพื่อให้ ศธ.ตรวจสอบและดำเนินการกับโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย(แผนกมัธยม) ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่พบว่ามีการจัดกิจกรรมลานเบียร์ กลางสนามโรงเรียน โดยนำหลักฐานเป็นภาพถ่าย คลิปวีดีโอ ยื่นร้องเรียนเอาผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และขัดต่อประกาศ ศธ. เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้จัดงาน “ปิ๊ก มงฟอร์ตบ้านเฮา ครั้งที่ 28” ขึ้น ภายในงานมีกิจกรรมแสดงคอนเสิร์ต มีการจัดตั้งโต๊ะลักษณะเป็นเหมือนลานเบียร์และตั้งร้านค้าจำหน่ายอาหาร รวมทั้งจัดให้มีการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายยี่ห้อทั่วบริเวณงาน เครือข่ายฯ จึงมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะปัจจุบันรัฐบาลได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 ในการควบคุมร้านเหล้ารอบสถานศึกษา (โซนนิ่ง) มีการดำเนินงานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่และลดปัญหาสังคม แต่ในทางปฏิบัติพบสถานศึกษากลับกระทำการที่เข้าข่ายความผิดตามกฏหมายเสียเอง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง และส่วนใหญ่มักจะอ้างข้อยกเว้นงานเลี้ยงตามประเพณี แต่ในข้อเท็จจริงมีเพียงงานแต่งงานและพิธีการทางการทูตเท่านั้น
“ทางเครือข่ายฯ ขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อ ศธ. ดังนี้ 1. ขอให้ตรวจสอบการกระทำของฝ่ายจัดงานและผู้บริหารสถานศึกษาที่มีการจัดงานให้มีการจำหน่ายและและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภายในโรงเรียนดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ 2.ขอให้กระทรวงเข้มงวดกับสถานศึกษาที่อยู่ในกำกับดูแลทุกแห่งไม่ให้มีการกระทำผิด และ 3 ขอให้ทางกระทรวงเร่งประชาสัมพันธ์กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาทุกฉบับ เพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษามีความเข้าใจและไม่กระทำผิดลักษณะเช่นนี้อีก”เลขาฯ เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าว
ด้านนายชลำ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ทางศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เชียงใหม่ ได้แจ้งไปโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย(แผนกมัธยม) เพื่อให้ชี้แจงกรณีดังกล่าว และทางโรงเรียนได้รายงานว่ามีสมาคมศิษย์เก่ามาขออนุญาตใช้สถานที่ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว และทางโรงเรียนก็อนุญาตให้ใช้ทุกปีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในหนังสืออนุญาตได้มีการกำชับ ว่า ห้ามมิให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ดังนั้นตนคิดว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะต้องลงไปตรวจสอบในวันที่มีกิจกรรมและเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ทางโรงเรียนได้ดำเนินการอย่างไรบ้างในขณะนั้น และจากกรณีนี้ตนเชื่อว่าจะเป็นตัวอย่างให้สังคมตระหนักว่าทุกคนเกี่ยวข้องหมด เพราะใครก็ตามที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงเรียนถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด รวมถึงจะประชาสัมพันธ์รณรงค์เรื่องนี้ในวงกว้างด้วย เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน อีกทั้งจะมีการกำชับไปยัง ศธจ.ทุกจังหวัดให้มีการดูแล และสร้างความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวด้วยว่าการจะอนุญาตให้มีการใช้สถานศึกษาจัดกิจกรรมอะไรนั้น จะต้องไม่ละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
“ในกฎหมายหลายฉบับระบุเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน เช่น ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่กำหนดไว้ว่าห้ามให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษาตามพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฯ นั้นหมายรวมถึงสถานศึกษาทุกประเภทจะต้องปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกกรณี และยังไม่สามารถจำหน่าย จ่าย แจก ได้ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ หากกิจกรรมใดที่มีความไม่ชัดเจนทางโรงเรียนก็ไม่ควรที่จะอนุญาตให้ใช้สถานที่ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของโรงเรียน และตัวเด็กด้วย”เลขาฯ กช.กล่าว และว่า ทั้งนี้ตรวจสอบแล้วพบว่าผิดจริง ในกรณีที่การอนุญาตให้ใช้สถานที่ทางผู้บริหารโรงเรียนจะต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว และตามกฎหมายถือว่ามีความผิดทางอาญาด้วย ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คงต้องสอบหาข้อเท็จจริงว่าความผิดอยู่ในระดับใด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |