" Manuel Lütgenhorst "ในความทรงจำและมิตรภาพกับโลกศิลปะ    


เพิ่มเพื่อน    

    มานูเอล ลุทเกนฮอสท์ (Manuel Lutgenhorst) ผู้มีความคิดสร้างสรรค์  พรสวรรค์การจินตนาการจากประเทศเยอรมนี ทำให้เขาเริ่มทำงานในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับออกแบบตั้งแต่ปี 2511 จากการเป็นนักออกแบบเสื้อผ้า และออกแบบแสง จนกระทั่งในปี 2521 เขาได้เข้าสู่วงการละครเวที คอนเสิร์ต  รับหน้าที่ออกแบบฉาก กำกับศิลป์ และไต่ระดับมาจนเป็นผู้อำนวยการสร้าง   การเริ่มเข้าสู่อาชีพนี้ทำให้เขาได้เดินทางไปทำงานไปเกือบทั่วโลก ไม่ว่า อเมริกา อินเดีย เกาหลี อินโดนีเซีย และไทย เพื่อเรียนรู้ จนทำให้เขาประสบความสำเร็จในงานที่ทำเป็นที่ยอมรับจากผู้คนมากมาย 


    แม้ในวันนี้ มานูเอลจากไปกว่า 1 ปี แต่ทุกอย่างที่เขาได้สร้างและทุ่มเทกับงาน ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ที่เคยได้ร่วมงานกับเขา 


     เพื่อรำลึกถึงเขา "เลออนฮาร์ด ลุทเกนฮอสท์  "บุตรชายของ มานูเอล ลุทเกนฮอสท์ จึงได้จัดงาน นิทรรศการ "Manuel Lütgenhorst : ในความทรงจำและมิตรภาพกับโลกศิลปะ"  ที่จะบอกเล่าเกี่ยวประวัติ เรื่องราวศิลปการแสดงในสาขาต่างๆ รวมถึงภาพผลงานการออกแบบงานศิลป์ของมานูเอล ทั้งที่เยอรมัน อเมริกา อินเดีย เกาหลี อินโดนีเซีย และไทย


     นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม การอ่านบทละครเรื่อง Death and the Maiden  การแสดงละครเวทีฟอลคอน  การฉายภาพยนตร์ไทยเรื่องวิถีคนกล้า ที่มานูเอลมีส่วนร่วม รวมทั้ง ฉายบันทึกการแสดงสดละครเพลง อยากเห็นท้องฟ้าเป็นอย่างในฝัน และ สู่ฝันอันยิ่งใหญ่  และงานแสดงสดวาระต่างๆในประเทศไทย และกิจกรรมการเสวนาในหัวข้อต่างๆ โดยผู้มีความรู้ความชำนาญในสาขานั้นๆ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้แล้วตั้งแต่วันนี้ -  10 กุมภาพันธ์ 2562 ณ ห้องสตูดิโอ ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร 

การแสดงบนเวที ที่เป็นผลงานในอดีตของมานูเอล และเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ


    มานูเอล นับว่าเป็นบุคคลเบื้องหลังที่สำคัญ และมีความตั้งใจในการทำงานอย่างทุ่มเท จากรางวัลและสิ่งที่เขาได้สร้างไว้ อาทิ งานออกแบบฉากในเรื่อง รีเควส คอนเสิร์ต ของ โจแอน อคาไลติส ทำให้เขาได้รับรางวัล โอบี อวอร์ด ปี 2524  และในปี 2534 ได้รับรางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยมและตุ๊กตาทางพระราชทาน ในเรื่อง วิถีคนกล้า
     นอกจากงานออกแบบเขายังได้เป็นผู้อำนวยการสร้าง กำกับและออกแบบเรื่อง รีเควส คอนเสิร์ต โดย ฟรานซ์ ซาเวียร์ เคิร์ทซ์ ในเมืองมุมไบ กัลกัตตา และเจนไน ประเทศอินเดีย  โลดแล่นไปสู่เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และโซล ประเทศเกาหลีใต้     
    การทำงานในประเทศไทย ทำให้เขาได้เรียนรู้วัฒนธรรมและการทำงานในประเทศไทยกับคณะละครสองแปด  จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ฯลฯ ก่อตั้งบ้านศิลปะ โบน่า ในบาหลี และยังเป็นผู้ริเริ่มจัดงาน BBB เทศกาลศิลปะการแสดงนานาชาติในบาหลี เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และเบอร์ลิน และโครงการสุดท้ายของเขาในปี 2541 กับโครงการ อันเดอร์ อาฟเตอร์ อินบีทวีน  และออกแบบงานละครครั้งสุดท้ายในปี 2558 เรื่อง ขบวนการนกกางเขน ละครโอเปร่าเด็ก ที่กำกับโดย รัศมี เผ่าเหลืองทอง 

เลออนฮาร์ด บุตรชายของมานูเอล ทีจัดนิทรรศการรำลึกถึงพ่อ


    เลออนฮาร์ด  ได้เล่าถึงความตั้งใจในการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ว่า ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความตั้งใจของตนเพียงอย่างเดียว แต่ทุกอย่างจะเกิดขึ้่นไม่ได้เลย หากไม่มีเพื่อนในวงการของพ่อที่ยอมทุ่มเท คิดและสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆเหล่านี้ขึ้นมา ทั้งยุทธนา มุกดาสนิท, รัศมี เผ่าทองเหลือง,สันติ จงมั่นคง, บุษยา ดาวเรือง, บุรณี รัชไชยบุญ, วิลัดดา วนดุรงค์วรรณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ตนได้เห็นอีกว่าพ่อไม่เคยไปไหนไกล แต่ยังอยู่ใกล้ๆเสมอ ด้วยผลงาน หรือสิ่งที่ได้สร้างไว้ นิทรรศการครั้งนี้ จึงได้ออกแบบมาให้อยู่ภายในห้องๆเดียว ด้วยการเล่าเรื่องด้วยภาพ ที่พ่อได้ให้ตนไว้เป็นครั้งสุดท้ายกว่า 4 หมื่นภาพ แต่คัดมาให้เหลือกว่า 1 พันภาพ มาจัดแสดงนิทรรศการ และการบอกเล่าไทม์ไลน์การทำงานในแต่ละประเทศ และภายในห้องยังมีกิจกรรมเสวนา หรือฉายภาพยนตร์ไปด้วยได้ และเชื่อว่าใครที่ได้เข้ามาชมจะสามารถนำไปเป็นแรงบันดาลใจได้


    “พ่อเป็นพ่อที่ไม่เคยบังคับให้ผมทำอะไร แต่จะเน้นถามเยอะๆ เพื่อให้เราได้คิดเอง หรือการเลี้ยงดูของพ่อตั้งแต่เด็ก ซึ่งตอนนั้นผมได้เงินใช้เป็นรายเดือน แล้วทำเงินหาย หากเป็นครอบครัวอื่นๆ อาจจะมีว่าบ้างและได้เงิน แต่สำหรับตนพ่อจะสอนให้รับผิดชอบเอง คือใช้เงินที่มีอยู่ให้ได้ หรือในมุมทำงาน พ่อจะทำงานตลอดทุกวันในห้องของเขา ไม่มีวันหยุด จะมีบ้างที่ไปเที่ยวกับครอบครัว จนกระทั่งพ่อป่วยเขาให้เวลากับครอบครัวเยอะมาก และดูแลรักษาตัวเองมาตลอดโดยไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ ทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสิ่งที่ตนเองอยากจะทำ ไม่มีใครมากำหนดชีวิต” ลูกชาย มานูเอล เล่าอย่างภูมิใจ

ผองเพื่อนที่เคยร่วมงานกับมานูเอล


    ด้าน ยุทธนา มุกดาสนิท ศิลปินแห่งชาติประจำปี  2560  ที่รู้จักกันในฐานะของผู้กำกับภาพยนตร์ นักเขียน และนักเขียนบทละครเวทีและภาพยนตร์ หนึ่งในเพื่อนสนิทของมานูเอล ได้เล่าความประทับใจให้ได้ฟังว่า กว่า 20 ปีที่เคยทำงานร่วมกับมานูเอล เพื่อนทุกคนต่างเคารพและยอมรับในฐานะของศิลปิน เพราะเขาสามารถที่จะสร้างงานอย่างเคลียร์ทุกประเด็นให้ชัดเจน และมักจะมีแง่มุมในการคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างจากคนอื่น หากใครเคยทำงานร่วมกับเขา จะเห็นในนิสัยส่วนตัวของเขานั้น เป็นคนที่น่ารัก ไม่เจ้าอารมณ์ แต่ก็จะมีความดื้อแอบแฝงอยู่ ซึ่งนั่นทำให้คนที่รักเขามีมากมาย และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อเขา อย่างในนิทรรศการจะเห็นว่ามีกิจกรรมฉายละครเพลง ละครเวที ซึ่งหากโดยปกติทั่วไปจะไม่มีการนำมาฉายซ้ำเด็ดขาดเพราะมันคือกฎเหล็กของละครเวที แต่สำหรับนิทรรศการที่เกิดขึ้นเพื่อมานูเอล ได้มีการนำละครเวทีที่เขามีส่วนร่วมกลับมาฉายอีกครั้ง แม้จะเสียใจแค่ไหน แต่ก็ต้องชอบคุณเขาด้วยที่ได้สร้างสิ่งเหล่านี้ให้เราได้เห็น และนำไปใช้ในการสร้างผลงานอื่นๆต่อไป 

ยุทธนา มุกดาสนิท ผู้กำกับชื่อดัง เพื่อนสนิทที่เคยร่วมงานกับมานูเอลมาแล้ว


    อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในนิทรรศการฯ สามารถเข้าชมได้แล้วตั้งแต่วันนี้- 10 กุมภาพันธ์ 2562 ตั้งแต่เวลา  เวลา 11.00 – 19.00 น. ณ ห้องสตูดิโอ ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือตรวจสอบตารางกิจกรรมต่างๆได้ที่ http://www.bacc.or.th/event/2230.html 

 


 
    
 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"