www.thaipost.net ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" Line ID:@thaipost เปิดฉากการหาเสียงเลือกตั้ง 2562 อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ 4 ก.พ. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับสมัครและจับหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งจะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ.นี้ บรรดาพรรคการเมืองต่างแห่พาผู้สมัคร ส.ส.เขต พื้นที่กรุงเทพฯ เดินทางมารอกันที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ตั้งแต่เวลาไก่โห่ ส่วนจังหวัดอื่นก็ไปตามสถานที่ราชการที่กำหนด เพื่อสมัครและจับหมายเลขผู้สมัครไว้ใช้เดินหาเสียงกันอย่างเต็มรูปแบบได้แล้ว ...0
ในวันนี้จึงชัดเจนแล้วว่า พรรคการเมืองใหญ่แต่ละพรรค ได้ส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในพื้นที่กรุงเทพฯ บ้าง เช็กกันได้ตั้งแต่บัดนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะส่งกันครบ 30 เขตของกรุงเทพฯ ให้สมศักดิ์ศรี ที่แปลกหน่อยเห็นจะเป็น “พรรคเพื่อไทย” ที่ขอส่งเพียง 22 เขต กับ “พรรคไทยรักษาชาติ” ที่ส่ง 8 เขต พรรคใหญ่แต่ไม่ส่งให้ครบ พอเอามาบวกกันถึงครบ คนไม่สนใจการเมืองอาจมองแปลก เอาจริงก็ไม่แปลกที่ใครๆ สนใจการเมืองก็รู้ว่าเป็น “พรรคพี่พรรคน้อง” ของเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งคู่ ใช้ยุทธวิธีสู้แบบใหม่ในระบบเลือกตั้งบัตรใบเดียวนั่นเอง ...0
“จาตุรนต์ ฉายแสง” ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ ปฏิเสธประเด็นการส่ง ส.ส.เพียง 8 เขต เป็นการฮั้วกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยระบุว่า “คงมีการมองแน่นอน แต่การเลือกตั้งไม่เหมือนกับการประมูล ซึ่งในการประมูลนั้นหากมีแค่ 2 ฝ่าย แล้วอีกฝ่ายยอมให้อีกฝ่าย อย่างนี้เรียกว่าฮั้ว แต่ในการเลือกตั้งที่พรรคไทยรักษาชาติส่งผู้สมัคร 8 เขต แล้วพรรคเพื่อไทยไม่ส่งใน 8 เขตดังกล่าวนั้น ไม่ได้หมายความว่าประชาชนต้องเลือก 2 พรรคนี้ ยังมีอีก 50 พรรคให้ประชาชนเลือก” ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลเช่นนี้จะใช้ได้ในทางการเมืองหรือไม่ หากใช้ไม่ได้แล้วโดนยุบพรรคขึ้นมา จะไปกันทั้งคู่เสีย หนักกว่าเดิม ...0
เทียบกับ “พรรคเพื่อชาติ” ที่มี “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. เป็นกองเชียร์ ยังใจถึงกว่า ด้วยการส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงทุกเขต ไม่ต้องสนใจจะไปทับเส้นทางพรรคไหน เรียกได้ว่าตั้งแต่เปิดตัวมา พรรคนี้ดูมีความอิสระจากระบอบทักษิณ มาเป็นเกาะกลางประชาธิปไตยมากขึ้น ผสมกับการชูภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ มีความเป็นไปได้ในการดึงคะแนนเสียงคนกลาง แต่อนิจจาเมื่อปรากฏข่าวว่าบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ในภาคอีสานและเหนือ จำนวน 15 คน มีความเป็นติ่งอย่างหนัก ด้วยการเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น “ทักษิณ–ยิ่งลักษณ์” เลียนแบบสองอดีตนายกฯ ระบอบทักษิณซะงั้น ...0
“จตุพร” กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “เป็นความเชื่อและเสรีภาพ เคารพในการตัดสินใจของแต่ละคน และคิดว่าการเปลี่ยนชื่อดังกล่าวผู้สมัครมีความเชื่อว่าจะเป็นที่จดจำของประชาชน ส่วนการตัดสินใจใดๆ ก็เป็นเรื่องของประชาชนในวันเลือกตั้ง” ก็จริงตามนั้น บรรดาผู้สมัครเปลี่ยนชื่ออาจคิดว่าการอาศัยชื่อบุคคลผู้เป็นที่รักของเขา-เธอจะช่วยได้ แต่ประชาชนย่อมคิดในอีกทางได้ว่า การมาเป็น ส.ส. คือการรับใช้ประชาชน คนรับใช้ประชาชนได้ต้องเริ่มจากการเคารพตัวเองด้วย ไม่ใช่ขาดความมั่นใจในตัวเองจนต้องใช้ชื่อผู้อื่น จะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้หรือ? ซ้ำยังทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคอาจถูกมองเป็นติ่งตามไปด้วยก็ได้ ...0
นายชาติสังคม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |