4 ก.พ.62 - นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวขณะนำผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ มาสมัครรับเลือกตั้งภายในมหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตตรัง ว่าวันนี้ตนมาเป็นกำลังใจให้ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 3 เขต พร้อมเป็นกำลังใจให้แก่นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ว่าที่ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ เนื่องจากเขตลดไปจำนวน 1 เขต ตนคิดว่าเรามาทำงานการเมืองเพราะเราชื่นชมระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พรรคประชาธิปัตย์ก็ยึดแนวนี้มาตลอดระยะเวลา 70 กว่าปี ในฐานะนักการเมืองเราอาสาสมัครเป็นผู้แทน ตนก็ดี ผู้สมัครทั้ง 3 เขตก็ดีมาด้วยความอาสาสมัคร ไม่ใช่ใครไปขอร้องให้มา เพราะฉะนั้นเมื่ออาสามาสมัครใจมาก็ตั้งใจทำงานเต็มที่เพื่อให้คนเลือก ไม่ใช่สมัยเดียว แต่ทุกสมัยที่ลงเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นต้องยึดความซื่อสัตย์สุจริต ทำงาน ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไรเราก็ทำหน้าที่ตลอด
“แม้กระทั่งในยุคที่ทหารยึดอำนาจ เราก็ไม่ว่างเว้นที่จะดูแลชาวบ้านมีปัญหา อะไรที่ชาวบ้านร้องเรียนให้เข้ามาทำ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยว่าเมื่อไม่มีการเลือกตั้ง เราก็ปล่อยไป ไม่ใช่อย่างนั้นเพราะเรารู้ว่าในสภาถึงแม้ว่ามีสภามาจากแต่งตั้ง แต่สมาชิกสภาแต่งตั้งเขาก็หวังดีกับบ้านเมือง เขาไม่เข้าใจปัญหาชาวบ้าน แต่เขาไม่รู้ว่าชาวบ้านเป็นอย่างไรเพราะเขาฟังตัวเลขรัฐบาล แต่เรารู้ในฐานะที่เจ้าบ้านบอกเศรษฐกิจเติบโตเราก็รู้ว่าชาวบ้านจนลงกว่าเดิมมาก” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวอีกว่า ตนได้ทำหนังสือไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึง 2 ครั้ง เพื่อให้รู้ว่าสถานการณ์ของเราเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่อยากให้ทราบว่าเมื่อเราชื่นชม เราพอใจระบบนี้เราต้องสนับสนุนโดยตลอด แต่การที่จะทำให้ไปรอดจริงๆนั้น ไม่ได้อยู่ที่ตัวรัฐธรรมนูญเป็นสาระสำคัญเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ผู้ปฏิบัติ เพราะฉะนั้นตอนที่เขาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราจะเห็นได้ชัดว่าผู้ร่างเขาเชิญตน นายจุรินทร์ และนายราเมศ ไป และพูดให้เขาฟังว่าในความเห็นของพวกเรานั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ตัวบทบัญญัติรัฐธรรมนูญไม่ใช่ตัวปัญหา แต่ว่าปัญหาเกิดที่ผู้ปฏิบัติเหตุที่มีปัญหา เพราะผู้ปฏิบัติไม่ยึดหลักประชาธิปไตยที่แท้จริง
“เช่น ภาคใต้ไม่ยึดหลักถูกเป็นถูกผิดเป็นผิด ไปใช้วิธีการนอกกฎหมาย ปัญหาต่างๆจึงกลายเป็นประเด็นใหม่ขึ้นมา มีองค์กรใหม่เกิดมา ทำให้ภาคใต้เราไม่สงบ อย่าไปโทษประชาชนที่ชุมนุม เพราะถ้าไม่มีประชาชนที่ชุมนุม ทรราชก็ครองเมืองตลอดไป เพราะทรราชสามารถซื้อองค์กรต่างๆได้หมดแล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งสื่อก็ถูกซื้อเกือบหมด เพราะฉะนั้นคนที่ตรวจสอบดูแลความถูกต้อง ไม่มีใครกล้าพูดกล้าเถียง เพราะฉะนั้นประชาชนองค์กรสุดท้ายที่จะมาคุ้มครองประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นเราให้ความเคารพการคิดของประชาชนในเรื่องต่างๆ โดยเราต้องทำหน้าที่ตอบสนองและยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตและปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด” นายชวน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีผู้สมัครหลายพรรค และมีการแข่งขันสูง และหลังการเลือกตั้งจะมีปรากฏการณ์ทางการเมืองอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นผลมาจากตัวรัฐธรรมนูญที่เขียนใหม่ รัฐธรรมนูญปี 60 คำนวณให้ทุกคะแนนเสียงมีผล เพราะฉะนั้นทุกพรรคก็จะได้ผู้แทนสมมติได้จังหวัดนี้ 1, 000 เสียง ได้จังหวัดนู้น 2,000 เสียง รวมทั้ง 77 จังหวัดแล้ว อย่างน้อยก็ต้องมีบัญชีรายชื่อ อาจจะไม่มีเขตเลือกตั้งเลยสักคนเดียว แต่ได้ระบบบัญชีรายชื่อมารวม แล้วก็จะมีผู้แทน 3 คน 4 คน 5 คน ก็จะมีส.ส.ในสภาหลายพรรค
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีพรรคการเมืองถึงกว่า 104 พรรค แต่ทราบว่าที่สามารถส่งได้จริงๆคงไม่ถึง ประมาณไม่เกินครึ่งหนึ่งของพรรคการเมือง เพียงแต่ว่าจะมีมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่จำนวน เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญซึ่งต่างจากเดิมมาก
นายชวน กล่าวอีกว่า ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น ต้องบอกประชาชนให้รู้ว่าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร เขาต้องใช้ดุลยพินิจว่าต้องการให้การเมืองเป็นอย่างไร เช่น ต้องการให้มีพรรคการเมืองหลายพรรคหรือไม่ หรือต้องการให้พรรคการเมืองมีน้อย หรือให้สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือต้องการหลายพรรค เพื่อให้เกิดหลายความคิดความเห็นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของประชาชน แต่ตนเชื่อว่าในยุคสมัยนี้ไม่ง่ายนัก หากใครจะมาหลอกชาวบ้าน เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงประชาชนก็เก่งขึ้น ฉลาดขึ้นรอบรู้มากขึ้น
“กระบวนการที่เราต่อต้านมาทุกครั้ง เช่น ระบบซื้อเสียง เจ้าหน้าที่จะได้ดูแลเชื่อว่า กกต.จะได้ดูแล ผมไม่ประเมินพรรคการเมืองอื่น แต่คิดว่าประชาชนเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจ ซึ่งประชาชนก็ไม่ได้ยึดพรรคหนึ่งพรรคใดตลอดไป หรือตลอดชีวิต ถ้าคนหนึ่งประพฤติไม่ดี ชาวบ้านเขาก็ใช้ดุลยพินิจดู เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นถ้านักการเมืองไม่ซื่อตรงต่อเขา ในเรื่องการประเมินยังประเมินได้ในใจ รอให้พรรคประกาศบัญชีรายชื่อและได้ประชุมร่วมกัน ขึ้นอยู่กับการบริหารพรรค และดูบรรยากาศการหาเสียงเป็นอย่างไร” นายชวน กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |