เลขาฯ กกต.เตือนหลังรับสมัคร ส.ส.เสร็จควรเลิกขบวนแห่ ยกคำพิพากษาศาลยืนยันชัดเข้าข่ายหาเสียงจูงใจด้วยการรื่นเริง กกต.กทม.ซ้อมใหญ่รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบ่งเขต มั่นใจพร้อมเต็มร้อย ย้ำรับสมัครได้ทุกพรรคไม่จำกัดแค่ 41 พรรคที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขครบ สะพัด "บิ๊กตู่" ไม่ปลื้มบัญชีรายชื่อ พปชร. เหตุนักการเมืองมีคดีติดโผเบอร์ต้นๆ "ไทกร" ปูดโพลสันติบาลตรงกับ กอ.รมน. 116 เขตภาคอีสาน พปชร.ได้รับแค่คนเดียว ทำให้ "ประยุทธ์" ลังเล "อนุทิน" สั่งผู้สมัคร ภท.ใน กทม.-ปริมณฑลห้ามจัดรถแห่ช่วยลดฝุ่นพิษ
เมื่อวันอาทิตย์ มีรายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีหนังสือลงวันที่ 1 ก.พ.2562 ถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร เรื่องแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดขบวนแห่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง โดยระบุว่า กกต.ได้มีการประชุมครั้งที่ 13/2560 เมื่อวันที่ 29 ม.ค. พิจารณาการจัดขบวนแห่ในวันสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งการแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี วันที่ 4-8 ก.พ.
โดยวันดังกล่าว หากมีการจัดขบวนหรือกองเชียร์ที่แสดงการสนับสนุนหรือให้กำลังใจแก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง เมื่อกระบวนการสมัครเสร็จสิ้นลงแล้ว ไม่ควรมีการจัดขบวนหรือกองเชียร์ออกจากสถานที่รับสมัครไปตามถนนตำบลหรือหมู่บ้านในลักษณะนี้อีก เนื่องจากเคยมีคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 คดีหมายเลขแดงที่ 3437/2551 และคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 คดีหมายเลขแดงที่ 929/2552 วินิจฉัยไว้ในทำนองเดียวกันว่า การจัดขบวนแห่และรถยนต์ติดแผ่นป้ายของผู้สมัครรับเลือกตั้งภายหลังการสมัครรับเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้วไปตามชุมชนโดยมีการแสดงดนตรีหรือการรื่นเริงใดๆ ถือเป็นการจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง อันเป็นการหาเสียงด้วยการจัดให้มีการรื่นเริง ซึ่งขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการรับสมัคร ส.ส.วันที่ 4 ก.พ.นี้ แนวทางการรับสมัครที่เกี่ยวกับพรรคการเมือง กรณีไม่มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในฐานข้อมูลสนง กกต. เพราะพรรคยังไม่ได้บันทึกข้อมูลเข้าไปในระบบให้ถือตามหนังสือเวียน ที่ 0015/86 ลงวันที่ 21 มกราคม 2562 ใช้สำเนาใบสมัครสมาชิกและใบเสร็จรับเงินค่าบำรุงพรรคแทนได้ ส่วนกรณีไม่มีข้อมูลสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนตามข้อมูลที่ สนง.แจ้งไป เนื่องจากพรรคยังไม่แจ้งต่อนายทะเบียน ให้ถือตามหนังสือเวียนที่ 0015/163 ลงวันที่ 30 มกราคม 2562 รับสมัครใว้ก่อนให้ถือตามแบบ ส.ส.4/8 ที่หัวหน้าพรรครับรอง
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) นางศิลปสวย ระวีแสงสรูย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และ น.ส.วิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ประจำกรุงเทพมหานคร ร่วมกันซักซ้อมการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยเป็นการทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารสมัครและการจับสลากในขั้นตอนต่างๆ พร้อมสาธิตวิธีการจับสลาก เพื่อให้การรับสมัครในระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับพื้นที่ภายในอาคารกีฬาเวสน์ 2 ถูกจัดแบ่งให้ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง เป็นโต๊ะรับสมัครเรียงตามเขตเลือกตั้ง 1-30 ฝั่งละ 15 เขตเลือกตั้ง โดยแต่ละโต๊ะจัดวางคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก เครื่องปรินเตอร์ 2 เครื่อง เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัคร ตลับสำหรับจับสลากโต๊ะละ 50 ชิ้น พานใส่สลาก พร้อมจัดเตรียมเก้าอี้นั่งสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้สมัคร ส่วนบริเวณโถงกลาง จัดวางเก้าอี้นั่งรองรับผู้ติดตามผู้สมัครของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียนและรับบัตรคล้องคอ เพื่อเข้ามาให้กำลังใจผู้สมัครภายในสถานที่รับสมัครได้เขตละ 1 คน ในส่วนของกองเชียร์และสื่อมวลชนจะขึ้นไปนั่งบนอัฒจันทร์ซึ่งมีความจุรองรับ 1,500 คน
ในการซ้อมใหญ่การรับสมัครรับเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงข้อกังวลเกี่ยวกับพรรคการเมืองนอกเหนือจาก 41 พรรค ที่ปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมายครบถ้วน จะสามารถส่งสมัครได้หรือไม่ โดยยืนยันและทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า หากผู้สมัครมีหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง หรือ 4/8 เจ้าหน้าที่ประจำเขตเลือกตั้งสามารถรับสมัครได้ทุกพรรค เพราะแต่ละพรรคยังมีเวลาปฏิบัติให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่กฎหมายกำหนด
กทม.พร้อมเต็มร้อย
นางศิลปสวยกล่าวว่า กทม.ยืนยันว่าเตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว ภายในสถานที่รับสมัครจัดเตรียมโต๊ะรับสมัครครบทั้ง 30 เขต โดยเจ้าหน้าที่จะแต่งเครื่องแบบข้าราชการพร้อมปฏิบัติงานตั้งแต่ 05.30 น. สำหรับผู้สมัครที่มาถึงก่อนเวลา 08.30 น. อย่าลืมมาลงทะเบียนเพื่อจับสลากหมายเลข เชือว่าโต๊ะรับสมัครที่ตั้งไว้ติดๆ กัน ทั้ง 30 เขต จะไม่เป็นอุปสรรคในการรับสมัครและจับสลากหมายเลข
ด้าน น.ส.วิชชุดากล่าวว่า ในส่วนของกองเชียร์และผู้ติดตาม ขอให้ระมัดระวัง ไม่กระทำการใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย โดยก่อนเวลา 08.30 น. สามารถเชียร์ ใช้รถแห่เปิดเพลงหาเสียงของพรรคการเมือง หรือไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดียได้ แต่เมื่อได้หมายเลขแล้วต้องหยุดเชียร์ทันที แล้วกลับไปหาเสียงในเขตของตัวเอง เพราะสถานที่รับสมัครเป็นเขตดินแดง ผู้สมัครของเขตดินแดงสามารถหาเสียงได้ แต่ต้องเป็นบริเวณภายนอกพื้นที่รับสมัคร ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย สน.ดินแดง จะรับผิดชอบทั้งหมด รวมถึงการนำเครื่องสแกนอาวุธมาติดตั้งเพื่อตรวจสอบผู้ที่จะเข้ามายังพื้นที่รับสมัคร
สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ที่ จ.นครราชสีมา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 4 ก.พ.นี้ เวลา 06.39 น. ตนเองพร้อมด้วยนายวิรัช รัตนเศรษฐ หัวหน้าทีมอีสานใต้ จะนำทีมผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค พปชร.ทั้ง 14 เขต ของ จ.นครราชสีมา ไปบวงสรวงและสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย และเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นตนเองจะนำคณะเดินทางไปยื่นใบสมัคร ณ สถานที่รับสมัครภายในสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ จ.นครราชสีมา
"ผมยังยืนยันคำพูดเดิมว่า สนามเลือกตั้งในภาคอีสานที่ผมรับผิดชอบ พรรคพลังประชารัฐจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกผู้สมัครของพรรคเราเข้าไปเป็น ส.ส.อย่างน้อย 60 ที่นั่ง โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา จะได้รับเลือกแบบยกทีม 14 ที่นั่งทั้งจังหวัด” นายสุริยะกล่าว
มีรายงานข่าวจากพรรค พปชร.ระบุว่า การพิจารณารายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในลำดับต้นๆ ของพรรค โดยเฉพาะลำดับ 1-10 ของพรรค นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อยู่ในลำดับที่ 1, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลำดับ 2, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ลำดับที่ 3, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ลำดับที่ 4, นายสันติ พร้อมพัฒน์ ลำดับที่ 5, นายสุพล ฟองงาม ลำดับที่ 6, น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ลำดับที่ 7, นายณัฐฏพล ทีปสุวรรณ ลำดับที่ 8, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ลำดับที่ 9 และนายเอกราช ช่างเหลา ลำดับที่ 10
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวระบุว่า ในส่วนของปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 11-20 ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนายทุนที่สนับสนุนพรรค และในลำดับที่ 20 เป็นต้นไปนั้น มีรายงานว่ารายชื่อยังไม่นิ่ง ทั้งนี้ แกนนำในพรรคบางคนมีการประเมินกันว่าพรรคจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 30 คนเป็นอย่างน้อย
มีการคาดกันว่าทางพรรคจะนำบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ยื่นสมัครต่อ กกต. พร้อมกับยื่นรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคในวันที่ 8 ก.พ.นี้
มีรายงานด้วยว่า กรณีที่กรรมการบริหารพรรคยังไม่สามารถสรุปรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการจัดลำดับรายชื่อบุคคลที่เป็นนายทุนให้พรรคยังไม่ลงตัว นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ที่อยู่ระหว่างพิจารณาตอบรับให้ พปชร.เสนอชื่อเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรคหรือไม่นั้น ได้พิจารณาโผรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องการให้มีนักการเมืองอยู่ในรายชื่อลำดับต้นๆ โดยเฉพาะในรายที่ยังมีคดีติดตัวอยู่
ทั้งนี้ หากดูจากรายชื่อใน 10 ลำดับแรก ปรากฏว่า มีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค อดีตแกนนำกลุ่ม กปปส., นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค อดีตแกนนำกลุ่ม กปปส. มีคดีร่วมกันเป็นกบฏ ยุยงปลุกปั่น อั้งยี่ ซ่องโจร มั่วสุมกันเกิน 10 คน ประทุษร้าย ขัดขวางการเลือกตั้ง ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ กรรมการสรรหาผู้สมัคร พปชร. อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ และอดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย มีคดีใน ป.ป.ช. โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหาทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอล ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษา จ.นครราชสีมา กับพวก จำนวน 56 แห่ง
ปูด พปชร.อีสานได้แค่ 1 เสียง
ขณะที่นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ต้องชนะก่อนจึงรบ” ใครคือ ส.ส.หนึ่งเดียวของพรรคพลังประชารัฐในอีสาน? เมื่อผลการทำโพลลับของสันติบาลไปตรงกันอย่างบังเอิญกับการสำรวจลับๆ ของ กอ.รมน. จาก 116 เขตเลือกตั้งในภาคอีสาน ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐที่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งมากที่สุด ชัวร์ที่สุดคือนายเอกภาพ พลซื่อ จากจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนตัวเต็งอื่นๆ อีกกว่า 10 คนของพรรคพลังประชารัฐต้องลุ้นกันจนวันสุดท้าย
"นั่นคือความไม่แน่นอนที่ทำให้แกนนำพรรคพลังประชารัฐรู้สึกหวาดหวั่นไม่มั่นใจ ความหวาดหวั่นนี้ลามไปถึงท่านผู้นำ จนเกิดการสะดุด ลังเล เป็นระยะ ท่านผู้นำต้องเคยอ่านตำราพิชัยสงครามซุนวู ซึ่งตอนหนึ่งระบุไว้ว่าแผนการรบที่ได้ประชุมวางแผนไว้จะชี้ให้เห็นถึงชัยชนะ แต่เมื่อยังไม่ได้รบกันก็เนื่องจากต้องพิจารณาทบทวนแผนการโดยละเอียดรอบคอบ ตรงกันข้ามลางแพ้จะปรากฏให้เห็นตั้งแต่ต้นเมื่อการวางแผนการรบไม่ละเอียดรอบคอบ ประสาอะไรกับสงครามซึ่งมิได้วางแผนการเอาเสียเลย ย่อมไม่เห็นทางแห่งชัยชนะ"
นายไทกรระบุว่า โดยสรุปคือต้องชนะก่อนจึงเข้าสู่สนามรบ ไม่ใช่รบไปหาทางชนะไป การเมือง การเลือกตั้ง คือสนามรบในอีกรูปแบบหนึ่ง หากไม่ชนะก่อนเข้าสู่สนามรบก็มีแต่แพ้กับแพ้เท่านั้นเอง..! #มึงมาไล่ดูสิ
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้นัดหมายกับคณะว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรคทั้ง 30 เขต ให้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าสำนักงานเขตดินแดง ถนนมิตรไมตรี เวลา 07.00 น. เพื่อเดินเท้าไปยังอาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ทำการสมัครลงรับเลือกตั้งในครั้งนี้ จากนั้นจะแยกย้ายลงพื้นที่ของตนเองโดยไม่มีขึ้นรถแห่แต่อย่างไร
ที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรค ปชป.เขต 5 นครศรีธรรมราช ซึ่งตั้งอยู่ในตลาดคลองจันดี หมู่ 4 ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองหน.พรรค ปชป.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป.เขต 5 นครศรีธรรมราช ได้เปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง โดยมีพิธีสงฆ์และประชาชนในพื้นที่มาร่วมพิธีจำนวนมาก
นายชินวรณ์กล่าวว่า พรรค ปชป.จะเปิดปราศรัยใหญ่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วภาคใต้ทั้งเขตที่ อ.ทุ่งสง ในวันที่ 9 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป โดยจะมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นายชวน หลีกภัย และขุนพลของพรรค ปชป. มาร่วมปราศรัยครั้งใหญ่อีกด้วย พร้อมมั่นใจภาคใต้ 50 เขต ปชป.จะกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้หมดทั้ง 50 เขต
นายเชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรค ปชป. ตอบโต้กรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวพาดพิงและตั้งคำถามถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา ปชป. ว่าพูดแต่เรื่องเดิม มาอวดอ้างเป็นผลงานล้มเหลวในการดูแลและไม่ได้พัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ว่า สิ่งที่กล่าวมานั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าประชาธิปัตย์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนไม่ว่าภาคไหน เราปฏิบัติเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะภาคใต้ นายจาตุรนต์คงลืมไปว่าถนนสี่เลนในภาคใต้เกิดขึ้นเพราะใคร และยังมีการสร้างโรงเรียน โรงพยาบาลหลายแห่ง รวมทั้งพัฒนาด้านการท่องเที่ยว สามารถทำให้ภาคใต้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก และที่สำคัญคือราคาพืชผลทางการเกษตรในยุคที่พรรคเป็นรัฐบาลราคายางพารา ไม่มีรัฐบาลไหนทำได้สูงเท่าเรา
“เราไม่ได้มุ่งพัฒนาแต่พื้นที่ภาคใต้ แต่เราดูแลพี่น้องประชาชนทั่วทุกภาคอย่างเท่าเทียม เราไม่เคยพูดว่าถ้าไม่เลือกเราแล้วจะไม่ได้งบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ เหมือนอดีตหัวหน้าพรรคบางพรรคเคยพูดไว้”
นายเชาว์กล่าวด้วยว่า สิ่งที่นายชวนหยิบยกมาทั้งเรื่องนมโรงเรียน เบี้ยผู้สูงอายุ หรือกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ก็ยังมีอยู่ในปัจจุบัน ขอถามนายจาตุรนต์ว่า กล้าพูดหรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์กับประชาชน ที่ผ่านมาพรรคไม่เคยแถลงจุดยืนว่าจะไปร่วมกับพรรคการเมืองใด และนายอภิสิทธิ์ก็ย้ำเสมอว่าเราจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ขอให้นายจาตุรนต์เล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ อย่าได้กล่าวพาดพิงโจมตีกันไปมา เพราะเป็นการเล่นการเมืองแบบเก่าๆ
ห้ามจัดรถแห่ลดฝุ่นพิษ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ที่จะเดินทางไปสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 4 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นวันแรกที่ กกต.เปิดรับสมัคร โดยขอให้ผู้สมัครของพรรคใน กทม.และปริมณฑล ห้ามจัดรถแห่ ห้ามจัดรถขบวนกองเชียร์ไปให้กำลังใจผู้สมัครของตัวเอง ในสถานที่สมัครรับเลือกตั้งและบริเวณใกล้เคียง เพื่อไม่สร้างมลพิษในอากาศ ช่วยกันลดปริมาณฝุ่นพิษ PM 2.5 ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมระบุ “ถ้าเราจะมาอาสาเป็นผู้แทนประชาชน มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชน สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน พร้อมกำชับเมื่อสมัครเสร็จแล้วให้กลับไปประชาสัมพันธ์ในเขตเลือกตั้งของตัวเอง นอกจากนี้นายอนุทินยังได้ให้กำลังใจลูกพรรค ขอให้โชคดีประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง ได้ทำประโยชน์เพื่อพี่น้องประชาชน
ด้าน น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ในฐานะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.เขต กทม.ของพรรค ตนได้กำชับให้ทุกคนดำเนินการตามแนวทางของนายอนุทิน เพื่อช่วยกันลดมลภาวะฝุ่นพิษไม่ซ้ำเติมปัญหาให้กับคนกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตามนโยบายพรรคที่หัวหน้าพรรคได้นำเสนอให้กับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ คือ นโยบาย Home office อยู่บ้านก็ทำงานได้ ในวันที่ 4 ก.พ.นายอนุทิน จะเดินทางไปให้กำลังใจผู้สมัครของพรรค ก่อนเวลา 08.00 น. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง
ที่สำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) น.ส.เยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรค ชพน. เปิดเผยว่า พรรคชาติพัฒนามีความพร้อมที่จะส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 4 ก.พ.พร้อมกันทั่วประเทศ โดยจะส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตจำนวน 275 คน และแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 64 คน และวันที่ 4 ก.พ. ผู้สมัครแบบแบ่งเขตของพรรค ชพน.จะเดินทางไปสมัครพร้อมกันทั่วประเทศ นำโดยคณะที่ปรึกษาพรรคและกรรมการบริหารพรรคนำทีมไปร่วมให้กำลังใจผู้สมัครทั่วทุกภาคของประเทศ
นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 5 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. ตนพร้อมผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค ประมาณ 20 คน จะยกทีมเดินทางไปสมัคร ที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ด้วยตัวเอง จนถึงขณะนี้มีความเชื่อมั่นว่า ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคจะได้มาจนถึงลำดับที่น่าพอใจ
ม.ร.ว.ดำรงดิศ ดิศกุล หัวหน้าพรรคภราดรภาพ กล่าวว่า ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภราดรภาพ จะส่ง 25 คน โดย 10 ลำดับแรก คือ 1.ม.ร.ว.ดำรงดิศ ดิศกุล 2.ร.อ.รชฏ พิสิษฐ์บรรณกร 3.นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ 4.พล.ท.สราวุธ กาพย์เดโช 5.พล.ท.ชุมพร วิเชียร 6.นายชัยภัฏ จันทร์วิไล 7.นายรัตนพัฒน์ ปีวิเศษกุลเดช 8.นายอนันต์ แพทยานนท์ 9.นายยงยุทธ แสงทองไพบูลย์ และ 10.น.พ.รวยลาภ เอี่ยมทอง
ส่วนระบบเขต ภาคกลาง 10 จังหวัด, ภาคอีสาน 9 จังหวัด, ภาคเหนือ 13 จังหวัด, ภาคใต้ 10 จังหวัด และกรุงเทพฯ 30 เขต
ที่ทำการสาขาพรรคครูไทย จังหวัดเลย ต.นาโป่ง อ.เมืองฯ จ.เลย นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน, ดร.สุวิชญ์ โยทองยศ เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ประชุมความพร้อมลุยการเลือกตั้ง หลังจากได้แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กว่า 400 คนทั่วประเทศ ใช้หลักการศึกษานำการเมือง “ครูสร้างคน ประชาชนสร้างชาติ” พร้อมลุยศึกเลือกตั้งครั้งนี้เต็มที่ โดยนายปรีดากล่าวว่า พรรคครูไทยได้เปิดตัวว่าที่ ส.ส.และระบบบัญชีรายชื่อครบ ส.ส.เขต ส่งครบ 350 เขต และบัญชีรายชื่ออีก 50 รวม 400 คน ถึงแม้ว่าเราจะเป็นพรรคเล็ก และจากการที่เราได้เดินพบปะประชาชนทั่วประเทศ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ที่ห้องประชุมโพนสวรรค์ โรงแรมพัก พิงอิงโขง ถ.นครพนม-ท่าอุเทน เขตเทศบาลเมืองนครพนม ดร.วิทยา อินาลา หัวหน้าพรรคเพื่อคนไทย ประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และพิจารณาบุคคลเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรค พร้อมผู้ที่สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค โดยในที่ประชุมสรุปเห็นชอบเสนอชื่อ ดร.วิทยา อินาลา หัวหน้าพรรค (อดีต ส.ว.นครพนม) เป็นนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังมีมติส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ "ปาร์ตี้ลิสต์" ทั้งหมด 20 คน ประกอบด้วย ลำดับที่ 1.ดร.วิทยา อินาลา หัวหน้าพรรค 2.นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ เลขาธิการพรรค 3.นายสุรพจน์ เพชรกรรพุม นายทะเบียนพรรค 4.นางรัตนาภรณ์ คงพราหมณ์ รองหัวหน้าพรรค 5.นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย ) ทรัพยสิทธิ์ ประธานที่ปรึกษาพรรค/อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย เป็นต้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |