การเมืองสิงคโปร์ชักจะสนุกขึ้นแล้ว
อยู่ดีๆ นักการเมืองอาวุโสอย่าง ตันเช็งบ็อก (Tan Cheng Bock) วัย 78 ก็ประกาศจะตั้งพรรคการเมืองฝ่ายค้านชื่อ Progress Singapore Party (PSP) หรือ "พรรคก้าวหน้าสิงคโปร์" เพื่อท้าทายพรรค PAP ที่ครองอำนาจมายาวนานตั้งแต่ประเทศได้เอกราชภายใต้การนำของนายกฯ หลี่เสียนหลง
ตันไม่ใช่ผู้สูงวัยที่อยากเล่นการเมืองธรรมดา หากแต่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งทีเดียว
เพราะเคยเป็นสมาชิกพรรค PAP และเคยสมัครแข่งประธานาธิบดีสิงคโปร์มาก่อน แต่ชวดตำแหน่ง นั่นก็แพ้คนของพรรครัฐบาล
แต่แพ้ด้วยคะแนนไม่มาก ทำให้เขามีสถานภาพในการเมืองสิงคโปร์พอสมควร
เพียงแค่นายตันประกาศตั้งพรรคก็อาจจะเป็นข่าวไม่ใหญ่โตนัก แต่เมื่อน้องชายของนายกฯ หลี่ที่ชื่อ หลี่เสียนหยาง (Lee Hsien Yang) ออกมาบอกกล่าวกับประชาชนคนสิงคโปร์ว่าเขาสนับสนุนนายตัน การเมืองของเกาะเล็กๆ แห่งนี้ก็ร้อนขึ้นมาทันที
เพราะใครๆ ที่สิงคโปร์ก็รู้ว่าพี่น้องสองคนนี้มีเรื่องระหองระแหงกันอยู่แล้ว
เป็นการทะเลาะอย่างเปิดเผยระหว่างนายกฯ หลี่ซึ่งเป็นพี่ชายคนโต กับน้องชายหลี่เสียนหยางและน้องสาวหลี่อ้ายหลิง ว่าด้วยบ้านหลังที่คุณพ่อ-ลีกวนยิวและภรรยาเคยพักพิงอยู่หลายสิบปี
บ้านหลังนี้กลายเป็นประเด็นพิพาทระหว่างพี่น้องตระกูลลี เพราะลีกวนยิวได้เขียนไว้ในพินัยกรรมและเคยพูดในที่สาธารณะหลายครั้งก่อนเสียชีวิตว่า หากเขาตายก็ขอให้รื้อบ้านหลังนี้เสีย เพราะไม่ต้องการปล่อยทิ้งเอาไว้เป็นสัญลักษณ์ว่าเขาต้องการจะสร้าง "ลัทธิบุคคล" ต่อเนื่อง
อีกทั้งลีกวนยิวก็บอกด้วยว่าที่ตั้งของบ้านหลังนี้อยู่ในเขตที่อยู่อาศัย มีราคาค่างวดแพงอยู่ ดังนั้น ถ้าขายทิ้งเสียแล้วเอาเงินเข้าหลวงก็น่าจะทำประโยชน์ได้มากกว่า
กลายเป็นเรื่องเมื่อนายกฯ หลี่ในฐานะพี่ชายคนโตบอกว่า ขอเอาเรื่องนี้ปรึกษาคณะรัฐมนตรีเพราะนายลีกวนยิวไม่ใช่แค่เป็นพ่อ แต่เป็นคนที่คนทั้งประเทศเคารพยกย่อง จะทำอะไรเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ควรต้องเป็นมติของรัฐบาล
เท่านั้นแหละน้องชายและน้องสาวของนายกฯ ก็ออกมาวิจารณ์ ว่าพี่ชายที่เป็นนายกฯ ได้ละเมิดความประสงค์ของคุณพ่อ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าหลี่เสียนหลงต้องการจะเก็บบ้านหลังนี้ไว้ให้ลูกตัวเองเพื่อเป็นการสืบสานอำนาจทางการเมือง
โต้กันไปมาอย่างร้อนแรงจนทำให้เกาะทั้งเกาะสั่นสะเทือนไประยะหนึ่ง
วันนี้อยู่ดีๆ หลี่เสียนหยางก็ประกาศว่านายตันที่กำลังจะต้องพรรคการเมืองใหม่เพื่อให้ประชาชนเลือกแทนพรรค PAP นั้น "เป็นผู้นำที่เหมาะสมสำหรับประเทศของเรา"
เท่ากับเป็นการตบหน้าพี่ชายของตัวเองที่กุมบังเหียนพรรค PAP
เท่ากับเป็นการยืนยันว่าความแตกแยกในครอบครัวลีวันนี้ ร้ายแรงถึงขั้นที่ไม่อาจจะพูดกันรู้เรื่องแล้ว
นายตันบอกว่าก่อนเขาตายต้องการจะทำงานเพื่อชาติอีกครั้ง เพราะเห็นว่าประชาชนคนสิงคโปร์ขาดที่พึ่งพิง
"ผมอายุ 78 แล้วเหลือเวลาน้อยแล้ว แต่ผมตั้งใจจะบ่มเพาะนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ทำหน้าที่ดูแลประชาชนต่อไป เพราะเราต้องการจะสร้างสิงคโปร์ที่เป็นประชาธิปไตยและมีความเอื้ออาทรต่อกันอย่างแท้จริง และเราต้องปกป้องเสรีภาพแห่งการเลือกและการแสดงความคิดเห็นอย่างจริงจัง" เขาประกาศในหน้าเฟซบุ๊กพร้อมกับบอกว่า
"ในตอนแรกเราต้องการจะเป็นเสียงทางเลือกของประชาชนในสภา จากนั้นเมื่อเราเจริญเติบโตได้ที่แล้วเราก็พร้อมจะปกครองประเทศ"
นายตันบอกว่าพร้อมจะทำงานกับพรรคฝ่ายค้านที่มีอยู่ในสิงคโปร์ทั้งหลายเพื่อสร้างพลังต่อรองกับพรรคใหญ่อย่าง PAP
ทุกวันนี้ในรัฐสภาสิงคโปร์มี ส.ส.ของพรรค PAP 83 คน และฝ่ายค้านของพรรค Workers’ Party หรือพรรคคนงานที่มีหัวหน้าพรรคชื่อ Low Thia Khiang 6 ที่นั่ง อันเป็นผลการเลือกตั้งทั่วไปและมีผลวันที่ 1 ตุลาคม 2015
วาระการอยู่ในตำแหน่งของ ส.ส.สิงคโปร์คือ 5 ปี ดังนั้นหากเป็นไปตามตารางปกติ การเลือกตั้งคราวหน้าก็จะมีขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า
แต่พอมีข่าวการขอตั้งพรรค Progress Singapore Party ใหม่ที่มีน้องชายนายกฯ หนุนหลังเท่านั้น ก็มีเสียงเล่าลือว่านายกฯ หลี่เสียนหลงอาจตัดสินใจยุบสภาเลือกตั้งก่อนสิ้นปีนี้เพื่อสกัดดาวรุ่งกันทีเดียว
หากเป็นเช่นนั้น ปีนี้การเมืองอาเซียนก็จะคึกคักยิ่ง เพราะจะมีเลือกตั้งทั่วไปถึง 4 ประเทศนั่นคือ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์
ที่สำคัญห้ามลืมเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2019 ในประเทศไทยเป็นอันขาด!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |